ไวรัสไม่ใช่ "ธรรมชาติคัดสรร" หลังนักร้องดังจวก ปชช. "ตายได้ก็ตายๆไปเลย "
นักยุทธศาสตร์ เขียนบทความน่าสนใจ มีข้อความว่า...เช้านี้เรื่องของนักร้องชื่อดังท่านหนึ่งที่ตอบคอมเมนต์ใน Instagram ต่อประเด็นที่มีชาวบ้านไปร้องเรียนวิจารณ์การทำงานของรัฐบาล และบ่นถึงความทุกข์ในสภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำจากสถานการณ์ไวรัส COVID-19 ระบาด
ซึ่งนักร้องคนดังกล่าวนั้นก็ตอบไปว่าตายได้ก็ตายๆไป เรื่องนี้ต้องช่วยเหลือตัวเอง ตามระบบธรรมชาติคัดสรร ของทฤษฎี Charles Darwin (ใครไม่สามารถปรับตัวก็อยู่ไม่รอดล้มไปเอง)
อันนี้ผมว่าเป็นประเด็นที่ไม่ค่อยจะถูกต้องนัก ในสังคมเราทุกวันนี้คนจน คนรากหญ้า คนที่ทำมาค้าขายเขาก็ทุกข์ร้อนมากพอแล้ว ถ้าไม่ได้ช่วยเหลือจริงๆไม่จำเป็นต้องไปซ้ำเติม หรือไล่เขาให้ไปตายก็ได้นะครับ
อย่างน้อยถ้าไม่ได้มีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจอะไรคนที่เดือดร้อน หรือได้รับผลกระทบจากไวรัสระบาด ก็ไม่ต้องแสดงความเห็นที่มันทำร้ายจิตใจคนอ่านที่เขาได้รับผลกระทบก็ได้ มันไม่ใช่เรื่องจำเป็นเลย
และถ้าว่ากันในส่วนของตรรกะและเหตุผล เราจะบอกว่ามันเป็นเรื่อง "ธรรมชาติคัดสรร" ไม่ได้พวกเราเป็นมนุษย์ เราไม่ได้อยู่กันตามธรรมชาติ ไม่ได้อยู่ในป่านะครับ
บ้านเมืองเรามีกฎเกณฑ์ มีบรรทัดฐาน มีค่านิยม มีวัฒนธรรม เราไม่ใช่สัตว์ เราจะใช้ตรรกะธรรมชาติคัดสรรที่เราเอาไว้อธิบายวิวัฒนาการเพื่อการอยู่รอดของสัตว์ไม่ได้
อันนี้เราอยู่กันในสังคม เรามีกฎหมาย มีรัฐบาล มันเป็นสังคมแนวระนาบ ไม่ใช่สังคมแนวดิ่งของวงจรห่วงโซ่อาหารที่สัตว์ต่างชนิด ต่างครอบครัวกันจะไม่ช่วยเหลือกัน
เราเป็นมนุษย์อะครับ อยู่ในสังคม มีรัฐบาลที่เราเลือกตั้งมา ก็เป็นสิทธิของชาวบ้านเขานะครับ ที่จะเรียกร้องขอความช่วยเหลือ เพราะปัจจุบันมันเป็นสถานการณ์ของภัยพิบัติ
ชาวบ้านที่เขาไม่มีที่ทางไป หรือหนทางเอาตัวรอดเขาก็ต้องหวังพึ่งรัฐบาล หรือหวังพึ่งคนของสังคมก็ถูกแล้ว ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร คนที่ไล่เขาไปตายเพราะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เนี่ยสิที่ผิด
มันผิดอย่างมหันต์เลย ธรรมชาติคัดสรรมันใช้กับสังคมมนุษย์ไม่ได้ครับ ชาวบ้านเขาพยายามช่วยเหลือตัวเองกันเต็มที่อยู่แล้ว ไม่ได้นั่งงอมืองอเท้าอยู่บ้านอย่างเดียว
ถ้าเขาสามารถออกไปขายของตามตลาดได้เหมือนเก่าโดยที่ยังมีคนมาซื้อ หรือออกไปทำงานแบกหาม ทำงานต่างๆได้เหมือนตอนที่ไวรัสยังไม่ระบาดเขาก็สู้ชีวิตออกไปทำงานกันหมดแหละครับ
แต่อันนี้คือเรากำลังอยู่ท่ามกลาง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และเคอร์ฟิวตอนกลางคืนไงครับ หลายอาชีพเขาก็เลยได้รับผลกระทบและต้องอยู่แต่ในบ้าน จะหาอาชีพเสริมก็ลำบาก เพราะข้อจำกัดมีเยอะขึ้นมาก
อย่าไปคิดว่าเขาอยากนอนรอความช่วยเหลืออยู่เฉยๆที่บ้านเลยครับ ไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องแบบนี้หรอก ระยะยาวมีแต่จะเจ๊ง พอรัฐบาลมีมาตรการเยียวยา 5,000 บาทมา เขาก็ต้องรีบดิ้นรนไขว่คว้าไว้เป็นธรรมดา ส่วนคนที่ไม่ได้เขาก็ต้องอยากได้ เพราะมันเป็นสิทธิของเขาน่ะครับ
อ้างอิงจาก: https://www.blockdit.com/articles/5e9841eeb823d50b7421d8e6
BigUp นอกตำรา ทั่ว[สาระ]ทิศ