เขียนถึงคนบนฟ้า
ทุกครั้งที่แหงนมองฟ้าในยามราตรี ไอรักจากดวงดาวและดวงจันทร์ที่ส่งถึงกันทำให้หัวใจอบอวลไปด้วยความคำนึงถึงคนไกลได้เสมอ แม้ฟ้าจะมืดลง แต่แสงสกาวจากดวงดาวและแสงนวลของดวงจันทร์ ก็ยังส่งผ่านเรื่องราวความรัก และปรารถนาให้ทุกคนมองเห็นความสำคัญของ.... คนที่เรารักและรักเรา
ซึ่งการเสียสละในความรักของรัตติกาล ประหนึ่งดั่งการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ เป็นรักที่หาได้ยาก เพราะคำว่ารัก ใครๆ ก็อยากได้เป็นเจ้าของ เพื่อนำไปมอบให้เป็นของขวัญกับหัวใจของตัวเอง แม้ว่าความรักที่แท้จริงคือการเสียสละ แต่ก็ไม่ปฎิเสธได้เลยว่า ทุกๆ คนที่มีรักก็อยากจะได้ครอบครองซึ่งเป็นความจริงที่ยากจะหลีกเลี่ยงในหัวใจแห่งรัก
ซึ่งชายที่เป็นดั่งรัตติกาลบนท้องฟ้ายามราตรี ก็มีความต้องการที่จะครอบครอง หญิงที่เป็นดั่งดวงจันทร์อันเป็นที่รักเช่นเดียวกัน อาจจะเป็นเพราะความใกล้ชิด ที่สร้างทั้งสองสิ่งนี้มาคู่กันแต่ไม่สามารถรักกันได้ ซึ่งโดยหน้าที่ของทั้งสอง ต้องทำให้พบเจอกันทุกๆ วัน แต่รักกันไม่ได้ ความมืดของรัตติกาลอาจเป็นสิ่งแทนค่าในหัวใจของตน ซึ่งสีเหลืองอ่อนๆ ในความงามของดวงจันทร์ อาจแทนค่าดั่งรักที่รอคอยการตอบรับ
ในทุกๆ วันดวงจันทร์และรัตติกาลได้ขึ้นทำหน้าที่ของมันอย่างทุกวัน มีการพูดคุยทำความคุ้นเคยกันมาช้านาน ผ่านการเคลื่อนตัวของกาลเวลาวันแล้ววันเล่า ความผูกพัน ก็ย่อมมากขึ้นตามลำดับของความคุ้นเคย
แต่ก็ไม่สามารถรักกันได้ ด้วยช่องว่างที่ห่างของธรรมชาติ ทำให้ทั้งสองก็ยังคงเป็นได้แค่เพียงเพื่อนกัน
จนอยู่มาวันหนึ่งดวงจันทร์อันเป็นที่รักของตน ได้รู้สึกดีกับก้อนเมฆยามราตรี อาจจะเป็นที่เมฆนั้นมีความขาวบริสุทธิซึ่งตรงข้ามกับความมืดหม่นของรัตติกาลโดยสิ้นเชิง และยังสามารถเข้าใกล้ชิดดวงจันทร์ได้มากกว่ารัตติกาล ทำให้ความสนิทสนมของทั้งสองพอกพูลขึ้นทุกวัน โดยมีรัตติกาลเฝ้ามองดูอยู่ห่างๆ
ซึ่งวันหนึ่งดวงจันทร์ได้พูดกับ รัตติกาลว่าระหว่างสองเรามันคงเป็นไปได้ยากที่จะรักกัน ของให้รัตติกาลตัดใจและสิ้นสุดกันเพียงแค่นี้ โดยหารู้ไม่ว่ารัตติกาลนั้น มีรักให้แค่ดวงจันทร์เพียงผู้เดียว ซึ่งสิ่งที่ดวงจันทร์กล่าวก็ย่อมไม่ผิดในคำพูด แต่อาจจะผิดในความรู้สึกของความผูกพัน ซึ่งรัตติกาลก็รู้เสมอว่าสิ่งเหล่านี้ต้องเกิดกับตนไม่วันใดก็วันหนึ่ง แต่จะให้ทำอย่างไรก็ในเมื่อหัวใจมันรักไปแล้วทั้งใจ ทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่สามารถเป็นไปได้ในความเป็นจริง
ซึ่งรัตติกาลก็ได้ตอบตกลงตามที่ดวงจันทร์ขอทุกประการ เพราะรู้อยู่แก่ใจของตนว่าสิ่งที่หวังยากจะรั้งและไม่มีทางเป็นจริง ซึ่งเมื่อกาลเวลาค่อยๆหมุนไปดวงจันทร์ก็ค่อยๆ ถอยห่างจากรัตติกาล ออกห่างไปเรื่อยๆ ทุกครั้งที่เวลาก้าวเดิน ไปทีละนิด ทีละนิด รัตติกาลคงทำได้เพียงจมตัวอยู่ในความมืดมิดของตนด้วยความเดียวดาย หยดน้ำตาค่อยๆ หลั่งไหลรินออกมาจากความรักที่ตนมีทุกๆ วัน จนเกิดเป็นดวงดาวที่สุกสกาวสว่างไสวเต็มท้องฟ้า โอบกอดและคอยเฝ้าห่วงใยดวงจันทร์ไปทุกที่ และก็คงเป็นเพียงสิ่งเดียวที่รัตติกาลจะทำได้ในรักที่ไม่มีทางเป็นจริง
ดวงดาวที่สุกสกาวเต็มฟ้า ต่างกระพริบแสงอันน้อยนิดอย่างยินดีในการเฝ้ามองและห่วงใยในจันทร์ แว่วเสียงอันอบอุ่นคุ้นหูของรัตติกาล ..ไม่รักไม่เป็นไรแต่ของอยู่ข้างๆ กายเธอ..เหมือนที่เป็นมาเสมอและ...ตลอดไปนะ .....ความรักเป็นสิ่งที่เกิดจากใจไม่อาจบังคับกันได้ ความรักที่แท้จริงคือความรักที่ปราถณาดีต่อคนที่เป็นที่รัก ความยินดีที่คนที่ตนรักมีความสุข การให้อภัยเมื่อคนรักได้ทำผิด และการเสียสละความสุขของตนเพื่อคนที่ตนรัก นั้นคือรักที่บริสุทธิ์และเป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่
แม้สุดท้ายความรัก..อาจจะไม่ได้มอบความรู้สึกสมหวังให้แก่ผู้หนึ่งผู้ใด แต่ในตัวความรักนั้นจะมอบความอบอุ่น ความรู้สึกดีๆ ความเข้าใจชีวิต รวมถึงมิตรภาพให้กับคุณ ไม่ว่าปลายทางที่รออยู่ของชีวิตคุณจะมี หรือไม่มีใครอยู่เคียงข้างคุณ...ก็ตาม
"ถ้าความรักเลือกที่เกิดได้ ก็คงไม่ต้องมีใครต้องเจ็บและช้ำในคำว่า....รัก”