หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

คดีดังในอดีต ยิงทิ้ง ๔ อดีตรัฐมนตรี

โพสท์โดย asdfghjkl25362536

ในช่วงปี พ.ศ.๒๔๙๐-๒๕๐๐ ประเทศไทยตกอยู่ใน #ยุคทมิฬ มีการเข่นฆ่านักการเมืองฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลอย่างโหดร้ายทารุณ โดยบรรดา #อัศวินผยอง ซึ่งได้เลี้ยงอันธพาลไว้เป็นเครื่องมือในการข่มเหงรังแกสุจริตชน

กล่าวอย่างชัดๆ ก็คือ ภายหลังการทำรัฐประหาร ๘ พฤศจิกายน ๒๔๙๐ โดยพลโทผิน ชุณหะวัณ นายทหารนอกราชการ แล้วไปเชิญ จอมพล ป.พิบูลสงคราม ซึ่งหลุดพ้นจากคดีอาชญากรสงคามไปปลูกผักสวนครัวอยู่ที่กระท่อมปลายนา ลำลูกกา ปทุมธานี กลับมามีบทบาททางการเมืองอีก โดยมี พ.อ.เผ่า ศรียานนท์ นายทหารนอกราชการผู้เป็นบุตรเขยพลโทผิน และอดีตนายทหารคนสนิทจอมพล ป.เป็นตัวเชื่อม

จากนั้น พ.อ.เผ่าก็กลับเข้ารับราชการและย้ายสังกัดมาเป็นตำรวจรับยศ พลตำรวจตรี มีตำแหน่ง รองอธิบดีกรมตำรวจ แต่มีอำนาจยิ่งกว่าอธิบดีเสียอีก รองอธิบดีเผ่าได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเป็นอธิบดี สร้างตำรวจขึ้นเป็นฐานอำนาจ มีทั้งรถถัง เครื่องบิน พลร่ม และได้มอบรางวัลให้ลูกน้องที่ทำความดีความชอบเป็นพิเศษด้วยแหวนเพชร เรียกกันว่า #แหวนอัศวิน พร้อมกันนี้ก็มีการกำจัดนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามอย่างโหดร้าย ซึ่งนักการเมืองที่ถูกกำจัดนี้ส่วนมากจะเป็นเสรีไทย ที่เคยโค่นล้มจอมพล ป.

คดีฆาตกรรมทางการเมืองที่เกรียวกราวที่สุดในยุคนั้นก็คือ “คดียิงทิ้ง ๔ อดีตรัฐมนตรี” มี ดร.ทองเปลว ชลภูมิ นายทองอินทร์ ภูริพัฒน์ นายถวิล อุดล และนายจำลอง ดาวเรือง โดยรับตัวอดีตรัฐมนตรีทั้ง ๔ ซึ่งถูกจับในคดีกบฏ ไปจากสันติบาลและโรงพักกลางกรุงในกลางดึกคืนวันที่ ๓ มีนาคม ๒๔๙๒ จะเอาไปคุมขังที่โรงพักบางเขนซึ่งอยู่นอกเมือง อ้างว่าเพื่อความปลอดภัย แล้วยิงทิ้งกลางทางใกล้ๆมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ซึ่งเป็นถนนเปลี่ยว

ต่อมากรมตำรวจได้แถลงอย่างเป็นทางการว่า มีโจรจีนแต่งเครื่องแบบมาดักชิงผู้ต้องหา ซึ่งตามปกติโจรจีนเป็นข่าวอยู่เสมอในการปฏิบัติการณ์แถบ ๔ จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่กลับเข้ามายิงผู้ต้องหาตายเรียบถึงเมืองหลวง โดยตำรวจที่คุมไปไม่เสียเลือดสักหยด

เรื่องนี้ถ้าเป็นนวนิยาย ก็ต้องถือว่าแต่งโดยนักเขียนมือชั้นสวะเต็มทน อ้างเหตุผลไม่เข้าท่า ไม่มีใครเชื่อคดีนี้ก็เช่นเดียวกับคดีฆาตกรรมทางการเมืองในยุคนั้นทุกคดี เงียบหายเป็นคลื่นกระทบฝั่ง เพราะไม่มีใครจะไปเรียกร้องความยุติธรรมกับอำนาจเถื่อนที่มีอิทธิพลล้นฟ้าอยู่ในยามนั้นได้

