ทิ้งอาชีพดาราญี่ปุ่น มาชัดส้วม ตามฝันเป็นล่าม เรื่องราวของ อุ้ม ธีราทร
เพจ ฟุตบอล108 ได้โพสต์ภาพของชายไทยท่านหนึ่งพร้อมเล่าเรื่องราวระบุว่า ทิ้งอาชีพดาราญี่ปุ่น มาขัดส้วม ตามฝัน เป็นล่าม อุ้ม ธีราทร
ผมอยู่ญี่ปุ่นมา 19 ปีแล้วครับ อยู่มาตั้งแต่อายุ 15 จบม3 ก็มาอยู่กับแม่ที่แต่งงานกับคนญี่ปุ่น เรียนที่นี่ ทำงานที่นี่ถึงทุกวันนี้ครับ หนุ่มผิวคล้ำ ลูกอีสาน จากจังหวัดบึงกาฬ ที่ปรากฏกายอยู่เคียงข้าง อุ้ม ธีราทร บุญมาทัน ว่าที่นักเตะไทยคนแรกที่จะเป็นแชมป์เจลีก ทุกย่างก้าวตลอดระยะเวลา 2 ปีบนแผ่นดินอาทิตย์อุทัย เล่าถึงที่มาของตัวเองให้ฟัง
มิว นริศ จำปาลี ย้อนความหลังให้ฟังว่า ชีวิตตลอด 19 ปีบนดินแดนญี่ปุ่น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆอย่างที่หลายคนคิดกัน หลังจากที่เขาเรียนจบไฮสคูลแล้ว ก็เข้าทำงานที่บริษัทฮอนด้า มีหน้าที่เป็นนายช่างซ่อมรถ และติดตั้งอุปกรณ์ประดับยนต์ก่อนส่งถึงมือลูกค้า
แม้จะมีรายได้งดงาม แต่ตลอดเวลา 12 ปีในฐานะช่าง เขาต้องทำงานอย่างหนัก ทานข้าวกล่องใต้ท้องรถ เพื่อขันน็อตสปอยเลอร์ไปด้วย หลายต่อหลายครั้งที่เขาต้องทำโอที เพื่อเร่งส่งรถให้ลูกคัา กลับบ้านตี 4 เพื่อออกไปทำงาน 8โมงเช้าของวันใหม่
งานที่หนักมากไม่ต่างจากกรรมกร แม้ค่าแรงจะสูงแต่ไม่คุ้มกับสุขภาพที่ตรากตรำ เด็กหนุ่มจากบึงกาฬ เริ่มมองหางานที่เบากว่า ที่เหมาะกับร่างกายในช่วงที่กำลังจะเลยวัยรุ่นได้มากกว่า
เขาโชคดี ที่คนญี่ปุ่น ส่วนมากผิวขาว เมื่อเขาเดินไปสมัครงานเป็นนักแสดงตัวประกอบ ที่สามารถพูดภาษาญี่ปุ่นได้ดีกว่าเจ้าของภาษา ผู้กำกับภาพยนตร์จึงเลือกให้เขารับบท ชาวต่างชาติในหนังญี่ปุ่น
นั่นเป็นจุดเริ่มต้นให้ถอดชุดหมี สถานะช่างที่ดำรงมาตลอดชีวิต เข้าสู่อาชีพใหม่
มิว เล่นหนัง เล่นละครอยู่หลายเรื่อง ระหว่างนั้นก็รับงานพิเศษ ด้วยการเป็น ล่าม แปลไทย ญี่ปุ่น ญี่ปุ่น ไทย ให้กับนักธุรกิจของ 2 ชาติ และอีเว้นท์ต่างๆไปด้วย
จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของเขา เกิดขึ้นในวันที่ เดินไปซื้อตั๋วราคา 15000 เยน เพื่อเข้าชมเกมฟุตบอลโลก2018 รอบคัดเลือกระหว่างญี่ปุ่น กับ ไทยที่ไซตามะ สเตเดี้ยม
แม้ชาติบ้านเกิดจะแพ้ให้แผ่นดินที่อาศัยไป 0 ต่อ 4 แต่บรรยากาศในสนามวันนั้น ปลุกสัญชาตญาณเก่าๆที่เคยเป็นนักเตะอบต บึงกาฬให้กลับมาอีกครั้ง เขาอยากจะดูฟุตบอล อยากจะมีส่วนร่วม อยากจะกลับมาหากีฬาที่เขารักอีกครั้ง
จบฟุตบอลโลกมีข่าวว่า จะมีนักเตะไทยมาค้าแข้งในเจลีก กำลังต้องการ ล่าม ที่พูดภาษาญี่ปุ่นได้ดี
มิว ไม่รอช้าติดต่อไปยังสโมสรซัปโปโร่ ที่บรรลุข้อตกลงกับ เจ ชนาธิป แต่ได้รับคำตอบว่า เจ มีล่ามแล้วมาจากเมืองไทย
เขาเดินหน้าร่อนใบสมัคร ไปยังทุกสโมสรที่มีข่าวว่านักเตะไทยจะมาค้าแข้ง ก่อนจะโดนปฏิเสธอีกครั้งจากฮิโรชิม่า ซานเฟรชเช่ ที่มี มุ้ย ธีรศิลป์มาเล่น
เมื่อมุ่งมั่นแล้วคนอย่างเขาไม่เคยยอมแพ้ ทันทีที่ข่าวออกว่า ธีราทร จะมาค้าแข้งกับวิสเซล โกเบ เขาก็หอบความมุ่งมั่น และเอกสาร ไปสมัครเป็นสโมสรที่ 3
ที่นี่เขาสมหวัง ได้รับเลือกให้เป็น ล่าม ประจำตัวของ ธีราทร บุญมาทัน
แต่รายได้ที่เขาจะได้รับ เหลือเพียง 1 ใน 3 ของงานเดิมที่เคยเป็นนักแสดงและล่ามธุรกิจ
นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะ ความฝัน ของมิว ยิ่งกว่า เงิน
แม้จะผ่านงานหนักมามากขนาดไหน แต่เขาก็ไม่เคยเจองานไม่ง่ายขนาดนี้
ผมเคยคิดว่าการเป็นล่ามฟุตบอลมันไม่น่ายากก็แค่แปลภาษา ซึ่งภาษาญี่ปุ่นผม 100 เปอร์เซนต์อยู่แล้ว แต่มันไม่ใช่เลย การเป็นล่ามฟุตบอลมันมีหลายอย่างที่ต้องเรียนรู้มาก ทั้งการเข้าใจจิตใจนักฟุตบอล การพยายามเข้าถึงสิ่งที่โค้ชต้องการสื่อสาร คือมันเหมือนกับว่าต้องเอาตัวเราสิงในร่างนักเตะให้ได้ ต้องทำให้เขายอมรับ ซึ่งอุ้มก็เป็นคนที่บุคคลิคเฉยๆผมต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะปรับตัวได้
การทำให้นักบอลเชื่อใจ เป็นกุญแจสำคัญ สำหรับอาชีพ ล่ามฟุตบอล
แต่การเป็นลูกจ้างสโมสรฟุตบอลญี่ปุ่น เขาต้องผ่านบททดสอบที่หนักหนากว่านั้น มันหนักจนเขาคิดจะยอมแพ้ เลิกทำอาชีพล่ามไปเลย
ตอนที่อยู่กับโกเบ ผมเคยถูกหัวหน้าของผมซึ่งเป็นเมเนเจอร์ สั่งให้ไปทำความสะอาดห้องน้ำ ขัดห้องน้ำ ซักผ้า รีดผ้า ขัดรองเท้าให้นักฟุตบอล ซึ่งผมก็งงว่ามันเป็นหน้าที่ของล่ามเหรอ ตอนนั้นผมโกรธมาก เพราะล่ามคนอื่นๆไม่เห็นต้องทำแบบผมเลย ผมต้องทำแบบนั้นอยู่ 6 เดือนคิดจะลาออกก็สงสารอุ้ม เพราะถ้าผมออกกลางคัน อุ้มก็ไม่มีใคร ตอนหลังผจก มาบอกผมว่าต้องการให้ผมเรียนรู้งานทุกอย่างในสโมสร และฝึกความอดทน วันหนึ่งถ้าผมไปทำงานที่อื่นจะได้ไม่ลำบาก
มิว หมดสัญญากับวิสเซล โกเบพร้อมกับอุ้ม เขาได้ประสบการณ์ชีวิตการเป็นล่ามฟุตบอลมาไม่น้อย แต่ความฝันของเขายังไม่สุด ฝันที่อยากจะเห็นนักเตะไทยสักคนประสบความสำเร็จบนเวทีเจลีก
เขาคิดว่า ชีวิตล่ามฟุตบอลของตัวเองคงจะจบไปพร้อมๆกับการกลับเมืองไทยของ โก๋อุ้ม ระหว่างที่กำลังหางานใหม่ ธีราทรก็ได้รับสัญญาจาก โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส สโมสรนี้ให้แบ็คซ้ายกัปตันทีมชาติไทยเป็นคนเลือก ล่ามประจำตัวเอง
แน่นอนว่า อุ้ม เลือก พี่มิว ที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่านอกจากจะเป็นผู้แปลภาษา ยังเป็นเพื่อนคู่คิด ที่คอยให้คำปรึกษามาตลอดทั้งฤดูกาล
การทำงานในปีนี้เขาไม่ใช่น้องใหม่ในวงการฟุตบอลอีกแล้ว งานของเขาคล่องแคล่วและราบรื่นขึ้น เช่นเดียวกับนักเตะของเขา ที่ประสบความสำเร็จก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับทีม ก้าวไปถึงโทรฟี่แชมป์เจลีกอย่างไม่น่าเชื่อ
พี่เชื่อไหม ว่าวันที่อุ้มยิงประตูได้ ผมเหมือนคนโดนไฟช็อต มันชาไปทั้งตัว ผมร้องไห้ออกมาอย่างไม่รู้ตัว มันอธิบายไม่ถูก มันเหมือนเราเป็นคนยิงเอง เหมือนเป็นคนที่ทำสำเร็จเอง เพราะตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันกับอุ้ม ม้นเป็นเหมือนคนๆเดียวกันตลอดมา
จากเด็กหนุ่มภาคอีสานของไทย ที่หิ้วกระเป๋ามาอาศัยแผ่นดินซากุระอยู่ตั้งแต่อายุ 15 เขาคือพลเมืองชั้น 2 ที่ต้องฝึกโค้งตัว อาริกาโตะๆมาตลอดชีวิต
วันนี้เขาได้กลายเป็นพลเมืองชั้น 1 พลเมืองคุณภาพ ที่คนญี่ปุ่นยกย่อง เช่นเดียวกับผู้เล่นในการดูแลของเขา
แค่นี้ นริศ จำปาลี บอกว่า ผมนอนตาหลับแล้วครับ
รับบทดาราตัวประกอบหนังญี่ปุ่น
ก่อนมาเป็นล่ามมิวเกมโชว์ญี่ปุ่นเชิญไปออกรายการบ่อยๆ
อ้างอิงจาก: https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=758119824654731&id=583834622083253
https://www.sawasdeesocial.com/