จุดสังเกตในภาพยนตร์ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่ผู้ชมหลายๆ คนมองข้าม
ภาพยนตร์ทุกๆ เรื่องนั้นต่างก็มีจุดน่าสังเกตและข้อผิดพลาด ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่ใช้ทุนสร้างมหาศาลหรือภาพยนตร์ที่โด่งดังไปทั่วโลกก็ตาม หนึ่งในนั้นก็คือภาพยนตร์เรื่อง แฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่สนุกสนานจนทำให้แฟนๆ หลายคนมองข้ามข้อผิดพลาดหรือปัญหาเหล่านี้ไปได้อย่างสนิทใจเลยทีเดียว
และซึ่งสิ่งน่าสังเกตและข้อผิดพลาดในภาพยนตร์เรื่อง แฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่ไม่ว่าจะเกิดจากการทำงานผิดพลาด เหตุสุดวิสัย ความบังเอิญ หรืออะไรก็ตาม แต่ก็เป็นข้อผิดพลาดที่มีความน่าสนใจมาก และผู้ชมส่วนใหญ่กลับมองข้ามมันไปได้ โดยกฎเกณฑ์และการรักษาความปลอดภัยที่แปลกประหลาดของโรงเรียนฮอกวอตส์ ที่ว่ากันว่าเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดในโลกพ่อมดแม่มด แต่แฮร์รี่และผองเพื่อนกลับต้องพบเจอกับประสบการณ์เสี่ยงตายหลายครั้ง และบางครั้งก็เป็นกิจกรรมของโรงเรียนเองอย่างการแข่งขันควิดดิช แต่การไปเที่ยวหมู่บ้านฮอกส์มี้ดที่ดูปลอดภัยมากกลับเป็นสิ่งที่แฮร์รี่ไม่ได้รับอนุญาต เพราะไม่มีจดหมายจากผู้ปกครอง ขณะที่กิจกรรมอื่นๆ แทบจะไม่ต้องมีการขออนุญาตเลย
เรื่องราววันแรกในภาพยนตร์นั้นชวนให้สับสนมาก เพราะแฮกริดมาหาแฮร์รี่ในวันเกิดของเขา คือวันที่ 31 กรกฎาคม จากนั้นก็พาไปซื้อของที่ตรอกไดแอกอน และเอาตั๋วรถไฟให้แฮร์รี่ ซึ่งก็เป็นตั๋วของวันที่ 31 เช่นเดียวกัน จึงไม่น่าจะทำทุกอย่างได้ทันเวลา ขณะที่ในหนังสือนั้นแฮร์รี่ได้กลับบ้านไปก่อนและกลับมาขึ้นรถไฟในอีก 1 เดือนต่อมา
เรื่องที่ชวนให้สงสัยว่าทำไม ลูเซียส มัลฟอย จึงพาด๊อบบี้ไปที่ปราสาทฮอกวอตส์ด้วย ทั้งๆ ที่ส่วนใหญ่แล้วเอลฟ์ประจำบ้านมักจะถูกสั่งให้อยู่ติดบ้านเสมอ แต่วันนั้นเขาก็พาด๊อบบี้ไปด้วยจึงทำให้แฮร์รี่ช่วยปลดปล่อยด๊อบบี้ได้
กฎที่แปลกประหลาดของการประลองเวทย์ไตรภาคี ที่ถึงแม้ว่า เฟลอร์ เดอลากูร์ จะทำภารกิจไม่สำเร็จ แต่ก็ไม่ถูกตัดสิทธิ์ออกจากการแข่งขัน และยังแทบไม่มีผลอะไรต่อการแข่งขันในด่านสุดท้าย เพราะคนที่คะแนนน้อยกว่าก็แค่ได้เข้าไปในเขาวงกตหลังจากคนที่คะแนนสูงกว่าเท่านั้น แต่ทุกสิ่งในเขาวงกตที่พวกเขาต้องเจอก็เหมือนกันหมด