ต่อมาเมื่อจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ยึดอำนาจในวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๐๐ จอมพล ป.พิบูลสงคราม หนีออกไปทางเขมรด้านจังหวัดตราด พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ ถูกเนรเทศไปอยู่สวิตเซอร์แลนด์ บรรดาเหล่าอัศวินแตกกระเจิง คดีฆาตกรรมการเมืองต่างๆ จึงถูกรื้อฟื้นนำมาสู่ศาล สำหรับคดีนี้มีตำรวจตกเป็นผู้ต้องหา ๕ คนคือ พลตำรวจจัตวาผาด ตุงคะสมิต จำเลยที่ ๑ พลตำรวจจัตวาทม จิตรวิมล จำเลยที่ ๒ ร้อยตำรวจโทจำรัส ยิ้มละมัย จำเลยที่ ๓ ร้อยตำรวจโทธนู พุกใจดี จำเลยที่ ๔ และสิบตำรวจเอกแนบ นิ่มรัตน์ จำเลยที่ ๕ ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ตัวการบางคนได้เผ่นหนีออกไปต่างประเทศ บางคนก็โชคดีที่ตายก่อน

▪️เนื้อหาคำฟ้องสรุปได้ว่า▪️

ในวันเกิดเหตุ จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ มียศเป็นร้อยตำรวจเอก กองตำรวจสันติบาล จำเลยที่ ๓ และที่ ๔ เป็นนายสิบตำรวจโทและสิบตำรวจเอกนครบาลใต้ ส่วนจำเลยที่ ๕ เป็นพลตำรวจสมัคร นครบาลใต้ จำเลยในคดีนี้กับพวกซึ่งได้ถึงแก่กรรมไปแล้วหนึ่งคนและยังหลบหนีอีกหลายคน ได้เพทุบายไปรับตัวผู้ตายมาจากที่คุมขังต่างๆ ออกเดินทางไปตามถนนพหลโยธิน ต่อมาได้ให้รถยนต์หยุด แล้วจำเลยกับพวกได้บังอาจสมคบกันใช้อาวุธปืนยิงคนทั้ง ๔ ที่ถูกใส่กุญแจมืออยู่รวมหลายนัด โดยมีเจตนาฆ่าคนทั้ง ๔ ให้ถึงแก่ความตาย กระสุนปืนถูกตามร่างกายของคนทั้ง ๔ ตรงที่สำคัญหลายแห่ง จนคนทั้ง ๔ ถึงแก่ความตายทันทีสมดังเจตนาของจำเลยกับพวก ทั้งนี้จำเลยกับพวกได้กระทำการโดยทรมาน ทารุณโหดร้าย หรือแสดงความดุร้ายแก่ผู้ตายทั้ง ๔ ให้ได้รับความลำบากสาหัส รายการบาดแผลของผู้ตายทั้ง ๔ ปรากฏตามรายการชันสูตรพลิกศพซึ่งเจ้าพนักงานได้ทำไว้ ได้ทำการสอบสวนคดีนี้มาตั้งแต่วันที่ ๕ มีนาคม ๒๔๙๒ โดยที่จำเลยกับพวกได้กระทำเพทุบายให้หลงเชื่อไปในทางที่เป็นเท็จ พยายามใช้อำนาจตำแหน่งหน้าที่และอิทธิพลเพื่อให้พ้นอาญาอันควรต้องรับ จึงทำให้ต้องทำการสอบสวนอยู่เป็นเวลานานจึงได้หลักฐานว่า ความจริงจำเลยกับพวกเป็นผู้กระทำความผิด

ศาลได้นำสืบพยานหลายปาก สรุปได้ว่า ผู้ตายทั้ง ๔ ได้ถูกยิงตายระหว่างที่ตำรวจ ซึ่งมีจำเลยกับพวกควบคุมไปสถานีตำรวจนครบาลบางเขน ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ ๑๔-๑๕ ถนนพหลโยธิน เมื่อคืนวันที่ ๓ ต่อกับวันที่ ๔ มีนาคม ๒๔๙๒ เวลา ๑ น.เศษ

