ภาพที่รัสเซีย เมื่อปี 1941 ผู้หญิงสองคนนี้ได้เก็บซากศพของม้า-ไส้ศพคนมาเป็นอาหาร
ผู้หญิงสองคนได้เก็บซากศพของม้าที่ตายแล้วมาเป็นอาหาร Leningrad, Russia, 1941
การบุกโจมตีเลนินกราดของกลุ่มกองทัพเยอรมันในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เป็นหนึ่งในการโจมตีที่ยาวนานที่สุดและทำลายล้างมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งกินเวลานานไปถึง 872 วัน
กองทัพเยอรมันได้ใช้ยุทธวิธีการปิดล้อมที่เลนินกราด ซึ่งทำการปิดล้อมตั้งแต่ วันที่ 8 กันยายน 1941 ถึง 27 มกราคม 1944 การปิดล้อมในครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตประมาน 1.5 ล้านคนทั้งพลเรือนและทหาร ซึ่งภายหลังเหลืออยู่รวมกันเพียงประมาน 700,000 คน จากเมื่อก่อนที่เมืองนี้เคยมีประชากรประมาน 3.5 ล้านคน
การปิดล้อมนั้นทำให้ประชากรที่อยู่ในเมืองนั้นขาดแคลนอาหารหนัก ไหนจะภาวะที่มีสงครามแทบทุกพื้นที่ จะออกจากเมืองก็เจอกองทัพเยอรมัน จึงทำให้ผู้คนต้องใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในเมืองอย่างประหยัด ซึ่งพอเวลาผ่านไปทรัพยากรต่างๆนั้นก็ลดลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะอาหาร
ในช่วงต้นของการปิดล้อมในปี 1941 การแบ่งสันปันส่วนอาหารเริ่มถูกลดลงเรื่อยๆ จนไปหนักเข้าในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ผู้คนลดการบริโภคอาหารเหลือแค่ 250 กรัมต่อวัน(ขนมปัง)และยังลดไปอีกจนถึง 125 กรัมต่อวัน จนในที่สุดอาหารก็ไม่เพียงพอต่อคนทั้งเมือง และด้วยสัญชาติญาณการเอาตัวรอด ผู้คนจึงเริ่มกินซากศพ มีการจับหนูหรือสัตว์เลี้ยงไปเป็นอาหาร และที่ยิ่งกว่านั้นคือ มีการนำไส้จากมนุษย์ถูกสับไปขายในตลาด"Haymarket"!!
ตามรายงานระบุว่ามีศพในสุสานถูกขโมยไปเป็นจำนวนมาก และผู้คนนั้นเริ่มที่จะกินเนื้อกันในช่วงฤดูหนาวปลายปี 1941 จนถึงประมานต้นปี 1942 เพราะในตอนนั้นผู้คนเริ่มหาพื้นที่โล่งเพื่อปลูกสวนผักได้ ความอดอยากจึงเริ่มค่อยๆหายไป ซึ่งเมืองเลนินกราดในปัจจุบัน ก็คือเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กนั่นเอง