สู้ชีวิต!! ขายยาคูลท์ 40 ปี ซื้อที่ 60ไร่ ส่งลูกเรียนจบปริญญา จนมีเงินเก็บ 2.6 ล้าน
เชื่อว่าเรื่องราวที่นำมาฝากในวันนี้คงช่วยสร้างแรงบรรดาลใจให้กับใครอีกหลายๆคน เป็นเรื่องราวของสาวยาคูลท์ “สายันห์ ธุรีวรรณ” วัย 58 ปี ซึ่งทำอาชีพนี้มา 40 ปีแล้ว ขายมาตั้งแต่ราคาขวดละ 3 บาท จนตอนนี้ราคา 8 บาทแล้ว
คุณสายันห์ เป็นสาวยาคูลท์ ประจำศูนย์รังสิต 5-4 จ.ปทุมธานี ทุกๆเช้าเวลาประมาณตีห้าครึ่ง ขณะที่หลายคนเพิ่งจะลุกจากที่นอนนุ่มๆหรืออาจจะยังไม่ตื่นด้วยซ้ำ แต่กลับเป็นเวลาที่พี่สายันห์กับเจ้ารถจักรยานยนต์คู่ใจพากันออกจากบ้านไปทำงานแล้ว
ขออนุญาตแนะนำตัวกันก่อนนะคะ คุณ สายันห์ เกิดที่บ้านสามง่าม อ.หันคา จ.ชัยนาท มีพี่น้อง 5 คน ตอนแรกไม่รู้จะหางานอะไรทำ ไปสมัครงานที่ไหนเขาก็ไม่รับ เพราะเรียนจบแค่ชั้น ป.7 ทางบ้านกิจการรถ 6 ล้อของพ่อก็เปลี่ยนไปตามยุคสมัย จนขายทิ้งหมด
ส่วนลูกผู้หญิงสมัยนั้นแค่ทำกับข้าวให้สามีทานก็พอแล้ว ไม่ต้องเรียนหนังสือ พี่สาวคนโตไม่ได้เรียน พี่ชายคนรองได้เป็นตำรวจ และด้วยความที่เป็นลูกคนกลาง น้องสาวทำนาทำไร่ดูแลพ่อแม่ ส่วนน้องชายคนสุดท้องก็จบเพียงชั้นม.6 ” เธอเล่าอย่างตรงไปตรงมา สะท้อนให้เห็นภาพสมัยนั้น
ก่อนมาสมัครเป็นสาวยาคูลท์ เธอได้แต่งงานและย้ายมาอาศัยกับสามีที่ย่านรังสิต เพราะสามีของเธอทำงานโรงงาน กระทั่งมีเพื่อนแนะนำให้รู้จักกับยาคูล ท์ แต่ในใจก็แอบกังวลว่าจะทำได้หรือไม่ ซึ่งที่นี่ก็ให้โอกาสเธอได้ทำงานที่แรกเขตสีลม เธอคิดใจในว่า
รับจ้างเกี่ยวข้าว ตัดอ้อยเป็นไร่ ๆ ยังทำได้ ถ้าอยากได้เงินเดือนเท่าไหร่ ก็แค่หาลูกค้าให้ได้เยอะ ๆ จากนั้นย้ายไปเป็นสาวยาคูลท์ เขตพัฒนาการ ในยุคที่ต้องปั่นจักรยาน 12 กม. เคยมีจักรยานล้มบ้าง แน่นอนว่ายาคูล ท์ กระจายเต็มพื้น แต่ก็ต้องปั่นไปให้ถึงบ้านลูกค้า เพื่อไปกล่าวคำว่า “ขอโทษ”
พี่สายันห์ บอกว่า เมื่อ 10 ปีก่อนนี้ ย า คู ล ท์ ถือว่าขายดีมาก ๆ ขายดีจนมีเวลาว่าง เพราะยาคูลท์ ผลิตไม่ทันความต้องการของลูกค้า ซึ่งเคยขายได้มากที่สุดวันละ 1,300-1,700 ขวด แต่ตนก็ไม่เคยปล่อยเวลาว่างให้สูญเปล่า จึงใช้เวลาว่างตรงนี้ไปเรียนที่ กศน. ตอนนั้นมีหลายคนถามว่าอายุ 40 ปี จะมาเรียนทำไม ตนได้เป็นหัวหน้าห้อง และเรียนจนจบ ม.6 ได้สำเร็จ นับเป็นความภูมิใจที่สร้างรอยยิ้มได้อย่างมีความสุข
ตลอดระยะเวลากว่า 40 ปี ที่เป็นสาวยาคูลท์ เธอปฏิบัติตามคำแนะนำของหัวหน้า รวมถึงมีความรับผิดชอบในหน้าที่ที่ต้องทำ เพื่อพิสูจน์ตัวเองให้บริษัทได้เห็นว่าเธอมีความตั้งใจจริง
นอกจากจะมีรายได้ที่มั่นคงแล้ว บริษัทยาคูลท์ ยังใส่ใจครอบครัว โดยช่วยเหลือให้ทุนการศึกษาบุตร ที่สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐบาล ได้จนจบปริญญาตรี
ซึ่งเธอคิดไม่ถึงว่าจะมีวันนี้เลย มากไปกว่านั้นน้ำพักน้ำแรงที่เธอภูมิใจที่สุดในชีวิต คือ เธอกับสามีรู้จักบริหารเงิน ซึ่งเงินที่ได้จากการทำงานสามารถซื้อที่ดินได้ 34 ไร่ ซื้อที่นาอีก 2 แปลง 13 และ 9 ไร่ และซื้อที่ดินในเขตเทศบาล จ.ชัยนาท ไว้อีก 4 ไร่ ปล่อยเช่าอาคารพาณิชย์อีก 1 คูหา และมีบ้านที่ย่านรังสิตอีก 1 หลัง โดยพี่สายันห์บอกเคล็ดลับว่า…
“ดิฉันไม่ได้รวยอะไรเลย แต่รู้จักใช้เงินให้เป็น แบ่งออกเป็น 3 ส่วน 1.เงินเก็บออม 2.เงินใช้หนี้ และ 3.ค่าใช้จ่ายในบ้าน”
โดยตลอดชีวิตการทำงาน มีคำ 3 คำที่เธอยกย่องว่าเป็นการอดที่ดี อดทน-อดกลั้น-อดออม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้รับการถ่ายทอดสู่ลูกชายในวัย 32 ปี เขาจึงอยากให้แม่พักจากงานสาวยาคูลท์บ้าง เพราะเงินเก็บที่ออมที่มีทั้งหมดของเขาก็มีไม่ต่ำกว่า 2.6 ล้านบาท แต่ทุกวันนี้พี่สายันห์ก็ยังยืนยันกับลูกชายว่า แม่ขอเป็นสาวยาคูลท์ต่อไป เพราะหน้าที่สำคัญและละทิ้งไม่ได้ คือ การได้เห็นลูกค้าดื่มนมเปรี้ยวที่มีประโยชน์ทุก ๆ วัน