ผู้ตายทั้ง ๔ เป็นนักการเมือง เคยเป็นผู้แทนราษฎรและเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เป็นเสรีไทย เป็นนักการเมืองฝ่ายนายปรีดี พนมยงค์ ซึ่งเป็นนักการเมืองคนละฝ่ายกับจอมพล ป.พิบูลสงคราม พลตำรวจเอก เผ่า ศรียานนท์ ซึ่งขณะเกิดเหตุเป็นรองอธิบดีกรมตำรวจ และเป็นอธิบดีกรมตำรวจในเวลาต่อมา

ส.ต.อ.สุธีร์ เปรมกมล ให้การในตอนสำคัญว่า ในคืนวันเกิดเหตุราว ๒๓ น.ได้รับคำสั่งให้ไปขับรถไปปฏิบัติหน้าที่หน้าสวนอัมพร ไปกับ พ.ต.อ.หลวงพิชิตธุรการ ขณะนั้นได้เห็น หลวงพิชิตฯ อยู่ข้างรถจิ๊ปสีแดง ในรถมี พลฯ จรินทร์ เป็นผู้ขับ เห็น ร.ต.อ.ผาด ตุงคะสมิต จำเลยที่ ๑ ร.ต.อ.ทม จิตวิมล จำเลยที่ ๒ (ยศขณะนั้น ) กับตำรวจอีก ๒-๓ นายนั่งตอนหลัง ต่อมาพยานได้ขับรถเข้าไปในสวนอัมพร มีรถซึ่ง พลฯ เกียรติศักดิ์ พึ่งเที่ยง เป็นคนขับตามมา เมื่อจอดรถที่เชิงบันไดสถานลีลาศ ได้มี ร.ต.อ.พุฒ บูรณสมภพ ร.ต.ท.บุญสม ประไพ ส.ต.อ.หรือ ส.ต.ท. นายหนึ่งจำไม่ได้แน่นอนนั่งอยู่ท้ายรถ ส่วนอีกคันหนึ่งนั้นมีตำรวจขึ้นไป ๕-๖ คน จำไม่ได้ว่าเป็นใคร แต่งเครื่องแบบทั้งหมด มีอาวุธปืนยาวทอมสันและคาร์ไบน์ทุกคน ต่อมา ร.ต.อ.พุฒ บูรณสมภพ สั่งให้ออกรถ

