วันนี้เมื่อ ๑๔ ปีก่อน พระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙
วันนี้เมื่อ ๑๔ ปีก่อน ๑๓ มิถุนายน ๒๕๔๙ พิธีพระราชทานเลี้ยงพระกระยาหารค่ำ แด่ สมเด็จพระราชาธิบดี สมเด็จพระราชินี และ ผู้แทนพระประมุข ณ ท้องพระโรงกลาง พระที่นั่งบรมราชสถิตยมโหฬาร เนื่องในโอกาสพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ “...พระราชกรณียกิจและความสำเร็จทั้งหมดที่กล่าวมาของฝ่าพระบาท ทำให้องค์พระประมุขและพระราชอาคันตุกะทุกพระองค์ ณ ที่นี้ ต่างรู้ซึ้งตระหนักได้ดีว่า เหตุใดประชาชนของพระองค์จึงได้พร้อมใจกันทูลเกล้าฯ ถวายพระราชสมัญญา “มหาราช” แต่หม่อมฉัน ตลอดจนองค์พระประมุขและพระราชอาคันตุกะทุกพระองค์ที่มีไมตรีจิตพรั่งพร้อมกันมาร่วมงาน ขอถวายพระราชสมัญญาที่เรียบง่าย แต่มีค่าและสะท้อนถึงความรู้สึกของหม่อมฉันและทุกพระองค์ ณ ที่นี้คือ ฝ่าพระบาททรงเป็น “มิตรที่รักและพึงเคารพอย่างที่สุดของพวกเรา” ฝ่าพระบาททรงเป็นพลังบันดาลไจให้กับเหล่าพระประมุขร่วมกัน และสิ่งนี้คือ เหตุสำคัญล้ำลึกของความพร้อมเพรียงกันมาถวายพระเกียรติในครั้งนี้ หม่อมฉัน องค์พระประมุขและพระราชอาคันตุกะทุกพระองค์ ณ ที่นี้ ขอถวายพระพรฝ่าพระบาทและสมเด็จพระราชินี ทรงพระเกษมสำราญและทรงพระเจริญพระชนมสุขสิริสวัสดิ์พร้อมทุกประการ ทั้งขอให้ประเทศและประชาชาติไทยมีความวัฒนาผาสุกยั่งยืนนานตลอดไป...” ความตอนหนึ่งในพระราชดำรัสของสมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านฮัสซานัล โบลเกียห์ แห่งบรูไนดารุสซาลาม ผู้แทนพระประมุขและพระราชวงศ์ ถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ ในโอกาสที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี เมื่อวันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๔๙ ณ พระที่นั่งบรมราชสถิตยมโหฬาร ในพระบรมมหาราชวัง
วันนี้เมื่อ ๑๔ ปีก่อน ๑๓ มิถุนายน ๒๕๔๙ พิธีพระราชทานเลี้ยงพระกระยาหารค่ำ แด่ สมเด็จพระราชาธิบดี สมเด็จพระราชินี และ ผู้แทนพระประมุข ณ ท้องพระโรงกลาง พระที่นั่งบรมราชสถิตยมโหฬาร เนื่องในโอกาสพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ “...พระราชกรณียกิจและความสำเร็จทั้งหมดที่กล่าวมาของฝ่าพระบาท ทำให้องค์พระประมุขและพระราชอาคันตุกะทุกพระองค์ ณ ที่นี้ ต่างรู้ซึ้งตระหนักได้ดีว่า เหตุใดประชาชนของพระองค์จึงได้พร้อมใจกันทูลเกล้าฯ ถวายพระราชสมัญญา “มหาราช” แต่หม่อมฉัน ตลอดจนองค์พระประมุขและพระราชอาคันตุกะทุกพระองค์ที่มีไมตรีจิตพรั่งพร้อมกันมาร่วมงาน ขอถวายพระราชสมัญญาที่เรียบง่าย แต่มีค่าและสะท้อนถึงความรู้สึกของหม่อมฉันและทุกพระองค์ ณ ที่นี้คือ ฝ่าพระบาททรงเป็น “มิตรที่รักและพึงเคารพอย่างที่สุดของพวกเรา” ฝ่าพระบาททรงเป็นพลังบันดาลไจให้กับเหล่าพระประมุขร่วมกัน และสิ่งนี้คือ เหตุสำคัญล้ำลึกของความพร้อมเพรียงกันมาถวายพระเกียรติในครั้งนี้ หม่อมฉัน องค์พระประมุขและพระราชอาคันตุกะทุกพระองค์ ณ ที่นี้ ขอถวายพระพรฝ่าพระบาทและสมเด็จพระราชินี ทรงพระเกษมสำราญและทรงพระเจริญพระชนมสุขสิริสวัสดิ์พร้อมทุกประการ ทั้งขอให้ประเทศและประชาชาติไทยมีความวัฒนาผาสุกยั่งยืนนานตลอดไป...” ความตอนหนึ่งในพระราชดำรัสของสมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านฮัสซานัล โบลเกียห์ แห่งบรูไนดารุสซาลาม ผู้แทนพระประมุขและพระราชวงศ์ ถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ ในโอกาสที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี เมื่อวันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๔๙ ณ พระที่นั่งบรมราชสถิตยมโหฬาร ในพระบรมมหาราชวัง