อย่ากลัวโควิด-19 กลัวอนาคตที่มืดมนของเราดีกว่า

           อย่ากลัวโควิด-19 จนทำให้เศรษฐกิจไทยสะดุดและพินาศจนต้องไปกู้เงินมหาศาลมากอบกู้  ประชาชนติดเชื้อไม่มาก  เชื้อนี้คงอยู่คู่กับเราตลอดไปเช่นวัณโรค ไข้หวัดใหญ่ ฯลฯ เราสามารถทำงานได้แล้ว ถ้ามีมาตรการป้องกันที่ดี

            ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) กล่าวว่าในวันพฤหัสบดีที่ 9 เมษายน 2563 มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย 2,423 ราย โดยเป็นรายใหม่ 54 รายและมีผู้เสียชีวิตรวม 32 ราย โดยเป็นการเสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย  รักษาหายกลับบ้านเพิ่ม 52 ราย รวมเป็น 940 ราย <1>

            มีบางท่านบอกว่าตัวเลขติดเชื้อ 2,423 รายเป็นตัวเลขต่ำเกินจริง เพราะตรวจจากคนเพียง 71,860 คน ประเทศอื่นตรวจมากกว่าเราโดยเฉพาะประเทศทางยุโรปและสหรัฐอเมริกา  ผู้ที่เห็นว่าตัวเลข 2,423 รายเป็นตัวเลขน้อยผิดปกติ ก็เพราะมาจากสมมติฐานที่ว่าสัดส่วนของผู้ติดเชื้อที่พบจากผู้ตรวจทั้งหมด ออกมาที่ 3.372% (2,423 / 71,860)  ถ้านำจำนวนประชากรไทย 69,799,978 คน มาคำนวณด้วยก็เท่ากับมีคนติดเชื้อ 2,353,655 คน ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าตกใจ แต่ไม่ใช่ตัวเลขจริง

            อันที่จริงคนที่ได้ตรวจนั้น ส่วนมากเป็นชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย หรือคนไทยที่เดินทางมาจากต่างประเทศ หรือผู้ที่เคยสัมผัสกับผู้ติดเชื้อมาก่อน จึงทำให้มีสัดส่วนที่พบสูงถึง 3.372%  ในขณะที่ประชาชนทั่วประเทศแทบไม่มีโอกาสสัมผัสกับผู้ติดเชื้อเลย  จะเห็นได้ว่ากระแสการอพยพกลับต่างจังหวัดในช่วงสั่ง “ปิดงาน” โดยขาดการวางแผนเมื่อกลางเดือนมีนาคม 2563 ที่เห็นประชาชนแห่กลับบ้านตามสถานีขนส่งและสถานีรถไฟ  หลายคนเกรงว่าเชื้อจะแพร่ไปในต่างจังหวัดเป็นอย่างมาก  แต่นี่ผ่านมา 3 สัปดาห์แล้ว ก็ไม่ปรากฎว่ามีการเพิ่มขึ้นอย่างเด่นชัดของผู้ติดเชื้อในต่างจังหวัด ยกเว้นในจังหวัดท่องเที่ยวหลักๆ ของประเทศเป็นสำคัญ

            จะเห็นได้ว่าแม้แต่กลุ่มเสี่ยงหลักๆ เช่น คนเก็บขยะ คนกวาดถนน คนคุ้ยขยะตามกองขยะ คนเร่ร่อน คนขับและกระเป๋ารถเมล์ แท็กซี่ที่รับส่งผู้โดยสารทุกวัน ชาวบ้านในชุมชนแออัด ก็แทบไม่พบผู้ติดเชื้อเลย ยกเว้นผู้ติดเชื้อที่ไปร่วมกิจกรรมที่สนามมวยดังกล่าว <2> ดังนั้นเราจึงไม่ควรเป็นห่วงจนเกินไปจนกระทั่งเศรษฐกิจของชาติหยุดไปหมด  อย่างกรณีประเทศนอรเวย์ซึ่งเป็นประเทศหนาวหนักที่โควิดชอบ มีผู้ติดเชื้อ 6,086 คน ตาย 101 มีอัตราเสียชีวิต 19 คน/ประชากร 1 ล้านคนกลับสั่งเปิดโรงเรียน (ส่วนมัธยม มหา’ลัย เรียน online ไม่ได้ปิด) แต่ไทยที่มีผู้ติดเชื้อ 2,423 คน ตาย 32 มีอัตราเสียชีวิต 0.4 คน/ล้านคน กลับปิดยาว แล้วจะเจริญทันเขาไหม อย่าถูกปั่นหัวจนถูกโควิดหลอน เราต้องทำงานเพื่อพัฒนาชาติ คนจนจะอดตายแล้ว