รถทั้งสองคันนั้นก็ออกไปทางลานพระรูป เห็นรถคัน พ.ต.อ.หลวงพิชิตฯ นั่งจอดอยู่แล้วขับไป ร.ต.อ.พุฒให้ขับตามไปรวมเป็น ๓ คัน ต่อมา พ.ต.อ.หลวงพิชิตฯ และ ร.ต.อ.พุฒลงไปรับนายทองเปลว ชลภูมิ ลงจากสันติบาล ระหว่างนี้ได้เห็น ร.ต.อ.ผาด จำเลยที่ ๑ ร.ต.อ.ทม จำเลยที่ ๒ ลงจากรถมาคุยกันอยู่ที่ข้างรถด้านซ้าย มีตำรวจอีก ๒-๓ คนลงจากรถไปคุยกันข้างท้ายรถนั้น แล้วจะไปทางไหนไม่ได้ดู เห็น ส.ต.ต.แนบนั่งอยู่ท้ายรถไม่ได้ลง พยานเห็นนายทองเปลว ชลภูมิถือห่อผ้า ๑ ห่อกับกระเป๋าเดินทาง ๑ ใบ พยานได้ไปรับห่อผ้ากับกระเป๋าไปใส่ท้ายรถ แล้วได้ออกรถไปสถานียานนาวา นางเลิ้งและสามเสนไปรับผู้ต้องหาอีก ๓ คน ต่างก็มีกระเป๋าและห่อผ้ามาทุกคน แล้ว พ.ต.อ.หลวงพิชิตฯ สั่งให้ ร.ต.อ.พุฒ ใส่กุญแจมือทุกคนไว้ มีผู้ต้องหาคนหนึ่งถามว่าจะไปไหน ร.ต.อ.พุฒตอบว่าจะพาไปขังในที่ปลอดภัย จะพาไปกลางวันก็จะอับอายเพื่อนฝูงของคุณ เมื่อถึงริมคลองประปา ร.ต.อ.พุฒสั่งให้ใช้ไฟหรี่ ครั้นถึงที่เกิดเหตุรถคัน พ.ต.อ.หลวงพิชิตฯ สั่งให้ขับช้าลง ต่อมาได้ยินเสียงปืนดัง ๑ นัดทางหน้า ร.ต.อ.พุฒก็ลงจากรถไปบอกให้พยานและตำรวจลงไปด้วย ขณะนี้ไฟหน้าคงมีแต่แสงไฟหรี่เปิดอยู่ พยานไปยืนอยู่ทางขวาห่างราว ๓-๔ เมตร เห็น พ.ต.อ.หลวงพิชิตฯ กับตำรวจ ๔-๕ คนเดินมาทางขวา รถ พ.ต.อ.หลวงพิชิตฯ พูดว่าให้คนในรถลงมาข้างล่างเพราะคันหน้าถูกยิง ตำรวจที่ตามมาคือ ร.ต.อ.ผาด ร.ต.อ.ทม ส.ต.ต.แนบกับอีก ๒-๓ คนจำไม่ได้ว่าเป็นใคร ในขณะนี้ผู้ต้องหาคนหนึ่งพูดว่า “อย่าทำผมเลยคุณหลวง นึกว่าสงสารกับผมลูกนกลูกกาตาดำๆ ลูกผมมาก” พ.ต.อ.หลวงพิชิตฯว่า ลงมาเถอะครับ ไม่มีอะไร อยู่ในรถไม่ปลอดภัย แล้ว ร.ต.อ.ผาดพูดว่า “อ้ายพวกนี้กบฏแบ่งแยกดินแดน เอาไว้ทำไม” และ ร.ต.อ.ทมพูดว่า “อ้ายพวกนี้เป็นกบฏเอาไว้ทำไม” พอขาดคำ ร.ต.อ.ผาดพูดว่า “แนบๆ” เห็น ส.ต.ต.แนบจำเลยวิ่งเข้ามาทางหลัง พ.ต.อ.หลวงพิชิตฯ ด้านซ้ายห่างรถราว ๑ เมตร ถือปืนกลทอมสัน พ.ต.อ.หลวงพิชิตฯ เดินหลบไปทางหน้ารถแล้วตะโกนว่า พุฒหลบ ร.ต.อ.พุฒได้หลบไปทางหน้ารถ ทันใด ส.ต.ต.แนบได้ประทับปืนยิงไปทางที่รถผู้ต้องหานั่ง ๑ ชุด ขณะที่ผู้ต้องหากำลังนั่งอยู่ ในตอนนี้พยานก็ได้ฟุบหน้าลงที่ขอบรถด้านขวาไม่ได้เงยหน้าดูได้ยินเสียงปืนกลดัง ๒-๓ ชุดติดๆกันขณะที่ ส.ต.ต.แนบยิง

