"น้องหนาม" รองมิสทิฟฟานี่ โพสต์ถูกปฏิเสธรับเข้าเป็นครูโรงเรียนดัง
สำหรับ น้องหนาม วรวลัญช์ ทวีกาญจน์ รองอันดับสอง Miss Tiffany Universe 2018 ซึ่งตอนนี้เธอก็ได้เรียนจบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากครุศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชาคณิตศาสตร์ และความฝันของน้องหนามตอนเด็กอยากเป็นครู หลังจากเรียนจบน้องหนามก็ได้เข้าไปสมัครเป็นครูในโรงเรียนต่างๆ แต่ทางโรงเรียนไม่รับเข้าสอน เพียงเพราะน้องหนามเป็นสาวข้ามเพศไม่สามารถรับได้กลัวที่จะทำให้โรงเรียนเสี่ยงเกิดเรื่องอื้อฉาวได้
และทางโรงเรียนก็ยังบอกอีกว่าให้กลับไปเดินสายนางโชว์หรือพนักงานขายเครื่องสำอางดีกว่า ล่าสุด ก็มีเฟสบุ๊กที่ใช้ชื่อ Nada Chaiyajit ได้โพสต์เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับน้องหนามที่ไปสมัครเป็นครูที่โรงเรียนในเครือคริสจักร ระบุข้อความไว้ว่า ” #เป็นรองดันดับสองMissTiffanyUniverseแล้วไง ทำไมไม่ไปเป็นนางโชว์หรือช่างแต่งหน้าจะมาสมัครเป็นครูทำไม?
เมื่อการมีสายสะพายเวทีประกวดสาวงามข้ามเพศระดับชาติ ไม่ได้สร้างหลักประกันว่าเธอจะไม่ถูกเลือกปฏิบัติในฐานะ “ครู” ดูเหมือนจะเป็นกลายเป็นกระแสสังคมมาตั้งแต่ต้นปี นับตั้งแต่กรณี ผู้ช่วยศาสตราจารย์จากรั้วจามจุรีท่านหนึ่งใช้วาจาเหยียดนิสิตข้ามเพศและเลยเถิดไปถึงขั้นห้ามเข้าชั้นเรียน วันนี้นาดาได้รับเรื่องร้องเรียนอีกครั้งจากบุคคลที่ไม่น่าเชื่อว่า จากรูปลักษณ์ภายนอก บุคลิกภาพ ความสง่างาม ความฉลาดเฉลียวในระดับเวทีประกวดนางงามข้ามเพศระดับประเทศอย่าง Miss Tiffany Universe ปีล่าสุด
น้องหนาม วรสลัญช์ ทวิกาญจน์ แนะนำตัวแตกต่างไปจากสายสะพายที่เธอคาดอยู่ ทำให้นาดาทราบว่าเธอสำเร็จปริญญาครุศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชาคณิตศาสตร์ เธอเก่งในระดับที่ว่าสามารถเป็นครูสอนพิเศษวิชาคณิตศาสตร์มาตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หนามฝันอยากเป็นครูตั้งแต่เด็ก เธอเล่าว่าแม่เธอเป็นช่างตัดเย็บเสื้อผ้า สมัยเมื่อครั้งยังเรียนอยู่อนุบาลเธอชอบเอาชอล์คเขียนผ้าของแม่มาขีดเขียนบนโต๊ะตัดเย็บเสื้อผ้าเสมือนว่ามันเป็นกระดานดำ นาดาสังเกตุได้อย่างชัดเจนว่าดวงตาของเธอเป็นประกาย ความเป็นครูคือความฝันสูงสุดในชีวิตของเธอจริงๆ
เมื่อสำเร็จการศึกษาครุศาสตร์บัญฑิต หนามเดินทางตามล่าความฝัน มุ่งสู่เป้าหมายเพื่อการเป็นครู ไปสมัครเรียน โรงเรียนในเครือคริสจักรถึงสี่แห่ง และทุกแห่งดับฝันของเธออย่างไม่มีเยื่อใยเพียงเพราะเธอเป็น #ครูข้ามเพศ #เขาบอกหนามว่าผู้บริหารคงไม่ปลาบปลื่มเท่าไหร่ #หากฝ่ายบุคคลคัดเลือกครูที่มีลักษณะเช่นนี้เข้ามาสอนในโรงเรียน #เพราะอาจจะมีปัญหาเรื่องชู้สาวและเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับนักเรียนในโรงเรียน
