หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

แอบในบ้านก็ไม่รอด กรม สบส. ร่วม อย. และตำรวจ บก.ปคบ.ทลายคลินิกสายตาเถื่อน ลักลอบใช้บ้านพักเปิดให้บริการรักษา

เนื้อหาโดย New Delight

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ทลายคลินิกสายตาเถื่อน นำที่พักมาดัดแปลงเป็นคลินิกให้บริการตรวจรักษาโรคที่เกี่ยวกับดวงตา พบผิดตั้งแต่สถานที่ ยันผู้ให้บริการ ไม่รอช้าสั่งฟันโทษทันที

5 ข้อหา

บ่ายวันนี้ (20 พฤศจิกายน 2562) นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า สืบเนื่องจากกรม สบส.ได้รับเบาะแสการประกอบกิจการคลินิกเถื่อน ในย่านภาษีเจริญ โดยนำบ้านพักมาดัดแปลงเป็นคลินิกให้บริการรักษาโรคเกี่ยวกับกับดวงตา และมีผู้เสียหายเกิดอาการตาอักเสบจากการรับบริการ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกายของประชาชน จึงต้องเร่งดำเนินการปราบปรามมิให้มีผู้เสียหายเพิ่มขึ้น ซึ่งในวันนี้ตน พร้อมกับ นางจัณฑนา จินดาถาวรกิจ ผู้อำนวยการกองกฎหมาย ผู้อำนวยการกองกฎหมาย และคณะพนักงานเจ้าหน้าที่จากกรม สบส. ได้ร่วมกับ เภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา พลตำรวจตรีณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) พลตำรวจตรีณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค  และพันตำรวจเอกชนันนัทธ์ สารถวัลย์แพศย์ ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เข้าดำเนินการกับคลินิก “พัฒนาสายตา” ตั้งอยู่ ณ ซอยเพชรเกษม 48 แยก 16 เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าคลินิกเถื่อนแห่งนี้ ให้บริการรักษาอาการความผิดปกติที่เกี่ยวกับดวงตา อาทิ สายตาสั้น/ยาว/เอียง ต้อหิน ต้อกระจก วุ้นในตาเสื่อม ฯลฯ ด้วยวิธีการหยอดยา ประคบยา ฝังเข็ม หรือสะกิดเส้น ฯลฯ เปิดทำการทุกวันพุธ เสาร์ และอาทิตย์ มาเป็นระยะเวลาประมาณ 2 ปี โดยมีหญิงวัยกลางคน เป็นเจ้าของสถานที่และผู้ให้บริการ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าหญิงรายดังกล่าว มิได้ขออนุญาตและขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมหรือผู้ประกอบโรคศิลปะ อีกทั้ง ยาสมุนไพรที่ใช้ประกอบการรักษาก็ไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับ อย. พนักงานเจ้าหน้าที่ฯ จึงแจ้งข้อหาการกับผู้กระทำผิด จำนวน 5 ข้อหา ประกอบด้วย

1)ประกอบกิจการและดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

2)ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ขึ้นทะเบียนและรับอนุญาต มีความผิดตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

3)ประกอบโรคศิลปะโดยไม่ขึ้นทะเบียนและรับอนุญาต มีความผิดตามพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ.2542 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

4)จำหน่ายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท และ 5)จำหน่ายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา มีความผิดตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมนำตัวผู้กระทำผิดและของกลางที่ตรวจยึดได้ส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการในขั้นตอนต่อไป

นายแพทย์ธเรศ กล่าวต่อว่า การรับบริการทางการแพทย์ทุกชนิด จะต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน อย่าด่วนตัดสินใจรับบริการเพียงเพราะคำบอกเล่าปากต่อปาก หรือราคาที่ถูก โดยเฉพาะการรักษาอาการที่เกี่ยวข้องกับดวงตาซึ่งเป้นอวัยวะที่มีความบอบบางยิ่งต้องตรวจสอบให้ดีมิฉะนั้นอาจได้รับผลกระทบจนถึงขั้นพิการตาบอดได้ โดยจะต้องตรวจสอบหลักฐานสำคัญ 4 ประการ เพื่อยืนยันว่าเป็นสถานพยาบาลที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งประกอบด้วย