สิ้นเสียงปืนแล้ว ร.ต.อ.ผาดจำเลยว่า คนรถอยู่ไหน พ.ต.อ.หลวงพิชิตฯ ก็ถามหาคนรถ พยานจึงลุกขึ้นตอบว่า “อยู่นี่ครับ” ได้วิ่งไปหา ส.ต.ต.แนบจำเลยยังคงยืนอยู่ข้างรถกับตำรวจอีก ๒ คน ซึ่งถือปืนอยู่ข้างๆ จำได้ว่าคนหนึ่งเป็นตำรวจที่นั่งมาทางท้ายรถ คันที่พยานขับ อีกคนหนึ่งนั่งมากับรถคันหน้าซึ่งหลวงพิชิตฯนั่งมา พ.ต.อ.หลวงพิชิตฯสั่งให้เปิดไฟในรถ เมื่อเปิดไฟแล้วก็เห็นผู้ต้องหาทั้ง ๔ คนตายหมด พ.ต.อ.หลวงพิชิตฯ ถามว่า “ตายหมดแล้วใช่ไหม” ร.ต.อ.พุฒตอบว่า “ตายหมดแล้ว” พ.ต.อ.หลวงพิชิตฯให้ยกศพไว้ข้างล่าง ร.ต.อ.พุฒให้พยานลากศพ ๒ ศพออกมาไว้ที่ริมคู แล้ว ร.ต.อ.พุฒควักปืนยิงไปที่ศพนั้น ๒ นัด แล้วพยานได้ลากอีกศพไปไว้ที่ขอบถนน แล้วต่อมาได้เอาไปไว้รวมกัน ต่อจากนั้น ร.ต.ท.บุญสม ประไพให้พยานไขกุญแจมือที่ใส่ศพออก พยานไขแล้วมอบให้ ร.ต.ท.บุญสม ประไพ พ.ต.อ.หลวงพิชิตฯ ว่าควรให้ยิงข้างรถให้เห็นว่าคนร้ายยิงมาจากทางขวามือ รถคันหน้าก็ควรให้มีรอยกระสุน ร.ต.อ.พุฒบอกกับ ส.ต.ต.แนบให้ยิงรถคันกลาง ร.ต.อ.ผาด และ ร.ต.อ.ทมก็ไปที่รถคันหน้า ร.ต.อ.ผาดควักปืนยิงรถคันหน้า และมีเสียงปืนยิงมาจากรถคันกลางอีก ๓-๔ นัดแล้ว พ.ต.อ.หลวงพิชิตฯ พูดกับ ร.ต.อ.พุฒว่าจะไปแจ้งความที่บางเขนแล้วก็รีบไป ต่อมา ร.ต.อ.พุฒเอาปลอกกระสุนปืนมอบให้พยาน ๒ กำมือให้เอาไปโรยที่โคนต้นก้ามปูด้านขวาถนนแล้วให้เอาก้นบุหรี่โดยหักบุหรี่ที่มอบให้เป็นสองท่อน สูบให้เหลือก้นบุหรี่แล้วเอาไปทิ้งไว้ตรงที่โรยปลอกกระสุนแล้ว ร.ต.อ.พุฒสั่งให้ ร.ต.ท.บุญสม ประไพไปแจ้งต่อรองอธิบดีเผ่า ศรียานนท์ ร.ต.ท.บุญสม ก็ขึ้นรถคันที่ตามหลังมาขับไปทางกรุงเทพฯ ต่อมาหลวงพิชิตฯก็กลับมาอีกและได้พบรองอธิบดีเผ่า ได้รายงานกับรองอธิบดีเผ่าว่ามีคนร้ายมาแย่งตัวผู้ต้องหา เกิดการยิงต่อสู้กัน คนร้ายยิงผู้ต้องหาตาย รองอธิบดีเผ่าถามว่าตำรวจได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า พ.ต.อ.หลวงพิชิตฯตอบว่าตำรวจไม่ได้รับบาดเจ็บเลย แล้วรองอธิบดีเผ่าถามว่าให้ตำรวจท้องที่จัดการบันทึกเหตุที่ถูกยิงแล้วหรือยัง มีคำตอบว่าเรียบร้อยแล้ว รองอธิบดีเผ่ากับขุนจำนงก็ว่าจะทำอะไรก็ทำเสีย จวนจะสว่างแล้ว พล.ต.ต.หลวงแผ้วพาลชนว่าตำรวจท้องที่บันทึกแล้วเอาศพไปพิสูจน์ที่โรงพยาบาลกลางได้แล้ว รองอธิบดีเผ่าว่าจะทำอย่างไรก็ตามใจกลับก่อน แล้วก็ขึ้นรถกลับไป

ร.ต.อ.พุฒสั่งให้ยกศพขึ้นรถแล้วเอาเข้ากรุงเทพฯ ส่งศพไว้ที่โรงพยาบาลกลาง คืนนั้น ร.ต.ท.บุญสมเอากุญแจมือ ๔ คู่ไปทิ้งน้ำที่ท่าน้ำเทเวศร์

เช้ารุ่งขึ้น หนังสือพิมพ์ลงข่าวโดย พ.ต.อ.หลวงพิชิตฯให้ข่าวว่า “มีโจรมลายูมายิง ๔ อดีตรัฐมนตรีตายโดยต่อสู้กับตำรวจ ๔ อดีตรัฐมนตรีหนีลงจากรถ จึงถูกกระสุนปืนโจรจีนตาย”

