สงครามล้างโลก...ตอนที่ 1
ค.ศ.3000
เจมส์ ค่อยๆลืมตาขึ้นมา หลังจากที่ตัวเขาหลับไหลไปนาน6เดือนเต็มๆ
ใช่! เจมส์เป็นมนุษย์ทดลองในโครงการวิทยาศาสตร์ ที่จะทำภารกิจเดินทางข้ามจักรวาล
เพื่อสำรวจ และค้นหาโลกใบใหม่ในจักรวาลอื่น ที่ห่างไกลจากโลกปัจจุบันหลายล้านปีแสง
เขาคือหนึ่งใน10คน ที่ถูกเลือกให้มาทดลองครั้งนี้ โดยแต่ล่ะคน ต่างก็ถูกแยกไปไว้ในที่ต่างๆทั่วโลก
โดยเขาเองก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนกันบ้าง
“ เฮ้! หวัดดี ”
เจมส์กล่าวทักทายออกไปท่ามกลางแสงสลัวๆในห้องใต้ดินลึกกว่า50เมตร
ห้องนี้กว้าง10เมตรยาว10เมตร สร้างเป็นโดม โดยมีเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาดเล็ก
และอุปกรณ์สื่อสารต่างๆอย่างครบครับ
“ เอ่ออออ.. ทำไมไม่มีใครตอบสักคน ”
เจมส์พูดกับตัวเอง แล้วก็ขยับตัวลุกเดินลงมาจากเตียงทดลองที่เขานอนมาอย่างยาวนาน
เขาเดินไปเปิดไฟ พอไฟสว่างขึ้น เขาก็หลับตาและหันหน้าหนีแสงไฟอย่างรวดเร็ว
“ โอ๊ะ..ให้ตายเถอะ แสบตาสุดๆ ”
เจมส์ค่อยๆลืมตาขึ้นมาช้าๆ เพื่อปรับสภาพดวงตาของเขาให้ชิน
พอเริ่มชินกับแสงสว่างดีแล้ว เขาก็กวาดสายตามองสำรวจไปทั่วห้อง
" ไม่มีใครอยู่ในนี้เลยสักคน ไปไหนกันหมดเนี๊ยะ. "
เจมส์ทำท่าฉงน แล้วก็ทำการสำรวจดูอย่างละเอียดอีกครั้ง ทุกอย่างมันดูเหมือนกับว่า ห้องนี้ไม่ได้ถูกใช้งานมาเป็นระยะเวลาไม่ต่ำกว่า1เดือน
ถึงห้องนิรภัยนี้จะไม่มีใครรู้ก็ตาม แต่อย่างน้อยก็ต้องมีเจ้าหน้าที่และนักวิทยาศาสตร์ที่ดูแลโครงการนี้ เข้ามาดูเป็นระยะบ้าง แต่มันก็ดูเหมือนกับว่า ภายในระยะ1เดือนก่อนหน้า ไม่มีใครเข้ามาในนี้เลยสักคน
เจมส์เริ่มเดินสำรวจตามตู้เก็บอาหาร และพบว่าแคปซูลอาหารต่างๆยังคงได้รับการเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี เขาจึงหยิบขึ้นมาใส่ปาก1เม็ดเพื่อฟื้นฟูพลังงานในร่างกายต่างๆให้กลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง ก่อนที่จะหันหลังกลับเดินขึ้นมานอนพักผ่อนแบบกึ่งนั่งกึ่งนอน และครุ่นคิดว่าทุกคนหายไปไหนกันหมด สุดท้ายเขาก็ผลอยหลับไป
----------
05.00น.
