เด็กลูกครึ่งไทย-ปากีสถานถูกพ่อกักตัว ไม่ให้กลับมาหาแม่ที่เมืองไทย ด้วยกรอบกฎหมายทั้งสองประเทศ
ภาพประกอบจาก google
จากกรณีทีมีสมาชิกพันทิปท่านหนึ่งตั้งกระทู้ หัวข้อ ฉันอยากกลับประเทศไทยมาก แต่พ่อขังฉันไว้ที่ต่างประเทศและไม่มีใครช่วยฉันได้เลยTT
ด้านเพจ Poetry of Bitch สรุปข่าวเด็กลูกครึ่งไทย-ปากีสถานถูกพ่อกักตัวไม่ให้กลับมาหาแม่ที่เมืองไทย ไว้ว่า...
:
1- “โมนา” (นามสมมุติ) เป็นลูกครึ่งไทย-ปากีสถาน แม่เป็นคนไทย พ่อเป็นคนปากีสถาน โมนาเกิดและโตที่เมืองไทย เธอมีพี่ชาย 1 คน
2- ต่อมาพ่อกับแม่ของโมนาเลิกกัน (แต่ยังไม่ได้จดทะเบียนหย่า) พ่อจึงกลับไปปากีสถาน ก่อนกลับพ่อพยายามพาโมนากับพี่ชายไปด้วย แต่แม่ไม่ยอม และเด็ก ๆ ก็อยากอยู่กับแม่มากกว่า พ่อจึงกลับปากีสถานไปคนเดียว
3- เมื่อพ่อกลับไปแล้วก็ยังไม่ล้มเลิกความพยายามที่เอาตัวลูก ๆ ไปอยู่ด้วย พ่อโทรมาพูดโน้มน้าวให้ลูก ๆ ไปหา ใช้ไม้อ่อนว่าแค่มาเที่ยวดูก่อนก็ได้ ถ้าไม่ชอบค่อยกลับ
4- เมื่อพ่อชวนบ่อย ๆ เข้า โมนาก็เริ่มอยากไปปากีสถานสักครั้ง ตอนนั้นโมนาอายุ 14 ปี เพิ่งเรียนจบ ม.2 และอยู่ระหว่างปิดเทอมพอดี
5- เธอขอให้แม่พาไปหาพ่อ แม่กับพี่ชายไม่เต็มใจนัก แต่เมื่อโมนาอยากไป ประกอบกับพ่อก็ส่งตั๋วเครื่องบินมาให้ ในที่สุดทั้งสามคนจึงบินไปหาพ่อที่เมืองราวัลปินดี ในแคว้นปัญจาบ เมื่อปี 2560
6- เมื่อไปถึง พ่อพยายามเอาใจลูก ๆ อย่างเต็มที่ ทั้งพาไปเที่ยว ทั้งพยายามซื้อรถให้ลูกชาย แต่เด็ก ๆ ก็ยังยืนยันว่าจะอยู่ประเทศไทย และขอให้พ่อซื้อตั๋วกลับให้
7- พ่อซื้อตั๋วขากลับให้ แต่ปรากฏว่าพ่อซื้อตั๋วเพียง 2 ใบ สำหรับแม่กับพี่ชายเท่านั้น ไม่มีตั๋วของโมนา!
8- พ่ออ้างว่ายังไม่เปิดเทอม ให้โมนาอยู่กับพ่อไปก่อน แม่เองก็ไม่มีเงินพอจะซื้อตั๋วให้โมนา จึงจำต้องทิ้งโมนาไว้กับพ่อไปก่อน โมนาไปส่งแม่กับพี่ชายที่สนามบินทั้งน้ำตา
9- เมื่อแม่กับพี่ชายกลับถึงไทยแล้ว แม่ก็รบเร้าให้พ่อซื้อตั๋วกลับให้โมนา พ่อโกรธมากและสั่งห้ามโมนาติดต่อกับแม่ เมื่อไหร่ที่โมนาขอกลับไทย พ่อจะตัดอินเตอร์เน็ต หรือไม่ก็ยึดโทรศัพท์ไปเป็นอาทิตย์
10- เม.ย. 61 วีซ่าของโมนาหมดอายุ พ่อได้ดำเนินการขอสัญชาติให้โมนาและพาไปทำบัตรประชาชนปากีสถาน ทำให้โมนาถือ 2 สัญชาติ และสามารถอยู่ปากีสถานได้โดยไม่ต้องใช้วีซ่า
11- ต่อมาแม่ได้ฟ้องหย่าพ่อต่อศาลไทย เพื่อจะได้ขอสิทธิ์ในการปกครองลูก พ่อจึงบล็อกการติดต่อจากแม่ทุกช่องทาง
12- นับจากวันนั้นมา นี่ก็เป็นเวลาเกือบ 3 ปีแล้วที่โมนาต้องติดอยู่ที่ปากีสถาน โดยเธออยู่กับพ่อ แม่เลี้ยง และย่า
13- พ่อดูแลโมนาดีทีเดียว แต่เธอต้องใช้ชีวิตอยู่แต่ในบ้าน ไม่ได้ออกไปไหนเลย เนื่องด้วยพื้นฐานทางศาสนา ทำให้ผู้หญิงปากีสถานส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยออกนอกบ้านกันอยู่แล้ว
