แม้นานสักเพียงได ความแค้นนี้นยังคงอยู่สำหรับผู้รอคอย"แรงแค้น" ตอนที่ 1
เสียงลมที่พัดหวีดหวิวเหมือนเสียงกรีดร้องของใครบางคน ทำให้ปรายอดที่จะขนลุกไม่ได้ เธอเดินไปเดินมาอยู่ในบ้านหลังเล็กที่ดูเหมือนไม่มีใครอยู่นานนับสิบปี บ้านหลังนี้เป็นบ้านของน้าชายและน้าสะไภ้ ทั้งสองเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ เพราะติดอยู่ในห้องใต้ดินนานเกินไปประตูใต้ดินถูกปิดจากด้านนอกแต่จนถึงตอนนี้ก็ยังหาคนผิดมารับโทษตามกฎหมายไม่ได้
อันที่จริงปรายก็ไม่อยากมาที่นี่นักหรอกถ้าแม่ไม่เขี่ยวเข็ญให้มา แม่มั่นใจว่านี่คือการฆาตกรรม แต่ในเมื่อตำรวจปิดคดีไม่ได้เธอจึงให้ลูกสาวมาเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม เพราะปรายเป็นทนายความบางที่การมาของเธอจะช่วยให้รู้ตัวฆาตกร
สายลมกรรโชกอย่างรุนแรง ปรายตัวสั่น รู้หนาวยะเยือกในอก แม้เธอเองไม่ได้เชื่อเรื่องภูติผีปีศาจมากนัก
แต่ก็อดหวาดกลัวกับบรรยากาศเช่นนี้ไม่ได้ ปรายได้ยินเสียงฝีเท้าใครบางคนหรือหลายคนอยู่รอบๆบ้าน
เธอเพ่งไฟฉายออกไป แต่ไม่พบอะไร ไม่มีใครอยู่ด้านนอก. แล้วเสียงรอยเท้านั่นมาจากไหน
ดวงอาทิตยลับฟ้าไปแล้ว ปรายหาฟืนมาจุดไฟเพื่อคลายหนาว และจุดเทียนเล่มใหญ่ไว้ในบ้าน เมื่อกวาดตาไปรอบในบ้านหลังนี้ มีสิ่งผิดปกติหลายอย่าง เธอรูสึกแปลกใจที่เห็นผ้าสไบผู้หญิงสีแดงซุกอยู่มุมห้อง ปรายหยิบผ้าสไบนั้นขึ้นมาดูตอนนี้ในสมองของเธอสับสนไปหมด เธอมั่นใจว่าผ้าชิ้นนี้มีอายุไม่ต่ำกว่าร้อยปีจากลักษณะผ้า และรูปแบบการทักทอ ที่แปลกกว่าก็คือสะไบนี้ยังสีสด เหมือนเพิ่งตัดมาใหม่ๆ แต่ผ้าสไบนั้นสักด้วยลวดลายไหมว่า
"พี่ขอมอบให้ยอดดวงใจของพี่"สไบงา* พ.ศ ๒๓๕๔ "
ปลายชงักมือที่กำลังลูบไล้ผืนผ้า เพราะรู้สึกว่าสไบผืนนั้นเย็นเหมือนน้ำแข็ง เธอเดินไปที่เตียงน้อนปิ๊กนิคที่เพิ่งซื้อมา ปรายข่มตาลงเพื่อให้หลับและหลุดจากความอึดอัดนี้เสียที ขณะที่กำลังจะหลับ เธอได้ยินเสียงเสียงของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งกระซิบข้างหูเธอว่า "บุษราคัม ตื่นเถอะ รีบออกไปจากที่นี่ มันอันตรายมาก"