เจมส์ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เขาพบว่าร่างกายเริ่มกระปรี้กระเปร่ากว่าเมื่อวานนี้
เขายกมือซ้ายขึ้นและใช้นิ้วมือขวากดไปที่หลังมือด้านซ้าย ก็ปรากฏเป็นจอดิจิตอลเรืองแสงขึ้นมา มีตัวเลขแสดงข้อมูลต่างๆโชว์หรา
“ ตีห้าล่ะ ”
เขาเอ่ยกับตัวเองเบาๆ พลางลุกขึ้นบิดกายซ้าย-ขวาไปมา เพื่อไล่ความเหนื่อยอ่อนออกจากร่างกาย
“ ได้เวลาออกค้นหาคนอื่นๆแล้วซินะ”
เขาพาตัวเองเดินมาหยุดยืนตรงมุมผนังด้านซ้าย ยกมือซ้ายขึ้นมาระดับหน้าอกแล้วกดปุ่มที่มือซ้ายของเขาอีก1ครั้ง มีแสงสีฟ้าจางๆฉายมาที่ตัวของเขา แล้วก็มีเสียงดังปี๊ปสั้นๆขึ้น1ครั้ง ผนังเล็กๆก็ถอยเลื่อนเปิดออก เขาก้าวเดินออกมาจากห้อง ประตูก็ปิดเองอีกครั้ง
เขาจึงก้าวเดินขึ้นมาตามทางแคบๆ เป็นบันไดตรงๆ ทำมุมเอียง45องศา พอขึ้นมาสุดระยะ ก็จะพบกับประตูกลอีก1ชั้น ซึ่งถ้ามองเผินๆจากด้านนอก ก็จะคิดว่าเป็นท่อระบายน้ำทิ้ง ซึ่งอยู่ด้านหลังของเกาะ จึงไม่มีใครสังเกตเห็น เขาสแกนโค้ตที่มืออีกครั้ง แล้วก็ก้าวเดินออกมาด้านบน
“ ให้ตายยย...”
“ มันเกิดบ้าอะไรขึ้น ทำไมมันถึงเละเป็นโจ๊กแบบนี้ไปได้ ”
เขาเพ่งมองไปเบื้องหน้า ภาพเก่าๆเมื่อ6เดือนก่อนพุ่งเข้ามาในหัวของเขา
ภาพบ้านพักตากอากาศที่สวยงามและห้างสรรพสินค้าอันยิ่งใหญ่ และผู้คนมากมาย ที่พากันเดินช้อปปิ้ง และพักผ่อนกันตามชายหาด ได้อันตรธานหายไปหมดแล้ว
สิ่งที่เขาอยู่ในตอนนี้คือ.. ภาพของซากปรักหักพังที่รกร้าง และโครงกระดูกของผู้คนที่นอนระเกะระกะเป็นระยะ ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนกับว่าถูกเผาด้วยความร้อนอันมหาศาล เขารู้ได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
“ระเบิดอะตอม”
ด้วยสัญชาติญาณของคนที่เคยเป็นทหาร และผ่านการฝึกการรบมาทุกรูปแบบ
เขาจึงรู้เลยว่านี่คือระเบิดอะตอม
ระเบิดอตอมเป็นระเบิดที่พัฒนามาจากระเบิดปรมาณู ซึ่งอะตอมจะมีความร้อนมากกว่าถึง50เท่า
คำถามก็คือ..ใครเป็นคนทำ ? และทำเพื่ออะไรกัน เขาไม่มีเวลาคิดอะไรมากไปกว่านี้แล้ว
สิ่งที่ควรทำตอนนี้คือ สำรวจหาผู้ที่รอดชีวิตให้ได้ จะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เขาใช้เวลาทั้งวันเดินสำรวจไปทั้งเกาะ หวังแค่เพียงว่าจะมีคนรอดชีวิตบ้าง
แต่เขาก็ไม่เจอใครสักคนบนนี้จริงๆ เจอแต่ซากปรักหักพัง รถราและเรือต่างๆ
ที่ถูกเผาไหม้เหลือแค่โครงดำๆ และกระดูกของมนุษย์ที่กระจัดกระจายตามตึกต่างๆ
เขาตัดสินใจกลับที่พักอีกครั้งเมื่อเวลาเกือบๆ1ทุ่ม เพราะทุกอย่างมันมืดไปหมด
เขายังคงคิดว่าต้องมีใครรอดชีวิตอยู่บ้าง อย่างน้อยก็นักวิจัยหรือมนุษย์ทดลองอย่างเขา
“ห้องลับแบบนี้น่าจะมีอีกที่ไหนสักแห่งบนเกาะนี้แน่นอน”
เขาพึมพำในลำคอ ก่อนจะเอนตัวลงนอน
----------