พ.ต.อ.จำรัส ฟอลเล็ต ผู้ชำนาญการพิเศษ ซึ่งตอนนั้นมีชื่อเสียงเป็นที่ศรัทธาของประชาชนเช่นเดียวกับ “คุณหญิงพรทิพย์” ในขณะนี้ ได้ให้การว่าไปดูที่เกิดเหตุเมื่อวันที่ ๔ มีนาคม ได้เห็นมีปลอกกระสุนปืนขนาด ๑๑ มม.และปลอกกระสุนปืนคาร์ไบน์ มีรอยเลือดเป็นหย่อมๆ ริมถนนด้านซ้าย ถ้าหันหน้าไปทางดอนเมือง มีเศษกุญแจมือหักอยู่ ๑ ชิ้น ยาวประมาณ ๑ นิ้ว อยู่แถวบริเวณกองเลือด ทำให้เข้าใจว่าผู้ต้องหาคนใดคนหนึ่งถูกยิงขณะใส่กุญแจมืออยู่ ได้เห็นรอยเท้าในคูด้านซ้าย ไม่น่าเชื่อว่าพวกโจรจำนวนตั้ง ๒๐-๓๐ คนจะมาแย่งผู้ต้องหา เพราะรอยเท้ามีเพียงเล็กน้อ

ได้ตรวจดูรถบรรทุกผู้ตาย รถนี้ถูกยิงทางด้านขวา มีรอยถูกยิงที่กระจกหน้า ภายในรถมีรอยเลือด มีเศษกระจกตรงพนักที่นั่งคนขับ มีรอยกระสุน ๒ นัด สูงจากที่นั่งคนขับประมาณ ๑ คืบ รอยกระสุน ๒ นัดนี้เป็นรอยยิงทะลุประตูด้านขวาเข้ามา พยานสันนิษฐานว่าเป็นรอยที่ยิงเมื่อประตูด้านขวาปิดและคนขับไม่ได้นั่งอยู่ในรถ

พยานได้ตรวจเสื้อผ้าของนายถวิล อุดล พบรอยกระสุนปืนที่ปลายแขนเสื้อด้านซ้าย จึงทำให้แน่ใจว่าถูกยิงที่ข้อมือ ประกอบกับเศษกุญแจที่พบจึงเชื่อว่าถูกยิงขณะใส่กุญแจมื

นอกจากจำเลยทั้ง ๕ จะปฏิเสธข้อหาแล้วยังอ้างว่า หากเรื่องนี้เป็นการกระทำผิดของจำเลย จำเลยก็ยังได้รับการยกเว้นโทษตามพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมในโอกาสครบ ๒๕ พุทธศตวรรษด้วย แต่ศาลเห็นว่า พ.ร.บ.นิรโทษกรรมในโอกาสครบ ๒๕ พุทธศตวรรษนั้นให้ผู้กระทำพ้นความผิดในการกระทำเกี่ยวกับการป้องกัน ระงับหรือปราบปรามกบฏ การก่อจลาจล หรือการกบฏ กระทำความผิดตามกฎหมายอื่นซึ่งเป็นความผิดทำนองเดียวกัน แต่ข้อเท็จจริงตามฟ้องในคดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเพทุบายไปรับตัวผู้ต้องหาทั้ง ๔ ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่แล้ว โดยได้หยุดรถสมคบกันใช้อาวุธยิงผู้ต้องหาตาย จึงมิใช่เป็นการกระทำเกี่ยวกับการป้องกัน ระงับหรือปราบปรามการกบฏ ไม่เข้าข่ายนิรโทษกรรมดังที่จำเลยกล่าวอ้าง

ศาลยังได้วินิจฉัยต่อไปอีกหลายข้อ เช่น

...หากจะมีโจรมาดักยิงเพื่อแย่งชิงตัวผู้ต้องหาจริงแล้ว ก็มาดักยิงเอาเฉพาะที่รถควบคุมผู้ต้องหามาเท่านั้น รถคันอื่นๆหาได้ถูกคนร้ายยิงประการใด ซึ่งเห็นว่าเป็นเรื่องผิดธรรมดาอยู่มาก...

...จำเลยที่ ๑-๒ ซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุก็ยังไม่ทราบว่าผู้ร้ายเป็นพวกไหน เหตุใดจึงมีคำแถลงให้ประชาชนทราบได้ว่าเป็นโจรมลายู ทั้งนี้มิได้ความแน่ชัดว่ามีการติดตามจับตัวมาได้ จึงก่อให้เกิดการระแวงสงสัยว่า จะไม่ใช่ผู้ร้ายมาดักยิงดังกล่าวอ้าง...

