จะไปกันต่อ...หรือจะ...พอแค่นี้
จะไปต่อหรือพอแค่นี้
เหล่านี้คือคำถามที่ทุกคนสงสัย เมื่อความรักเริ่มมีปัญหา วันนี้เราจะมาหาทางออกของปัญหานั้นกัน แน่นอนว่า เรื่องความรักนั้น ไม่มีใครแก้ปัญหาให้ใครได้ นอกจากตัวเราเอง ดังคำกล่าวที่ว่า
เรื่องของ"หัวใจ" คำว่าหัวมาก่อนใจ แต่พอเกิดปัญหามันจะกระทบที่ใจก่อนที่หัวจะคิดได้ทุกที
ปัญหาของคนอื่นใช้หัว ปัญหาของตัวใช้ใจ ปัญหาคนอื่นแก้ง่าย แต่ส่วนมากมักมาตายด้วยเรื่องของตัวเอง
เห็นไหมว่า หมองูก็มาพลาดท่าตายเพราะงูมีให้เห็นกันเยอะแยะ
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกับความรักให้เสียก่อน แล้วจึงค่อยๆแก้ไขกันต่อไป
การที่คนสองคนจะมาพบเจอกันแล้วรักกันนั้น มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน
เพราะว่า หลายๆคู่อยู่กันคนละทิศคนละทาง แต่ก็ได้มาเจอกันและรักกัน
สิ่งต่างๆเหล่านี้มันถูกกำหนดมาแล้ว ส่วนใครจะเป็นผู้กำหนดนั้นเรามิอาจจะรู้ได้
จะด้วยบุพเพวาสนา หรือพรหมลิขิตหรืออะไรก็แล้วแต่ คนเหล่านั้นก็ล้วนถูกคัดกรองจากประชากรทั้งโลก
ที่มีกว่า 9.8 พันล้านคน เพื่อให้คนสองคนมาเจอกัน และรักกัน
มันจึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน และเมื่อมีความรักเกิดขึ้น
เราเองต่างก็ต้องช่วยกันประคับประคองความรักที่เราร่วมกันสร้างมา ให้อยู่ได้ตลอดไป และนานที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ เช่น
ดูหนัง ฟังเพลงด้วยกันบ่อยๆ ดูดาว ดูพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตกด้วยกัน
หรือถ้าอยู่ไกลกัน ก็ควรโทรหากันบ่อยๆ หากิจกรรมทำร่วมกันเรื่อยๆ เช่น เล่นเกมส์ออนไลน์ด้วยกันทุกวันได้ยิ่งดี
ทำแบบนี้เรื่อยๆ แล้วความรักของเราจะมีคุณภาพ และ...อย่าปล่อยให้อีกฝ่ายสงสัย อย่าหายไปโดยไม่บอกกล่าว
เพราะคนเราทุกคนนั้นล้วนเก่งมโนกันทุกคน ไม่อย่างนั้นจะเกิดปัญหาอย่างที่เขาพูดๆกันว่า อยู่ไกล ใครก็ลืมอะไรแบบนี้
มีปัญหาก็ควรรีบแก้ไข อย่าปล่อยปัญหาให้ข้ามคืน ไม่อย่างนั้นปัญหามันจะแก้ยาก ถ้าทำแบบนี้ได้ ความรักของคุณจะยืนยาวแน่นอน หนทางที่ไกลแสนไกลมันจะไม่เป็นอุปสรรคในรักแท้ที่ให้กันได้อย่างสม่ำเสมอ
เมื่อเราสงสัยกับอีกฝ่ายไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม จงใช้คำถามที่ไม่ตัดสินคน เช่น
1...เราเห็นแบบนี้..
2...เราคิดแบบนี้..
3...เรารู้สึกแบบนี้...
4..เธอรู้สึกอย่างไร อธิบายให้ฉันฟังที ...
