5 เหตุการณ์ชวนขนลุกที่ควรสร้างเป็นหนัง
1. ร่างของหนูน้อยพอลลีน พิคาร์ด?
ในปี 1992 หนูน้อยพอลลีน พิคาร์ด วัย 2 ขวบ หายตัวไปจากฟาร์มของครอบครัว ในเมืองเล็กๆ ของประเทศฝรั่งเศส หลังจากความหวังของครอบครัวกำลังหมดลง พอลลีนถูกพบห่างจากบ้าน ไปไกลถึง 300 กิโลเมตร และที่น่าประหลาดก็คือ เธอดูเหมือนจะไม่สามารถจดจำครอบครัวได้เลย แต่เหล่าเพื่อนบ้านและครอบครัวต่างก็ยืนยันว่าเป็นพอลลีนตัวจริง
ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นไปได้ด้วยดี แต่หลังจาก 1 เดือนผ่านไป เพื่อนบ้านก็พบกองเสื้อผ้าที่พับเรียบร้อย วางคู่กับร่างที่ถูกหั่นของเด็กหญิงปริศนา ใกล้กับบ้านของครอบครัวพิคาร์ด โดยเสื้อผ้าที่พับไว้นั้น เป็นชุดเดียวกับที่ พอลลีน ใส่ในวันที่เธอหายไป
ร่างของเด็กหญิงไม่สามาระบุตัวตนได้เพราะ ศรีษะ เท้า และมือถูกตัดออก (ใบหน้าถูกกัดแทะโดยหมาป่า) และที่แปลกไปกว่านั้นก็คือ พวกเขาได้ทำการค้นหาบริเวณที่พบศพหลายครั้งในช่วงที่พอลลีนหายไป แต่ไม่มีใครพบศพในช่วงนั้น ซึ่งแสดงว่าศพถูกเอามาทิ้งไว้หลังจากการค้นหาสิ้นสุดลง
ไม่ว่าร่างนั้นจะเป็นของพอลลีนหรือไม่ แล้วพอลลีนที่กลับมาคือตัวจริงหรือเปล่า คำตอบยังคงเป็นปริศนาต่อไป
2. คู่แฝดพอลล็อค
ในวัย 11 และ 6 ปี โจแอนนาและแจ็คเกอลีน พอลล็อค เสียชีวิตอย่างอนาถหลังจากถูกรถชน ขณะเดินทางไป โบสถ์ในปี 1957 หลังจากนั้นไม่นาน พ่อแม่ของพวกเธอได้ให้กำเนิดแฝดหญิง และมีคนหนึ่งที่มีปาน ตำแหน่งเดียวกับพี่สาวที่จากไปอย่างแจ็คเกอลีน
เมื่อฝาแฝดเริ่มโตขึ้น ความสนใจของพวกเขาเริ่มที่จะคล้ายคลึงกับพี่สาวที่จากไป รวมทั้งจำสถานที่ที่ไม่เคยไป ได้ (แต่พี่สาวที่จากไปเคยไปมาก่อน) จำตุ๊กตาและชื่อของตุ๊กตาได้ของพี่สาวได้ ทั้งๆที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
และที่น่ากลัวไปกว่านั้น แม่ของฝาแฝดมองดูพวกเขาเล่นเกมส์ที่พวกเขาแกล้งทำเป็นตาย และหนึ่งในนั้นพูดขึ้น ว่า "เลือดออกมาจากตาของเธอ นั่นแหละคือจุดที่รถชนเธอ" ซึ่งครอบครัวไม่เคยพูดเรื่องอุบัติเหตุมาก่อน
3. การหายไปของ เฟรเดอริก วาเลนติช
ในปี 1978 กัปตันเฟรเดอริก วาเลนติช บินออกจากเมลเบิร์น, ออสเตรเลีย ไปยังคิงไอส์แลนด์ ด้วยระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตร เมื่อเดินทางไปได้ประมาณครึ่งทาง เฟรเดอริกติดต่อ กับศูนย์ควบคุมทางอากาศ และถามว่ามีใครรู้เรื่องเครื่องบินลำอื่นที่บินอยู่บริเวณใกล้เคียงเขาบ้าง