...พิเคราะห์ถึงเหตุพฤติการณ์ที่ควบคุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ ซึ่งได้ความว่าได้ไปรับตัวผู้ต้องหาในเวลาค่ำคืนระหว่าง ๒๔ น.เศษ เพื่อเอาไปคุมขังรวมกันไว้ที่ สน.บางเขน อ้างว่าเพื่อความปลอดภัยนั้น ก็มีข้อขัดข้องค้านได้ว่าไม่มีเหตุผลอันเพียงพอ โดยเหตุที่ได้แยกย้ายคุมขังไว้ตามสถานีตำรวจต่างๆ ก็เป็นการดียิ่งอยู่แล้ว เอาไปขังรวมกันเป็นการสะดวกแก่การที่คนร้ายจะเข้าแย่งไปทั้งหมด สน.บางเขนก็เป็นสถานีตำรวจซึ่งอยู่ห่างไกลออกไป ไม่มีกำลังตำรวจเพียงพอไม่น่าจะพาไป ถ้าจะให้ความปลอดภัยจริงแล้ว จะเอาไปควบคุมเสียที่อื่นเช่นที่หน่วยกองกำลังเตรียมพร้อมที่สวนอัมพร หรือที่วังปารุสก์หรือที่สันติบาล จะมิดีกว่าหรือ และในเวลาที่ย้ายผู้ต้องหาไปนั้น ย่อมจะต้องปกปิดเป็นความลับ ไม่มีใครล่วงรู้ได้ รถที่ควบคุมไปก็มีถึง ๓ คัน อันประกอบด้วยกำลังตำรวจและอาวุธที่ทันสมัย เหตุไฉนคนร้ายจะทราบได้ว่ารถคันไหนควบคุมผู้ต้องหาไป จะเข้าทำการได้สะดวกโดยรวดเร็วเช่นนั้น และเมื่อเข้าทำการแล้ว เหตุใดจึงไม่ยิงไปที่รถ ๓ คัน คงมุ่งยิงไปที่รถคันที่คุมผู้ต้องหามาเท่านั้น และเมื่อคนร้ายทำการแล้วเหตุใดจึงไม่มีร่องรอยว่าคนร้ายหนีไปทางไหน และไม่ได้ความว่าตำรวจได้ติดตามไป จึงก่อให้เกิดความน่าสงสัยยิ่ง...

...การที่คนร้ายยิงแต่เฉพาะผู้ต้องหาตายทั้ง ๔ คน แสดงชัดว่าหาใช่เพื่อมาแย่งตัวไปไม่ แต่มีท่าทีแสดงว่าจะต้องการฆ่าให้ตายยิ่งกว่าต้องการเอาตัวไป...

...ศาลได้ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ข้อเท็จจริงได้ความดั่งวินิจฉัยข้างต้น มีเหตุผลน่าเชื่อว่าผู้ตายทั้ง ๔ ได้ตายเพราะการเป็นนักการเมือง มีรายงานว่าได้ร่วมในการกบฏนี้ ได้ถูกจับตัวโดยการออกหมายจับ หลักฐานการเป็นกบฏอาจไม่เพียงพอ เพียงแต่ได้รับรายงานมาเท่านั้น จึงถูกให้ผู้มีอำนาจจัดการเสีย โดยอ้างว่ามีโจรมลายูมาแย่งตัว ฉะนั้นผู้ที่กระทำการยิงผู้ตายจึงมิใช่ใครอื่น เป็นตำรวจผู้ได้รับคำสั่งไปในขบวนการควบคุมผู้ต้องหานั่นเอง...