ง่ายๆแบบนี้แล้วเราจะคุยกันได้ง่ายขึ้น และควรหลีกเลี่ยงยามเมื่อเจอปัญหาคือคำว่า เราเลิกกันเถอะ
คำนี้อย่าเผลอพูดด้วยอารมณ์ชั่ววูบเด็ดขาด เพราะมันจะบั่นทอนความรู้สึกของอีกฝ่ายได้อย่างอำมหิต
ปัญหาใหญ่ๆที่คนจะเลิกรักกัน ก็เป็นเพราะว่า เรา ได้ทำ หรือไม่ได้ทำอะไรอย่างที่กล่าวมาข้างต้น หรือทำ แต่ไม่สม่ำเสมอ จึงทำให้อีกฝ่ายเริ่มเปลี่ยนไป สังเกตุง่ายๆนะ ถ้าคนเราจะเปลี่ยนใจ จะเริ่มจากเวลาเป็นอันดับแรก เช่น จากที่เคยมีเวลาก็เริ่มไม่มีเวลา โทรหาไม่รับ ไม่โทรกลับ และการอ้างเรื่องระยะทางว่าอยู่ไกลกันเกินไป
ง่ายๆ อีกฝ่ายเริ่มเปลี่ยนใจและตีตัวออกห่างเราแล้วนั่นเอง เพราะจริงๆแล้ว ระยะทางที่ว่าไกลนั้น มันก็ไกลกันตั้งแต่เริ่มจีบกันแล้ว ตอนนั้นทำไมไม่คิดว่าไกล เอาล่ะ เมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้ อย่าโทษใคร และอย่าคิดว่าใครผิดใครถูก เพราะความรักมันคือเรื่องของใจและความรู้สึกล้วนๆ เขาอาจจะกำลังไปเจอคนใหม่หรือคนรักเก่าที่คิดว่าดีกว่าเราเท่านั้นเอง
เพราะโดยธรรมชาติแล้ว มนุษย์เราถูกสร้างและสมองของเราถูกกำหนดให้หาแต่สิ่งที่ดีที่สุดมาให้ตัวเราเสมอ เมื่ออีกฝ่ายเริ่มมองว่าเราไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเขาในตอนนี้ จะด้วยว่า เขาอาจจะกำลังเจอคนใหม่ สิ่งใหม่ ที่เขาคิดว่าดีกว่าเรา หรือคิดว่าสิ่งใหม่ที่เขาเลือกจะทำให้ชีวิตเขาดีขึ้น ก็เท่านั้นเอง นั่นคือความคิดของเขา แต่ความคิดไม่ใช่ความจริง เพราะจริงๆแล้ว เราอาจจะดีที่สุดสำหรับเขาแล้วก็ได้
หรือ..สาเหตุลึกๆที่ทำให้คนเราต้องเลิกรากันนั้น อาจจะเป็นเพราะเขาหรือคุณ อาจจะเคยมีปมรักในอดีตที่เคยผิดหวังมาก่อน เมื่อเหตุการณ์บางอย่างดำเนินมาถึงจุดที่คล้ายคลึงกับที่มันเคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต ที่ทำให้เขาต้องพลัดพรากจากสิ่งที่รัก หรือคนที่เขารัก ความเจ็บปวดอันแสนสาหัสนี้ถูกฝังลึกลงสู่จิตใต้สำนึกของเขา และทำให้เขาเชื่อเสมอว่า ถ้ามีรักครั้งต่อไป เขาก็จะเจ็บปวดแบบนั้นอีก เขาจึงเกิดความกลัวในรักครั้งนี้ กลัวว่าจะสูญเสียคนรักไปอีก เขากลัวความสูญเสีย เลยตัดสินใจสะบั้นรักครั้งนี้ลงเสียเอง และพร้อมเดินกลับไปทางเก่าหรือทางใหม่เส้นนั้นทันทีที่มีโอกาส โดยไม่สนใจหรอกว่าอีกฝ่ายจะเจ็บปวดหรือสาหัสปางตายเพียงใด
เมื่อเหตุการณ์ทั้งหมดมันจบลงแบบนี้ แน่นอนว่า ความเจ็บปวดมันย่อมเกิดขึ้นกับคนที่ถูกบอกเลิกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ให้เราทำใจรับมันให้ได้ แล้วคิดทบทวนเรื่องราวทั้งหมดว่าเราทำอะไรผิดพลาดไป ให้เราแก้ไขตรงจุดนั้น อย่าไปจมปรักอยู่กับอดีต อย่าไปเฝ้าถวิลหาเรื่องราวที่ผ่านมาจนทำให้จิตใจเราเศร้าหมอง เพราะถ้าเราคิดถึงเขามากเพียงใด เขาก็ไม่มีทางกลับมาได้อีก เพราะว่า คนๆนั้นเขาตายไปแล้ว ตอนนี้เขาเป็นได้แค่..คนใหม่ในร่างเก่าเท่านั้นเอง เรืยกเขาให้ตาย เขาก็ไม่กลับมาหรอก