เพื่อกลบข้อครหา หนามมุ่งหน้าสู่เวที่ประกวดนางงามข้ามเพศระดับประเทศ และคว้าสายสะพายผู้ชนะการประกวดรองดันอันสองมาครองเพื่อการันตีว่าเธอคือบุคคลต้นแบบ เธอเป็นผู้มีเกียรติ มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมเสมอภาค ภายหลังจากได้รับตำแหน่งแล้ว เธอเดินหน้าตามล่าความฝันที่จะเป็นครูอย่างไปลดละ
จนกระทั่งเธอไปสมัครเข้ารับคัดเลือกเป็นครูสอนวิชาคณิตศาสตร์ ณ โรงเรียนในเครือคริสจักรแห่งหนึ่งย่านสาธรดังกล่าว เธอได้รับโอกาสให้สอบวัดความรู้ทักษะด้านภาษาอังกฤษ และเข้าสู่กระบวนการสัมภาษณ์ แต่คำถามที่เธอได้รับกลับเป็นข้อเสนอแนะ #เป็นถึงรองมิสทิฟฟานี่ทำไมไม่เดินสายนักแสดงนางโชว์หรือเป็นพนักงานขายเครื่องสำอางค์เคาท์เตอร์แบรนด์ ที่นี่โรงเรียนคริสเตียนอาจจะไม่เหมาะสม”
หนามไม่ได้ขอให้โรงเรียนรับเธอเข้าเป็นครู หากเพียงแต่ขอโอกาสที่เธอจได้ผ่านการทดสอบทักษะการสอน เพราะเธอเชื่อมั่นเหลือเกินกว่าเธอมีทั้งความรู้ตามหลักวิชาการ และทักษะการใช้ชีวิตที่จะเป็นต้นแบบของนักเรียนที่ดีได้ แต่วันนี้เธอพ่ายแพ้ให้กับ อคติ และถูกตัดโอกาสในการพิสูจน์ตัวเอง เพียงเพราะเธอเป็นบุคคลข้ามเพศที่แสดงออกแตกต่างจากเพศกำเนิดของเธอ
นาดาบอกกับเธอว่า สิ่งที่เธอต่อสู้นั้นมันยิ่งใหญ่มาก และคู่ต่อของเธอคือสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงระดับประเทศที่ถูกหนุนหลังโดยองค์กรศาสนา อย่างไรก็ตาม โรงเรียนมีหน้าที่สำคัญคือการให้บริการสาธารณะด้านการศึกษา โรงเรียนจึงไม่สามารถเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเพศสภาพได้ ในวันที่ 2 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ น้องหนามจะเดินทางไปยื่นคำร้องขอความเป็นธรรม ภายใต้กลไกการคุ้มครอง คณะกรรมการวินิจฉัยการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ
ตามพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ.2558 กับท่านอธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว งานนี้คงต้องขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนช่วยสร้างเกราะคุ้มกันให้เธอจากอิทธิพลต่างๆที่อาจเกิดขึ้นกับเธอในระยะเวลาที่เธอดำเนินการและร่วมเป็นกำลังใจให้เธอด้วยนะคะ ” จากที่โพสต์ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเพียบถึงเรื่องนี้ด้วย แอดว่าไม่เห็นจะแปลกตรงไหนที่จะมีครูสาวประเภทสอง ในหลายๆโรงเรียนก็มีกันเยอะแยะไป
แหล่งที่มา: ขอบคุณข้อมูล:w.khim ,เฟสบุ๊ก Nada Chaiyajit