อาศัยเหตุดังกล่าวนี้ จึงพร้อมกันพิพากษาว่า พล.ต.จ.ผาด ตุงคะสมิต พล.ต.จ.ทม จิตรวิมล และ ส.ต.อ.แนบ นิ่มรัตน์ จำเลยที่ ๑-๒-๕ มีความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา ๒๖๙ ให้วางโทษจำคุกจำเลยทั้ง ๓ คนนี้ไว้ตลอดชีวิต ส่วน ร.ต.อ.จำรัส ยิ้มละมัย และร.ต.ท.ธนู พุกใจดี จำเลยที่ ๓-๔ หลักฐานคำพยานโจทก์ยังไม่มั่นคง จึงยกประโยชน์ให้เป็นผลดีแก่จำเลยทั้ง ๒ เสีย

โจทก์และจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๕ อุทธรณ์ ซึ่งศาลอุทธรณ์ก็พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จนถึงศาลฎีกาก็ได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เมื่อวันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๐๔ คดีนี้จึงจบลงด้วยจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๕ ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต

จากรูป ดร.ทองเปลว ชลภูมิ ทองอินทร์ ภูริพัฒน์ จำลอง ดาวเรือง ถวิล อุดล

โดย : โรม บุนนาค

กราบขออนุญาตทุกนามที่ได้เอ่ยถึง
#นักเลงโต

ขอบคุณเนื้อหา และสามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่: https://www.facebook.com/Nakleangto/photos/a.126113031326164/376426452961486/?type=3&theater
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
asdfghjkl25362536's profile


โพสท์โดย: asdfghjkl25362536
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
10 VOTES (5/5 จาก 2 คน)
VOTED: llHackll, ไปเซเว่นเอาอะไรไหม๊
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ด่วน! ศาลยกคำร้องปล่อยตัวชั่วคราว เดือน ภรรยา ทนายตั้ม พร้อม เผยเหตุผล ความลับหลังชุดสีขาวของชายหนุ่มดูไบตำรวจจับตำรวจ พบยาบ้ๅ 50 เม็ด ฉี่ม่วงอภิมหาเศรษฐีมาเลเซีย "อนันดา กริชนัน" เสียชีวิตแล้วรู้ให้ทัน “ความเครียด” ก่อนจะสายเกินแก้เผ็ช! เฟียร์ซ! ฟาด! "เบิร์ด ธงไชย" ขนนกสะบัดเวที คอนเสิร์ตแห่งปี Dream for Love ขโมยหัวใจแฟนๆ ทั้งอิมแพ็ค!"แบมแบม" โพสต์ "สนแต่เรื่องเงิน แต่ไม่แคร์ royalty"..แฟนๆ แห่อันฟอลทันที!ตาแพ้แสง ตาสู้แสงไม่ได้ อาการ สาเหตุ การรักษา มีวิธีแก้ไขอย่างไรบ้างตอบแล้วหลังมีข่าวลือดารารุ่นใหญ่ น. เตียงหักจับตัวได้แล้วคนร้ายยิง 3 ศพ จ.หนองบัวลำภู หลังขอมอบตัวศพถูกพบอย่างต่อเนื่อง เมื่อหนุ่มชาวอินโดนีเซียถูกงูเหลือมยักษ์กลืนกินทั้งเป็นในสวนปาล์ม ขณะที่เจ้าหน้าที่ทำการผ่าท้องเพื่อดูสภาพศพ ทำให้เกิดความตกใจอย่างมากสมุนไพรบำรุงปอด ตัวช่วยรักษาฟื้นฟูปอด พืชพันธุ์พื้นบ้านใกล้ตัว
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ผู้บัญชาการทหารบก สั่งการศูนย์อำนวยการจิตอาสาภัยพิบัติกองทัพภาคที่ 4 เร่งช่วยผู้ประสบอุทกภัยช่วยน้ำท่วมแต่เจอเรื่องเศร้า! "บิณฑ์" ทำสร้อยทอง 5 บาทหาย ขอคืนแค่พระเผ็ช! เฟียร์ซ! ฟาด! "เบิร์ด ธงไชย" ขนนกสะบัดเวที คอนเสิร์ตแห่งปี Dream for Love ขโมยหัวใจแฟนๆ ทั้งอิมแพ็ค!บุ๋ม ปนัดดา อยากรู้ ทำไมน้ำท่วมภาคใต้ ข่าวเงียบมากซุปตาร์สาวสายมู ทิ้งสามีไปคบดาราหนุ่ม ซ้ำสานสัมพันธุ์หนุ่มกล้ามโตโซเชียลกับความเงียบ
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิยาย เรื่องเล่า
โซเชียลกับความเงียบหลอนอาถรรพ์ "ผีกอหญ้า"โรงงานสยองผีผู้เฒ่าเฮี้ยนสุขใกล้ตัว
ตั้งกระทู้ใหม่