ผมเข้าใจว่า คนที่โดนปฎิเสธรักได้ง่ายๆแบบนี้ มันแสนจะเจ็บปวด บางคนโชคดีที่ยังมีโอกาสได้พูดคุยก่อนร่ำลากัน บางคนนะ ไม่แม้กระทั่งจะได้รับรู้อะไรเลย อยู่ๆก็หาย ไลน์ไม่ตอบไปดื้อๆ ทิ้งคำถามให้กับตัวเองทุกวันว่าฉันทำอะไรผิด
และคนเหล่านี้ก็ล้วนอยากจะได้กำลังใจจากคนรอบข้าง คำปลอบโยนจากเพื่อนๆ และหลายๆคำปลอบใจมันกลับไปบั่นทอนให้รู้สึกหดหู่หนักไปกว่าเดิมอีก "เช่น เขาไม่รักแกหรอก คนแบบนั้นเลิกไปได้ก็ดี" หรือ "ตัดใจเถอะ อย่าหวังว่าเขาจะกลับมาหาแก ไม่มีทางหรอก" คำพูดเหล่านี้ ถึงจะเป็นความจริง แต่เราก็คงไม่อยากฟัง เพราะในใจเรานั้น ยังต้องการคนนี้อยู่
และอยากให้เขากลับมารักเราเหมือนเดิมต่างหาก สิ่งเหล่านี้ล่ะที่ตรึงเราไว้ ดึงเราไว้กับภาพเดิมๆเก่าๆ ฉายความรู้สึกเดิมๆ
วนซ้ำไปซ้ำมาไม่รู้จบ ทำให้คนหลายคนจ่อมจมอยู่กับความรักในอดีต พูดง่ายๆคือ ยังตกหลุมรักแห่งความทรงจำอยู่นั่นเอง
มีคำกล่าวไว้ว่า โลกมักจะเหวี่ยงเหตุการณ์เดิมๆ คนเดิมๆมาทดสอบเราเสมอ จนกว่าเราจะสอบผ่าน
ส่วนความจริงในตอนนี้คือ... คนๆนั้นไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้ว เขาไม่ได้รักเรา ไม่ได้แคร์เรา ไม่ได้จะเป็นห่วงเรา ไม่ได้อยากจะไปดูหนังฟังเพลงกับเราแล้ว ไม่อยากรับโทรศัพย์เรา ไม่อยากคุยกับเรา ไม่อยากอ่านข้อความของเรา ไม่ได้อยากใช้ชีวิตกับเราไปจนตายเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
เขาโอเคที่จะทิ้งเรา เขาโอเคที่จะทำร้ายเรา เขาโอเคที่จะทำให้เราเสียใจ เขาโอเคที่จะไปดูหนังฟังเพลงดูโน่นนี่นั่น กับคนอื่น ที่ไม่ใช่เรา เขาโอเคที่จะมีชีวิตที่ดี เจอคนที่คิดว่าจะให้ความสุขกับเขา มากกว่าที่จะอยู่กับเรา แค่นั้นเอง
เมื่อเขามองหาสิ่งดีให้ชีวิตได้ เราก็ควรจะออกไปหาสิ่งดีที่สุดให้กับเราเช่นกัน เปรียบเปรยไปว่า เรากำลังจัดตู้เสื้อผ้าอยู่ แล้วดันไปเจอชุดเก่าที่มันหด มันขาด เก่าเสียจนเราใส่ไม่ได้แล้ว เราก็ควรจะทิ้งมันไป อย่าเก็บเอาไว้ให้รกตู้ และคิดเสียว่า เขาคนนั้น ยอมเป็นเสื้อผ้าผืนเก่าผืนนั้น และยอมเดินออกไปจากตู้เอง เพื่อให้เราได้มีพื้นที่ว่างพอ พอที่จะใส่ผืนใหม่ที่ดีกว่าแทนยังไงล่ะ บางทีนะ เสื้อผ้าตัวนั้น มันไม่เหมาะกับเราตั้งแรกแล้วด้วยซ้ำ ดังนั้นแปลว่า เราสูญเสียเขาไป เท่ากับว่า เราเคลียร์หัวใจให้ตัวเองแล้วนะ เพราะถ้าขืนทนอยู่ต่อไป เราอาจจะเจ็บปวดไปมากกว่านี้ก็ได้
