'สนธิรัตน์'ลั่น! หมดเวลาพรรคการเมืองเก่า ชี้ 24 มีนา หากปชช.ตัดสินใจพลาด บ้านเมืองวุ่นวาย
'สนธิรัตน์'ลั่น! หมดเวลาพรรคการเมืองเก่า ชี้ 24 มีนา หากปชช.ตัดสินใจพลาด บ้านเมืองวุ่นวาย
วันที่ 12 มี.ค.62 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ บริเวณสนามหน้าเมือง อ.เมืองจ.นครศรีธรรมราช นำโดย นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรค และกรรมการบริหารพรรค พร้อมด้วยผู้สมัคร จ.นครศรีธรรมราช ทั้ง 8 เขต โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักมีประชาชนเข้าร่วมปราศรัยจำนวนมาก ซึ่งก่อนขึ้นปราศรัยได้สักการะศาลหลักเมือง จ.นครศรีธรรมราช
โดย นายสนธิรัตน์ ขึ้นปราศรัยโดยกล่าวว่า คาดไม่ถึงที่ได้รับการสนับสนุนจากคนภาคใต้เป็นจำนวนมาก พรรคพลังประชารัฐ เป็นพรรคเกิดใหม่ จึงขออาสาเข้ามาแก้ปัญหาชาติบ้านเมืองซึ่งอีกไม่กี่วันก็จะเป็นวันที่ตัดสินอนาคตประเทศไทยครั้งประวัติศาสตร์ ชี้อนาคตประเทศ ซึ่งหากตัดสินใจผิดพลาดบ้านเมืองก็จะเกิดความสับสนและวุ่นวาย
ทุั้งนี้ตนเห็นว่าบ้านเมืองขณะนี้แบ่งเป็น 3 ขั้ว คือมีพรรคที่แตกตัวออกไปหลายสาขาแต่สุดท้ายก็แพ้ภัยตนเอง ขั้วที่ 2 คือเป็นขั้วที่พี่น้องประชาชนเคยไว้วางใจ แต่ไม่สามารถพาบ้านเมืองข้ามความขัดแย้งได้ และคือพรรคพลังประชารัฐ ที่ตั้งใจมาทำหน้าที่ให้ประเทศเดินไปข้างหน้า หวังเป็นทางออกของประเทศ และเห็นว่าหากยังมี 2 พรรคใหญ่เดิม คนใต้ก็จะต้องเหนื่อยอีกแน่นอน
"ดังนั้นในวันที่ 24 มีนาคมนี้ใครจะได้เป็นรัฐบาลก็ขึ้นอยู่กับประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ จึงขอให้พี่น้องประชาชนให้โอกาสแก่ผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐหากได้เป็นแกนนำรัฐบาลก็จะได้ผู้นำที่เข้มแข็งอย่าง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชามาเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อพาประเทศเดินไปข้างหน้า ยืนยันพรรคพลังประชารัฐไม่ใช่พรรคเผด็จการ และเมื่อหลังการเลือกตั้งนายกคนใหม่ก็คือพลเอกประยุทธ์ ที่จะไม่ใช่พลเอกประยุทธ์ที่มีมาตรา 44 หรือ คสช. อีกและไม่ได้เป็นการสืบทอดอำนาจแต่เป็นการสืบทอดความอยู่ดีกินดี ย้ำว่าหากไม่มีทหารเข้ามาบ้านเมืองอาจจะไม่เหลืออะไร"นายสนธิรัตน์ กล่าว
นายสนธิรัตน์ ยังย้ำว่า 4 ปีที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์ ได้คอยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในหลายด้าน ทั้งการฟื้นฟูเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวและการค้าการลงทุน รวมไปถึงสาธารณูปโภคทุกชนิด และพร้อมที่จะต่อยอดนโยบายของรัฐบาลปัจจุบัน

















