โค่นรูปปั้น “โคลัมบัส”
โค่นรูปปั้น “โคลัมบัส” ผู้ที่ทำให้ชาวยุโรปรู้จัก “ทวีปอเมริกา” และยังเป็นจุดเริ่มต้นของ “การล่าอาณานิคม” “คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส” เป็นนักทำแผนที่ นักสำรวจ นักเดินเรือ และพ่อค้า เกิดที่เมืองเจนัว ประเทศอิตาลี ภายใต้การสนับสนุนของราชสำนักสเปน เขาได้เดินเรือข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกและทำให้ชาวยุโรปรู้จักทวีปอเมริกาในซีกโลกตะวันตกเป็นผลสำเร็จ การเดินทางทั้งสี่ครั้งและความพยายามที่จะตั้งถิ่นฐานบนเกาะฮิสปันโยลาของโคลัมบัสยังเป็นจุดเริ่มต้นของการล่าอาณานิคมของสเปนและชาติมหาอำนาจอื่น ๆ ในทวีปยุโรปบน “โลกใหม่” อีกด้วย ในช่วงที่ “ลัทธิจักรวรรดินิยม” กำลังเริ่มขึ้นนั้น โคลัมบัสได้วางแผนการเดินทางไปยังอินเดียตะวันออกโดยเดินเรือมุ่งไปทางตะวันตก ด้วยเขามีความเชื่อว่าโลกมีรูปร่างเป็น “ทรงกลม” ความเชื่อนี้ขัดแย้งกับแนวความเชื่อในยุคนั้นว่าโลกนั้นมีรูปทรงแบน โคลัมบัสนำโครงการเดินเรือดังกล่าวไปเสนอต่อราชสำนักโปรตุเกส เพื่อขอทุนทรัพย์ในการแต่งกองเรือออกไปค้นหาความมั่งคั่งยังดินแดนไกลโพ้น แต่ถูกปฏิเสธ เขาจึงไปขอรับการอุปถัมภ์จากราชสำนักสเปน พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ ๕ และสมเด็จพระราชินีนาถอิซาเบลลาที่ ๑ แห่งอาณาจักรคาสตีล และได้รับการอนุมัติให้ออกเดินทางเป็นครั้งแรกในปี ๒๐๓๕ แต่แทนที่โคลัมบัสจะไปถึงหมู่เกาะญี่ปุ่นอย่างที่ได้ตั้งใจไว้ เขากลับไปพบหมู่เกาะบาฮามาส ในการเดินทางอีก ๓ ครั้งถัดมา เขาได้ค้นพบหมู่เกาะเกรตเตอร์แอนทิลลีส เลสเซอร์แอนทิลลีส รวมทั้งชายฝั่งทะเลแคริบเบียนของเวเนซุเอลาและอเมริกากลาง และประกาศให้ดินแดนเหล่านั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของ “จักรวรรดิสเปน” แม้ว่าโคลัมบัสนั้นไม่ได้เป็นบุคคลแรกที่เดินทางมาถึงทวีปอเมริกา แต่การเดินทางของโคลัมบัสก็ทำให้เกิดการติดต่ออย่างถาวรและต่อเนื่องระหว่างโลกใหม่ (ฝั่งตะวันตกของมหาสมุทรแอตแลนติก) กับโลกเก่า (ฝั่งตะวันออกของมหาสมุทรแอตแลนติก) นำไปสู่ช่วงเวลาของการสำรวจและ “การล่าอาณานิคม” ในดินแดนภายนอกทวีปยุโรปที่ดำเนินผ่านเวลาหลายศตวรรษและส่งผลอย่างใหญ่หลวงต่อพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของโลกตะวันตกสมัยใหม่ การค้นพบดินแดนใหม่ของโคลัมบัส เป็นการเปิด ศักราชสู่ความมั่งคั่งของ “จักรวรรดิสเปน” แต่กลับเป็นการปิดตำนานของ “อารยธรรม” บนแผ่นดินที่เขาค้นพบอย่างน่าเสียดาย