หนุ่มถ่ายหนักออกมาเป็นแอร์พอด หลังเผลอกลืนลงท้อง และมันยังใช้งานได้เต็ม 100%
ใครที่กินข้าวอยู่ต้องขออภัยด้วยนะครับ ยังไงก็กินข้าวให้เรียบร้อยแล้วเข้ามาอ่านกันนะ กับเรื่องราวสุดเหลือเชื่อของหนุ่มไต้หวันรายหนึ่ง ที่ต้องเซอร์ไพรส์หนักมากเมื่อแอร์พอดที่เขาเพิ่ง "ขรี้" ออกมายังใช้งานได้ 100% เหมือนเดิม!
(เรื่องราวสุดเหลือเชื่อนี้ เกิดขึ้นกับชายคนนี้และแอร์พอดของเขา Photo credit: AsiaWire)
เบน ซู หนุ่มไต้หวันเจ้าของเรื่องเล่าว่า มันเริ่มต้นขึ้นจากการที่เขาเผลอหลับทั้งที่ยังใส่แอร์พอดคาหูอยู่ พอตื่นขึ้นมาเขากลับพบว่า แอร์พอดข้างหนึ่งหายไป ไม่รอช้าเขารีบใช้ไอโฟนสแกนตามหาแอร์พอดอีกข้างทันที จนพบว่าแอร์พอดนั้นส่งสัญญาณตอบกลับมาที่ไอโฟนเขา มันยังอยู่ในห้องนี้ แต่ไม่ว่าจะหาแทบพลิกแผ่นดินก็ตาม เขากลับไม่พบแม้แต่เงาของมัน
(หนุ่มเบน ซู ผู้หายกล้าลงไปคว้าน อุจจาระตัวเอง เพื่อตามหาแอร์พอดที่หายไป Photo credit: AsiaWire)
"ผมพลิกผ้าห่ม เปิดเตียงออกมาทั้งหมดแล้ว มันก็ยังหาไม่เจออยู่ดี จนกระทั่งรู้สึกว่า เสียงสแกนหาแอร์พอด มันดังมาจากท้องของผมเอง"แต่กระนั้นเขาก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดภายในท้องแต่อย่างใด ก่อนจะรีบไปโรงพยาบาลเพื่อให้หมอดูว่า เขากลืนแอร์พอดลงไปจริงๆ โดยหมอเล่าว่าแอร์พอดมันผ่านเข้าร่างกายและไปหยุดอยู่ที่ระบบทางเดินอาหาร โชคดีที่มันไม่ได้เข้าไปอยู่ผิดที่ผิดทาง ไม่อย่างนั้นคงต้องผ่าตัดเอาออกสถานเดียว
(ภาพสแกนช่องท้องของหนุ่มเบน ที่เผยให้เห็นแอร์พอดที่ติดค้างอยู่ตามลูกศร Photo credit: AisaWire)
(ดร. เฉิน ฉีฝ้า ผู้รับผิดชอบอาการของเบน เล่าว่าเพราะพลาสติกที่ห่อหุ้มแอร์พอดเอาไว้ ช่วยป้องกันไม่ให้อวัยวะภายในของเบนได้รับบาดเจ็บ Photo credit: AsiaWire)
หมอจึงให้ยาระบายเบนมากิน แล้วลองก้มลงไปดูอุจจาระตัวเองว่ามันออกมาไหม ซึ่งหนุ่มเบนก็ทำตามที่หมอสั่ง ซดยาระบายแล้วไปนั่งปลดทุกข์ในห้องน้ำสถานีรถไฟแห่งหนึ่ง ก่อนจะฮึดล้วงมือไปเขี่ยอุจจาระหาแอร์พอด และในที่สุดเขาก็เจอมันสมใจ และที่น่าเหลือเชื่อไปกว่านั้น เมื่อเขาเอามาล้างทำความสะอาดและเอามาต่อเข้าระบบไอโฟน แล้วพบว่ามันยังใช้งานได้เต็มประสิทธภาพเหมือนเดิม บ้าไปแล้ว!!
(ที่น่าเหลือเชื่อไปกว่านั้น คือแอร์พอดยังใช้งานได้อยู่ 100% Photo credit: AisiaWire)
"แบตแอร์พอดเหลืออยู่ตั้ง 41% มันน่าเหลือเชื่อมากๆ" หนุ่มเบนเล่าย้อนประสบการณ์ที่เขาต้องเผชิญหน้ากับกลิ่นอันสุดแสนจะบรรยาย เพื่อจะให้ได้มาซึ่งอุปกรณ์สุดไฮ-คลาสราคาเหยียบ 8,000 บาทนี้ เอาเป็นว่าใจเด็ดไม่ใช่น้อยเลยสำหรับหนุ่มเบน แล้วคุณล่ะ กล้าทำถึงขนาดนี้ไหม?
แหล่งที่มา: https://mekhaoduan.com