มัลลิกา เดือด!! โต้ นายอัจฉริยะยัดเยียดกล่าวหา แจง 3 ข้อปมถูกพาดพิงกักตุนหน้ากากฯ
18 มีนาคม 2563 ที่กระทรวงพาณิชย์ นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถลงกรณีการมอบอำนาจให้ทนายความดำเนินคดี 2 ข้อหาต่อนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม
เกี่ยวกับความผิดเรื่องหมิ่นประมาท หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ หรือความผิดตามกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้องต่อพนักงานสอบสวน ต่อศาลที่มีอำนาจ จนกว่าคดีจะถึงที่สุด
จากการที่นายอัจฉริยะกล่าวหาให้ร้ายว่ามีที่ปรึกษารัฐมนตรีที่เป็นผู้หญิงรายหนึ่ง ไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการส่งออกหน้ากากอนามัย
นางมัลลิกา กล่าวว่า ที่ตนไม่ได้ออกมาตอบโต้ตั้งแต่ต้น เนื่องจากนายอัจฉริยะไม่ได้ระบุชื่อใคร แม้แต่ตอนไปยื่นเรื่องต่อรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) แต่เพราะการพูดซ้ำหลายครั้งของนายอัจฉริยะ รวบรวมแล้วได้มีการพาดพิงถึงที่ปรึกษารัฐมนตรีซึ่งเป็นผู้หญิง ระบุบุคลิกทำให้คนเชื่อได้ว่าเป็นตน ประกอบกับที่ปรึกษาซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่งตั้งของกระทรวงนี้ คือ นางมัลลิกา จึงต้องดำเนินการทางคดีอาญา ส่วนเรื่องการตรวจสอบของทนายอัจฉริยะนั้น ถือเป็นเรื่องการตรวจสอบภาคประชาชน ไม่เกี่ยวกับเรื่องคดีความผิดต่อส่วนตน เพราะการทำหน้าที่ตรวจสอบก็สามารถทำได้ เพราะตนเองก็เคยทำมา แต่ถ้าหากว่าเรื่องที่กล่าวอ้างอิงถึงนั้นไม่เป็นความจริงก็ต้องรับผิดชอบ
นางมัลลิกา กล่าวต่อว่า และเพื่อให้สังคมสิ้นสงสัยจากความอึมครึมเพราะมีการกล่าวหาแต่ฝ่ายเดียว กระทบถึงการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ ทำให้ผู้คนมโน ผสมจินตนาการไปมากมายบนสังคมการสื่อสารออนไลน์ จึงใช้โอกาสนี้เรียนชี้แจง ดังนี้
1.ขอปฏิเสธ ว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องการส่งออกหน้ากากอนามัย หรือกิจการใดของผู้ประกอบการเกี่ยวกับหน้ากากอนามัย ทั้งสิ้น
2.ขอปฏิเสธ ว่าไม่รู้จัก ไม่มีความสัมพันธ์ ไม่ได้ผูกพัน ไม่ได้ใกล้ชิด ไม่ได้มีมิตรคนใดไปเกี่ยวข้องกับกิจการหน้ากากอนามัยของบริษัทใดทั้งสิ้น
3.ในการทำหน้าที่ขออนุญาต ตามระเบียบราชการนั้น จะมีคณะอนุกรรมการ จากกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) มีทั้งตัวแทนองค์การอาหารและยา (อย.) ตัวแทนองค์การเภสัช ตัวแทนกรมการค้าภายใน และตัวแทนกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เป็นผู้พิจารณาซึ่งเป็นองค์คณะ ฝ่ายข้าราชการการเมืองไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ จึงเป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิงที่จะมีส่วนเกี่ยวข้องตามที่พยายามยัดเยียด ข้อกล่าวหา
“ดิฉันยินดีให้ความร่วมมือในการตรวจสอบภาคประชาชนทุกคน แม้แต่นายอัจฉริยะในฐานะภาคประชาชนนั้นเดินหน้าทำการตรวจสอบต่อไปอย่าได้หยุด แต่การตรวจสอบนั้นต้องรวบรวมข้อมูลหลักฐานให้ชัดเจนก่อนจะกล่าวหาผู้ใด เพราะการใช้คำพูด 2-3 คำให้ร้ายผู้อื่นโดยปราศจากความเป็นธรรมตั้งแต่ต้นเสียแล้วเช่นนี้ เราจะไปหาความเป็นธรรมให้กับประชาชนได้อย่างไร จึงขอให้นำพยานหลักฐานทุกชนิดเข้าสู่กระบวนการสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือทุกสำนักได้เลย เพราะดิฉันเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของประเทศ และไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบใดๆในเรื่องนี้ หรือตรวจสอบผู้อื่นที่ทำผิดกฎหมายด้วยการกักตุนสินค้าควบคุม โดยเฉพาะรายที่มีหลักฐานชัดเจนผ่านตามคลิปวิดิโอที่ถ่ายทอดสด Facebook Live จากโกดังต่างๆนั้น ก็อย่าให้เงียบหายไป ขอให้ทำการตรวจสอบอย่างเท่าเทียมกัน” นางมัลลิกา กล่าว
นางมัลลิกา กล่าวด้วยว่า สำหรับตน “นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข” เชื่อมั่นและเชื่อใจได้ เพราะการทำงานที่ผ่านมาก็ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมืองมาแล้วหลายครั้ง ทั้งเลขานุการรัฐมนตรี และที่ปรึกษารัฐมนตรี ผ่านการทำหน้าที่มาทั้งหมด 3 กระทรวง ไม่เคยมีความด่างพร้อย และตลอดเส้นทางการทำงานนั้นได้ยึดหลักความซื่อสัตย์สุจริตเสมอมา หลักการนี้มันอยู่ที่จิตสำนึก มโนสำนึก ไม่ได้อยู่ในบุคลิกหน้าตา มัลลิกาเป็นมนุษย์ทำงาน จึงมุ่งมั่นทำงาน ขอให้กำลังใจมนุษย์ทำงานทุกคน มนุษย์ทำงานต้องได้รับความเป็นธรรม
“ในภาวะวิกฤตนี้ ทุกคนต่างมีงาน มีหน้าที่ มีความรับผิดชอบ ทั้งข้าราชการกระทรวงพาณิชย์และฝ่ายบริหารทุกคนต่างก็มุ่งมั่นทำงานในภาวะวิกฤต และตลอดเดือนกว่ามานี้ หลายคนต้องอดตาหลับขับตานอน โดยเฉพาะข้าราชการที่กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ต้องทำงานแก้ไขปัญหาทุกวินาทีที่เขาหายใจ ซึ่งอาจจะไม่สามารถทำให้ถูกใจทุกคนได้เพราะปัจจุบันนี้ภาระหน้าที่ซึ่งอยู่ตรงหน้าเป็นวิกฤตระดับโลก แต่ทุกคนก็สู้สุดใจในการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนจนสุดกำลังความสามารถ” นางมัลลิกา กล่าว
อ้างอิงจาก: https://www.facebook.com/PoliticsKalaland/posts/1296672923871231:0?__tn__=K-R
https://www.facebook.com/serithai.net