งานวิจัยไทยที่ส่งขึ้นไปทำในอวกาศ กลับมาสู่โลกแล้ว
จากที่ประเทศไทยได้ส่งงานวิจัยเพื่อพัฒนายาต้านมาลาเรียขึ้นไปทำในอวกาศ ตามข่าวที่เราได้นำเสนอไปก่อนหน้านี้ (https://bit.ly/32dxWh9) ตอนนี้กล่องที่ส่งขึ้นไป ได้กลับลงมายังโลกเรียบร้อยแล้วโดยยาน Space X Dragon ที่ตกลงมาสู่ทะเลบริเวณนอกชายฝั่งของคาลิฟอเนียร์ออกไปประมาณ 300 ไมล์ เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ตอนประมาณตีสามของประเทศไทย และจะถูกส่งต่อไปวิเคราะห์ข้อมูลที่เมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น
นอกจากงานวิจัยที่ประเทศไทยส่งขึ้นไปแล้ว ในยาน Space X Dragon ยังมีงานวิจัยอื่นๆที่น่าสนใจของทาง NASA เอง เช่นการทดลองปลูกมอสในอวกาศ เนื่องจากมอสเป็นพืชที่ไม่มีราก จึงใช้พื้นที่น้อยมากในการปลูก ถ้าเราสามารถเข้าใจกลไกการเติบโตและการสังเคราะห์แสงของมอสในอวกาศ มอสก็น่าจะเป็นพืชที่เรานำมาใช้ประโยชน์ได้กับภารกิจการสำรวจดาวอังคาร ที่เราสามารถปลูกพืชทานได้เองในยานอวกาศ โดยไม่ต้องขนอาหารไปในระหว่างการเดินทางมากเกินไป
ในนี้ยังมีงานวิจัยจากบริษัท Goodyear ที่ทำยางรถยนต์ด้วยเช่นกัน โดย Goodyear ได้ทำการค้นคว้าเรื่องโครงสร้างของซิลิกา ซึ่งตั้งใจว่าจะนำมาใช้ในกระบวนการพัฒนายางให้มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แล้วก็ยังช่วยลดการใช้พลังงานของรถยนต์ลงได้ด้วย
งานวิจัยอีกหลายชิ้นก็เป็นงานวิจัยทางสุขภาพของนักบินอวกาศ เนื่องจากการเดินทางในอวกาศมีผลกระทบต่อร่างกายของนักบินอวกาศหลายๆอย่าง นักบินอวกาศจึงต้องเลือกคนที่แข็งแกร่งมากๆ ถ้าอีกหน่อยจะมีการเปิดธุรกิจการเดินทางในอวกาศที่คนธรรมดาๆเดินทางกันได้ ก็ต้องมีวิธีการที่จะดูแลสุขภาพของผู้เดินทางให้ปลอดภัยจากโรคจากสภาวะต่างๆที่ต่างจากบนโลกใบนี้
งานวิจัยเพื่อพัฒนายาต้านมาลาเรียของประเทศไทยที่ขึ้นสู่อวกาศในครั้งนี้ เรียกได้ว่าเป็นงานวิจัยชิ้นแรกของคนไทยที่ขึ้นไปทำในอวกาศ เพื่อเป็นการนำทางไปสู่การสร้างอุตสาหกรรมด้านอวกาศของไทยในอนาคต ซึ่งจะเห็นว่าสหรัฐอเมริกาและประเทศพัฒนาแล้วอื่นๆก็เห็นความสำคัญของอุตสาหกรรมด้านนี้
เอาจริงๆเท่าที่ผมเคยคุยกับคนทำงานด้านอวกาศของประเทศต่างๆ เค้ามักจะมองว่าไทยเราเก่งมากๆทางด้านการแพทย์ แล้วก็อยากให้ประเทศไทยเข้าไปช่วยทำการค้นคว้าในเรื่องการแพทย์ในอวกาศเสียด้วย ซึ่งการส่งงานวิจัยเพื่อพัฒนายาต้านมาลาเรียขึ้นไปเป็นใบเบิกทาง ก็เรียกได้ว่าเป็นก้าวสำคัญที่เราเดินกันมาได้ถูกทางเลยทีเดียวครับ
แต่ก็ยังมีเรื่องอื่นๆที่น่าจะศึกษาค้นคว้าและพัฒนาด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารไทยในอวกาศ เรื่องการเพราะปลูกพืชที่มีในบ้านเรา รวมไปถึงเรื่องของหุ่นยนต์กลไกต่างๆ ทีเราเองก็ถูกมองว่ามีศักยภาพอยู่มากที่จะพัฒนาให้เกิดเป็นธุรกิจในอวกาศเพื่ออนาคตของประเทศเช่นกัน
เห็นทิศทางของอุตสาหกรรมอวกาศกับศักยภาพของคนไทยแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงว่าพอมีอุตสาหกรรมอวกาศกันแล้ว เราเองก็คงต้องมีนักบินอวกาศคนไทยที่ไปช่วยทำสิ่งเหล่านี้กันบนอวกาศนะครับ ใครนะ...จะมาเป็นนักบินอวกาศคนแรกของประเทศไทยกัน อาจจะเป็นคนใกล้ตัวเราก็ได้นะครับ
อ้างอิงจาก: https://www.facebook.com/origimon/photos/a.2353197344956177/2445051552437422/?type=3&theater