            มีความเป็นไปได้ที่เชื้อโควิด-19 แพร่ตามฤดูกาล ในช่วงหน้าหนาวเช่นเดียวกับโรคไข้หวัดใหญ่ที่คร่าชีวิตคนไปไม่น้อยในแต่ละปี แล้วก็ค่อยๆ หยุดไป แต่ไม่อาจกำจัดให้หมดไปได้  ทุกวันนี้เรายังอยู่ร่วมกับวัณโรค ไข้หวัดใหญ่ โรคเรื้อน หรือแม้แต่เอดส์ ซึ่งแทบจะไม่สามารถรักษาหายเลย  และแม้ขณะนี้ยังไม่มีวัคซีนสำหรับสู้กับเชื้อโควิด-19 แต่ก็สามารถป้องกันได้

            ยกตัวอย่างวัณโรค ประเทศไทยถูกจัดให้เป็น 1 ใน 14 ประเทศที่มีปัญหาวัณโรคสูง ทั้งวัณโรค วัณโรคที่มีการติดเชื้อเอชไอวีร่วมด้วย และวัณโรคดื้อยา องค์การอนามัยโลกประมาณการในปี 2560 ว่าประเทศไทยมีอุบัติการณ์ผู้ป่วยวัณโรครายใหม่และกลับมาเป็นซ้ำ 108,000 ราย ต่อปี <3>  นอกจากนี้ยังมีการพบว่า “ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อประมาณ 20 ล้านคน ติด 1 ใน 14 ประเทศที่มีวัณโรคสูง โดยในจำนวนผู้ติดเชื้อมีอาการป่วยแล้ว 1.2 แสนคน คิดเป็นอัตราป่วย 156 ต่อแสนประชากร เสียชีวิตปีละประมาณ 1.2 หมื่นคน ซึ่งในจำนวนผู้ป่วย 1.2 แสนคนนั้น พบว่าเป็นผู้ป่วยเข้าระบบรักษาและสามารถติดตามอาการได้ 8 หมื่นราย คิดเป็น 75%” <4>

            ดังนั้นหากเรากลับมาทำงานกันเช่นเดิมโดยใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา มีเจลล้างมือ เราก็จะสามารถป้องกันโรคได้  และพัฒนาสุขนิสัยในการบริโภค  แต่ถ้าไม่เปิดทำงานใหม่ ประเทศชาติก็ต้องตกเป็นหนี้มหาศาล เป็นการสร้างภาระแก่ลูกหลาน

อ้างอิง
<1> ไทย พบผู้ติดเชื้อโควิด รายใหม่ 54 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย กรุงเทพธุรกิจ 9 เมษายน 2563. https://bit.ly/39VuqeO
<2> สนามมวย พบติดเชื้อไวรัส COVID- 19 อีก 4 นนทบุรี นครปฐม อุบลฯ The Bangkok Insight. 23 มีนาคม 2563. https://bit.ly/2wqp4up
<3> ตัวเลขสถิติวัณโรคในไทยพุ่งสูง เป้าหมายที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันหยุด. โพสต์ทูเดย์. 28 สิงหาคม 2562. https://www.posttoday.com/life/healthy/599039
<4> มารู้จัก ‘วัณโรค’ คนไทยติดเชื้อ 20 ล้านคนป่วยติดอันดับ 14 ของโลก. The Bangkok Insight. https://www.thebangkokinsight.com/167327/