สิ่งที่เราจะทำได้ดีที่สุดในตอนนี้คือ.. ขอบคุณเขาที่ทิ้งเราไป นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดแล้วที่เขาจะพึงทำได้ และมันก็คือสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว ที่เราจะพึงได้เช่นกัน ให้อภัยกับทุกๆความรักที่ผ่านมา แล้วความรักดีๆจะมาหาเราเอง และทุกความรักที่เราเจอ คนใหม่ที่เราเจอเราจะรักเขาในแบบที่เขาเป็น และรักเขาโดยที่ไม่เอาเขาไปเปรียบเทียบกับปมในอดีตที่ผ่านมา
โปรดจำไว้เถอะว่า ชีวิตเราเกิดมาเพื่อเจอคนที่ดีๆ เจอรักที่ดีๆ และกับทุกคนที่เคยทิ้งคุณไป จงคิดเสียว่า ชีวิตได้สร้างทางเลือกให้เราเจอชีวิตใหม่ที่ดีเสมอ
ทุกการสูญเสีย อาจนำพาไปสู่การพบเจอครั้งใหม่ ที่ดีกว่าเดิม
ทุกการพลัดพราก นำไปสู่การพบเจอ คนใหม่ ที่จะดูแลคุณได้แนบแน่น กว่าเดิม
ทุกการบอกลา นำไปสู่คำว่า สวัสดี จากนี้ เราจะอยู่ต่อไป ในฐานะ ของขวัญที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต
ของใครบางคน ที่อาจจะเป็นคนที่เคยบอกลาเรามาแล้ว ก็ได้
ขอบคุณ...พวกเขา ที่ทิ้งคุณไป
ขอบคุณพวกเขา...ที่เข้ามาสอนบทเรียน
ขอบคุณ...ที่กาลครั้งหนึ่งในชีวิต เราก็เคยมีสิ่งดีๆมาเจอกัน
ขอบคุณ...ที่กาลครั้งหนึ่ง เราเคยยิ้มให้กัน เคยมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เคยแลกเปลี่ยนสิ่งดีๆให้กัน
ขอบคุณ...ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น อย่ามองแต่อะไรที่ร้ายๆมา
มองด้วยสิ..ว่าเราเคยผ่านอะไรดีๆด้วยกันมาบ้าง
และอวยพรให้เขาเจอแต่สิ่งดีๆ
เจอแต่เรื่องดีๆ
เจอคนดีๆ
มีชีวิตที่ดีๆ
มีการงานดีๆ
เจอคนใหม่ดีๆ และ ยินดีกับคนใหม่ ด้วยความจริงใจ
ให้อภัย กับทุกคนที่เคยทำร้ายเรา
เคยเข้ามาในชีวิตเรา และทำให้เรา มีความหวัง กับความรัก...ของคุณ
ในวันนี้ เรามาได้ไกล..แค่นี้ เราดีใจ...ดีใจที่กาลครั้งหนึ่ง..เราได้เจอกัน รู้จักกัน มีวัน..เวลา..ดีๆ ด้วยกัน
และ..ขอให้คุณทุกคน ได้เจอสิ่งดีๆเช่นกัน ไปมีชีวิตดีๆนะ
เพราะ...เราก็จะมีชีวิตที่ดี..เช่นกัน
...จงบอกกับตัวเองเสมอว่า....
1. ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น มันดีที่สุดแล้ว ทั้งกับเขา และกับเรา
2.หัวใจเรา มีไว้ให้กับคนที่คู่ควร เท่านั้น
3.กล้าที่จะขอบคุณ อภัย อวยพร
อยู่ด้วยตัวเองให้ได้ แล้วคุณจะมีความสุขได้เสมอ
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เราทุกคนก้าวผ่านความเจ็บปวดจากการพลัดพราก จากการสูญเสียที่ผ่านมาได้ ไม่มากก็น้อย และช่วยในการตัดสินใจว่า ทุกๆเหตุการณ์ที่กล่าวไว้ข้างต้นทั้งหมดนั้นจะพอทำให้เราตัดสินใจได้ว่า..
จะไปต่อ หรือพอแค่นี้
ทั้งหมดนั้น ขึ้นอยู่ที่การตัดสินใจของคุณเอง ขอให้โชคดีกับทุกๆการตัดสินใจนะครับ