ชาวพุทธร่ำไห้ไฟไหม้ศาลาวัดบ้านสะพุงขนาดใหญ่วอดทั้งหลัง สาเหตุของการเพลิงไหม้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
ชาวพุทธร่ำไห้ไฟไหม้ศาลาวัดบ้านสะพุงขนาดใหญ่วอดทั้งหลัง สาเหตุของการเพลิงไหม้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 16.15 น. วันที่ 22 ก.พ. 63 ร.ต.อ.สมบัติ อ่างศิลป์ รองสารวัตรปราบปราม สภ.ตูม อ.ศรีรัตนะ จ.ศรีสะเกษ ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ศาลาวัดบ้านสะพุง บ้านสะพุง ต.สะพุง อ.ศรีรัตนะ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ ตร.จำนวนหนึ่ง เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่า ไฟกำลังลุกไหม้ศาลาวัดบ้านสะพุงอย่างรวดเร็วมาก เนื่องจากว่า ศาลาวัดทำด้วยไม้ทั้งหลังและสร้างมานานแล้ว ทำให้เป็นเชื้อไฟได้เป็นอย่างดี ท่ามกลางเสียงร้องร่ำไห้ของบรรดาชาวบ้านที่พากันมาเฝ้าดูเหตุการณ์แต่ว่าไม่สามารถที่จะดับไฟได้ และได้ทำการตีระฆังรวมทั้งตีกลองในวัดเพื่อส่งเสียงให้ชาวบ้านมาช่วยกันดับไฟ ซึ่งพระและชาวบ้านได้ช่วยกันตักน้ำดับไฟ แต่ว่าไม่สามารถที่จะดับเพลิงได้ เพราะไฟลุกไหม้อย่างรุนแรงมาก จึงได้แจ้งไปยัง อบต.สะพุง และ อบต.ตูม รวมทั้ง อบต.ที่อยู่ใกล้เคียง เพื่อขอรถดับเพลิงมาช่วยฉีดน้ำดับเพลิงอย่างเร่งด่วน ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชม.เศษ จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ปรากฏว่า ศาลาวัดขนาดใหญ่ได้ถูกไฟไหม้หมดทั้งหลัง
จากการสอบถามชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่า เพลิงไหม้เกิดขึ้นที่บริเวณชั้นบนด้านทิศเหนือของศาลาวัด ช่วงแรกเป็นควันดำลอยพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าจำนวนมาก จากนั้น เปลวไฟได้โหมลุกไหม้ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านได้พากันตะโกนร้องเรียกกันให้มาช่วยดับไฟ แต่ว่าไม่สามารถดับไฟไว้ได้เพราะไฟลุกไหม้อย่างน่ากลัวมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ ตร.แผนกพิสูจน์หลักฐาน จะได้ทำการตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ต่อไป เบื้องต้นจากการตรวจสอบแล้วไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตแต่อย่างใด
ต่อมาเวลา 17.45 น. วันเดียวกัน นายสำรวย เกษกุล รอง ผวจ.ศรีสะเกษ และคณะ ได้เดินทางมาตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งได้สั่งการให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทั้ง อ.ศรีรัตนะและ อบต.สะพุง ได้เข้ามาให้การช่วยเหลือดูแลพระสงฆ์ในวัดที่ประสบอัคคีภัยในครั้งนี้อย่างเร่งด่วนต่อไปแล้ว
ขอบคุณภาพสมาชิกเฟสบุ๊คใช้ชื่อว่า ชีวิตต้อง'ง' ดำเนินต่อไป'ป'
ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าว จ. ศรีสะเกษ
ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าว จ. ศรีสะเกษ