1.ป้ายชื่อคลินิกต้องแสดงเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก

2.มีการแสดงใบอนุญาตเปิดกิจการคลินิก เลขใบอนุญาตต้องตรงกับเลขที่ที่ติดที่ป้ายชื่อคลินิก

3.มีการแสดงหลักฐานการชำระค่าธรรมเนียมคลินิกที่เป็นปีปัจจุบัน

4.มีการแสดงหลักฐานของแพทย์ที่ให้บริการในคลินิก โดยมี ชื่อ-นามสกุล และภาพถ่ายติดที่หน้าห้องตรวจ

โดยสามารถตรวจสอบชื่อคลินิกได้ที่เว็บไซต์สำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรม สบส.(http://mrd-hss.moph.go.th) และตรวจสอบชื่อแพทย์ได้ที่เว็บไซต์แพทยสภา (https://tmc.or.th) หากไม่พบรายชื่อหรือหลักฐานไม่ครบถ้วนไม่ควรรับบริการ และหากอยู่ในเขตกรุงเทพฯให้แจ้งมาที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน กรม สบส.หมายเลขโทรศัพท์ 02 193 7057 แต่หากอยู่ในส่วนภูมิภาคสามารถแจ้งได้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

เนื้อหาโดย: New Delight
Tags  สบส
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
New Delight's profile


โพสท์โดย: New Delight
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: New Delight
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เปิดตัวแฟชั่นทนายสายหยุด ที่มาพร้อมกับเครื่องประดับสุดหรู ราคาต่อชิ้นไม่ธรรมดา"ฟิล์มแรปหลอมในอาหาร อันตรายหรือไม่? คำตอบจากบริษัทดัง!"อีกมุมของ "ยายสา" ตำนานแม่มดแห่งสมิหลา กับความลึกลับที่ไม่มีใครกล้าท้าทาย""ตารางลดน้ำหนัก" ฉบับกินยังไงก็ผอมวันนี้เป็นต้นไป ห้ามรถบรรทุก 10 ล้อ ขึ้นสะพานข้ามแยก 24 แห่งศาล ICC ออกหมายจับ ผู้นำอิสราเอลแล้วเลขเด็ด เลขมาเเรง เลขดัง "รวมหวยเด็ดสำนักดัง vol.5" งวดวันที่ 1 ธันวาคม 2567นางเอกดังสุดเศร้า กับการสูญเสียครั้งใหญ่ โพสต์อาลัยรักสุดหัวใจรอยสัก Ta Moko : ศิลปะบนใบหน้าที่สะท้อนจิตวิญญาณของชนเผ่าเมารีตำรวจ ตามรวบจนครบ 3 โจ๋เหิมเกริม ใช้มีดฟันคู่อริ กลางสถานี BTSเลขเด็ด "เสือตกถัง พลังเงินดี" งวด 1 ธันวาคม 67..รีบเลย ช้าอดหวยหมดแน่!รัสเซียเปิดฉากยิงขีปนาวุธเทพใส่ยูเครนแล้ว
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
อีกมุมของ "ยายสา" ตำนานแม่มดแห่งสมิหลา กับความลึกลับที่ไม่มีใครกล้าท้าทาย"เศร้า นักท่องเที่ยวสาวต่างชาติ เสียชีวิตแล้วที่ไทย หลังดื่มเหล้าเถื่อนปลอมที่ลาววันนี้เป็นต้นไป ห้ามรถบรรทุก 10 ล้อ ขึ้นสะพานข้ามแยก 24 แห่ง"ตารางลดน้ำหนัก" ฉบับกินยังไงก็ผอมเลขเด็ด "เสือตกถัง พลังเงินดี" งวด 1 ธันวาคม 67..รีบเลย ช้าอดหวยหมดแน่!
กระทู้อื่นๆในบอร์ด เล่าเรื่องชวนคุย
ความจนไม่เจอกับตัวไม่มีใครรู้ด่วน!! แม่ฮ่องสอน ระดับน้ำวิกฤติหนักทนายเชาว์ เห็นด้วย กับ บิ๊กโจ๊ก นำคลิปจากกล้องวงจรปิดบางช่างบางตอนมาเปิดให้สังคมได้รับทราบกรม สบส. แนะ 3 ส. ป้องกันควบคุมโควิด 19 ตามชีวิตวิถีใหม่ในหอพัก คอนโด
ตั้งกระทู้ใหม่