ความผิดพลาดของกุญแจนำทาง ที่ในภาคที่ 4 เคยกล่าวไว้ว่าใช้ได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น เมื่อใช้งานเสร็จแล้วก็จะไม่สามารถใช้ได้อีก แต่ในภาคที่ 5 กลับสามารถพาแฮร์รี่และเซดริกไปและกลับจากสุสานได้ถึง 2 รอบด้วยกัน
ทางเลือกที่แปลกประหลาดของครอบครัว แบล็ก ที่คลั่งไคล้เลือดบริสุทธิ์มาก แต่กลับเลือกอาศัยอยู่ในย่านที่เต็มไปด้วยมักเกิ้ล ทั้งๆ ที่อยู่ในย่านที่มีแต่พ่อมดแม่มดก็ได้ หรือต้นตระกูลของพวกเขาอาจจะไม่ได้เป็นแบบเดียวกัน
ความแตกต่างของภาพยนตร์และหนังสือ ที่ดัมเบิลดอร์ดูตกใจมากเมื่อรู้ว่าโวลเดอมอร์สร้างฮอร์ครักซ์ ทั้งๆ ที่เขาเคยเห็นบันทึกของทอมมาแล้วและน่าจะเดาได้ว่ามันคืออะไร แตกต่างจากในหนังสือที่ดัมเบิลดอร์ไม่ได้เอาความทรงจำของซลักฮอร์นมาเพื่อหาคำตอบเรื่องนี้ แต่เอามาเพราะต้องการที่จะรู้ว่าโวลเดอมอร์ทำฮอกครักซ์ไว้กี่อัน
และความผิดพลาดในภาพยนตร์ ฉากที่ลิลี่นั่งอยู่กับเจมส์และซิเรียส ที่ชุดเครื่องแบบของพวกเขานั้นผิดพลาด เพราะพวกเขายังอยู่แค่ปีหนึ่งจึงน่าจะสวมเครื่องแบบเหมือนลิลี่ ไม่น่าจะสวมเครื่องแบบที่มีสัญลักษณ์ประจำบ้านแล้ว
รูปร่างหน้าตาของโวลเดอมอร์ขณะที่เขาฆ่าเจมส์และลิลี่ ที่มีหน้าตาน่ากลัวและไม่มีจมูกเหมือนปีศาจ แต่รูปลักษณ์นี้เกิดขึ้นตอนที่ถูกชุบชีวิตในภายหลัง จริงๆ แล้วในตอนนั้นเขาน่าจะมีรูปลักษณ์ที่น่าสยดสยองน้อยกว่านี้มาก
ฉากที่แฮร์รี่บอกว่าเขาสัมผัสได้ถึงฮอร์ครักซ์นั่นก็คือล็อกเก็ตของอัมบริดจ์ แต่ก่อนหน้านั้นพวกเขาก็ขึ้นลิฟต์ด้วยกัน เพราะเหตุใดแฮร์รี่จึงไม่สามารถสัมผัสได้ในตอนแรก จะได้จัดการให้เสร็จตั้งแต่ตอนที่อยู่ในลิฟต์ด้วยกันไม่กี่คน
ดวงตาของนักแสดงที่ไม่ตรงกับคำบรรยายในหนังสือ อย่างเช่นแฮร์รี่ที่ไม่ได้มีดวงตาสีเขียว หรือลิลี่ที่ดวงตาเป็นสีน้ำตาลแตกต่างจากลูกชายมากทั้งๆ ที่ดวงตาของพวกเขาควรจะเหมือนกัน นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งเรื่องน่าสนใจก็คือตอนแรก ทอม เฟลตัน มาออดิชั่นในบทบาทของแฮร์รี่ แต่สุดท้ายก็ได้รับบทเป็น เดรโก มัลฟอย แทน
และความผิดพลาดของฉากในภาพยนตร์ ที่สิ่งก่อสร้างบางอย่างก็ไม่ควรอยู่ตรงนั้น อย่างเช่นลอนดอนอายที่สร้างในปี 2000 แต่เรื่องราวในภาพยนตร์เกิดขึ้นในปี 1997 หรือสิ่งก่อสร้างอื่นๆ อย่างสะพานที่โวลเดอมอร์ทำลายก็ด้วย