และคำตอบคือไม่ แต่เฟรเดอริกมั่นใจว่าเขาเห็นวัตถุบินได้อยู่ใกล้ๆเขา เมื่อถูกถามว่าใช่เครื่องบินหรือไม่ เขาตอบกลับมาว่ามันเป็นวัตถุบินได้ที่มีรูปร่างคล้ายซิก้าที่มีไฟ และคำพูดสุดท้ายของเขาคือ "มันไม่ใช่เครื่องบิน"
หลังจากนั้น 7 นาทีต่อมา เครื่องบินของเฟรเดอริกก็สูญเสียสัญญาณวิทยุ และหลังจากนั้น ก็ไม่มีใครเคยได้ยินเสียงเขาอีกเลย นอกจากนี้ยังมีการรายงานว่ามีสัญญาณของ UFO เกิดขึ้นในวันนั้นและในบริเวณนั้นอีกด้วย
4. "ทามาม ชุด"
ศพชายนิรนามไม่ทราบสาเหตุการตาย ถูกพบบนชายหาดซอมเมอร์ตัน ที่เมืองแอดิเลด ประเทศออสเตรเลีย ในปี 1948 ศพสวมใส่สูท รองเท้าหนัง และนั่งพิงกำแพงอยู่ โดยไม่มีบัตรประจำตัว ไม่มีกระเป๋าสตางค์ ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และไม่พบสัญญาณของการต่อสู้หรือความทรมาน
หลังจากนั้น 4 เดือนถัดมา พวกเขาพบกระดาษในช่องลับในกระเป๋ากางเกง ที่ถูกฉีกจากหนังสือหายาก ที่เรียกว่า รุไบยาต เขียนว่า“Tamam Shud” (ทามาม ชุด) ซึ่งเป็นวลีภาษาเปอร์เซียที่แปลว่า "มันจบลงแล้ว"
หลังจากนั้น 8 เดือน มีคนพบหนังสือรุไบยาต ซึ่งเป็นเล่มเดียวกันกับที่กระดาษถูกฉีกออกมา ภายในหนังสือ มีรหัสที่เขียนไว้และจะปรากฎขึ้นเมื่ออยู่ภายใต้แสง UV ซึ่งไม่ทราบแหล่งที่มาของภาษาและความหมาย และรหัสนั้นก็ยังไม่สามารถไขปริศนาได้จนถึงทุกวันนี้
5.นักฆ่าแห่งเมืองฮินเทอร์ไคเฟค
ปริศนาเริ่มขึ้นจากรอยเท้าในหิมะลึก ล้อมรอบไปด้วยบ้านไร่ที่เงียบสงบ บ้านไร่ที่สูญเสียแม่บ้านไป ไม่กี่เดือนก่อนหน้าเพราะพวกเขาบอกว่าบ้านนี้มีผีสิง
หลังจากได้ยินเสียงฝีเท้าที่ห้องใต้หลังคา มีสิ่งของแปลกๆเข้ามาอยู่ในบ้านโดยไม่มีใครนำเข้ามา และกุญแจบ้านหายไปอย่างลึกลับ ทั้งครอบครัวก็หายไปจากบ้าน หลังจากพวกเขาหายไปได้ไม่นาน เพื่อนบ้านก็ไปค้นหาพวกเขาและพบพวกเขาส่วนใหญ่
ถูกฆ่าในยุ้งฉางด้วยอีเต้อ สำหรับคนที่ไม่ได้อยู่ในยุ้งฉาง อย่างแม่บ้านและลูกชายคนเล็ก ถูกฆ่าในเตียงของพวกเขาเอง หลังจากลงมือฆ่าเสร็จแล้ว ฆาตรกรยังคงอยู่ในบ้านต่อไปอีกซักพัก เนื่องจากเพื่อนบ้านเห็นควันลอยออกมาจากปล่องไฟ และอาหารในบ้านก็ถูกกินไป จนถึงทุกวันนี้ฆาตกรก็ยังลอยนวลต่อไป
บอกได้เลยว่าแต่ละเรื่องถ้าสร้างเป็นภาพยนตร์คงสะพรึงน่าดู!