14- เม.ย. 62 โมนากับแม่แอบติดต่อขอความช่วยเหลือจากสถานทูตไทยในกรุงอิสลามาบัด สถานทูตจึงติดต่อขอเข้าเยี่ยมโมนา แต่พ่อไม่อนุญาต
15- สถานทูตไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก เนื่องจากพ่อกับแม่ของโมนาจดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมายไทย ทำให้สิทธิ์การเลี้ยงดูลูกเป็นของทั้งพ่อและแม่ และโมนาเองก็ยังมีสถานะเป็นผู้เยาว์ (17 ปี)
16- ประกอบกับพ่อเองก็ดูแลโมนามาโดยตลอด ไม่เคยทำร้ายร่างกาย เพียงแต่จำกัดสิทธิ์ไม่ให้กลับไทยเท่านั้น จึงยากจะดำเนินการช่วยเหลือ เนื่องจากเป็นเรื่องภายในครอบครัว
17- โมนาตัดสินใจไปคุยกับพ่อเรื่องขอกลับเมืองไทยอีกครั้ง เพราะเธอไม่อยากอยู่ที่นี่จริง ๆ ทำให้พ่อโกรธมากและยึดโทรศัพท์ไปอีกครั้ง
18- เมื่อพ่อเห็นข้อความที่โมนาติดต่อกับสถานทูต พ่อจึงยึดหนังสือเดินทางและบัตรประชาชนไปด้วย โดยคราวนี้พ่อยึดโทรศัพท์ของโมนานานถึง 2 เดือน
19- ก่อนหน้านี้สถานทูตไทยแนะนำว่า ถ้าแม่มารับตัวโมนาที่ปากีสถานด้วยตนเองจะมีความเป็นไปได้มากกว่า แต่แม่ยังไม่มีเงินพอจึงจำเป็นต้องเก็บเงินก่อน แต่ตอนนี้ก็ไม่สามารถทำแบบนั้นได้อีกแล้ว เพราะพ่อยึดหนังสือเดินทางไทยของโมนาไปแล้ว
20- ตอนจากเมืองไทยมา โมนาจบ ม.2 ตอนนี้เพื่อน ๆ ของเธอเรียนชั้น ม.ปลายกันหมดแล้ว แต่โมนากลับไม่ได้เรียนต่อ ที่ปากีสถานพ่อก็ไม่ได้ให้เธอเรียนหนังสือ
21- 1 ต.ค. 62โมนาตัดสินใจตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ “พันทิป” เพื่อขอความช่วยเหลือ ชื่อกระทู้ว่า “ฉันอยากกลับประเทศไทยมาก แต่พ่อขังฉันไว้ที่ต่างประเทศ และไม่มีใครช่วยฉันได้เลย TT”
22- 5 ต.ค. สถานทูตไทยในกรุงอิสลามาบัดได้ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กออฟฟิเชียล ถึงข้อจำกัดในการให้ความช่วยเหลือโมนา พร้อมระบุว่าได้ติดตามกรณีของโมนามาโดยตลอด และกำลังแก้ไขปัญหาภายใต้กรอบกฎหมายของไทยและปากีสถาน
23- มีคนเข้าไปให้คำแนะนำกับโมนาว่า ให้โมนายอมรับและเผชิญความจริงอย่างเข้มแข็ง ตอนนี้ให้น้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพ่อและคนในครอบครัวใหม่ไปก่อน เพื่อทำให้ทุกฝ่ายรวมทั้งตนเองมีความสุข ทำให้พ่อไว้วางใจและปรึกษาพ่อเรื่องเรียนต่อในปากีสถาน
24- และยังมีคนแนะนำโมนาว่า อย่านำความบาดหมางของพ่อแม่มาเป็นเกณฑ์ตัดสินว่าเส้นทางชีวิตนี้ผิด ให้รอจนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสม เช่น บรรลุนิติภาวะ แล้วค่อยทบทวนอีกครั้งหนึ่ง
เป็นกำลังใจให้น้องโมนานะคะ
คำชึ้แจงทางเพจ Thai Embassy Islamabad