ด้วยรัก...และอาฆาต 2
พี่ทอปเลื่อนประตูรั้วหน้าบ้านให้เปิดออกเพื่อที่จะออกไปดูข้างนอกให้ถนัดตาช่วงนี้ข่าวคราวโจรขึ้นบ้านเยอะเหลือเกินไม่ระวังไว้ก็คงจะไม่ได้ พี่ทอปเดินออกมาที่หน้าบ้านหันซ้ายขวาไปรอบๆตัวเพื่อความแน่ใจแต่ก็ไม่เห็นใครเลย แต่ไอ้อ้วนก็ยังไม่ยอมหยุดเห่า
พี่ทอปไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรจึงตัดสินใจเดินเข้าบ้านมา และในตอนที่กำลังจะเอื้อมมือไปปิดประตูรั้วนั้นทันทีที่มือของพี่ทอปยึดเอารั้วเหล็กได้ พี่ทอปก็รู้สึกได้ถึงความเย็นๆจากสัมผัสคล้ายมือของใครไม่รู้ที่มาแตะเอาตรงปลายนิ้วของพี่ทอป
ด้วยความตกใจพี่ทอปจึงเผลอปล่อยมืออกจากรั้วทันทีและพยายามมองออกไปที่นอกรั้วอีกครั้งแต่ก็ไม่พบกับใครอีกเช่นเคย แต่สิ่งที่ต่างออกไปคือท่าทางของไอ้อ้วน ตอนนี้มันหยุดเห่าแล้วแต่กลายเป็นว่าเหมือนมันระแวงอะไรอยู่และที่แย่ไปกว่านั้นคือสายตาของมันที่เปลี่ยนจากรั้วบ้านมาเป็นด้านหลังของพี่ทอปเอง
พี่ทอปเลื่อนรั้วปิดอย่างรวดเร็วเพราะกลัวท่าทางของไอ้อ้วน พี่ทอปเดินเข้าไปใกล้ๆไอ้อ้วนเพื่อจะลูบตัวมันแต่มันกลับร้องเอ๋งเสียงดังเหมือนตกใจกลัวแล้ววิ่งด้วยความเร็วเท่าที่มันจะทำได้ไปหาแม่ที่ยืนรออยู่กับพี่บีข้างในบ้าน
พี่ทอปเดินกลับเข้าบ้านมาด้วยความรู้สึกระแวงหลังและความขนลุกที่ไม่รู้ที่มา พี่ทอปรีบชวนให้ทุกคนขึ้นห้องไปนอนกันเพราะว่าเริ่มกลัวแล้ว ซึ่งทุกคนก็เห็นด้วยกับความคิดนี้
พี่ทอปกับพี่บีขึ้นมาที่ห้องของตัวเองแล้วในตอนนี้โดยที่แม่นั้นจะนอนกับไอ้อ้วนเป็นประจำ พี่ทอปกับพี่ยีพยายามข่มตาให้หลับในคืนนั้นแม้ว่ามันจะยากก็ตามแต่ทั้งสองคนก็หลับลงไปในที่สุด
แก่กๆๆๆๆๆๆๆ
พี่ทอปสะดุ้งตื่นมาในตอนเช้ามืดเพราะเสียงดังกุกกักๆมาจากทางหน้าประตู เสียงนั้นมาจากไอ้อ้วนตัวดีนั่นเองมันมาตะกุยห้องนอนเหมือนพยายามจะเรียกให้คนมาเปิดประตู พี่ทอปเดินไปเปิดประตูปละพยายามกันไม่ให้มันเข้าไปในห้องนอน เพราะพี่บียังนอนอยู่ เวลานี้เป็นเวลาที่แม่มักจะตื่นมาทำกับข้าว พี่ทอปจึงลงไปหาแม่ในทันที
พี่ทอปเดินลงมาข้างล่างโดยพยายามต้อนไอ้อ้วนที่ตะเกียกตะกายจะเข้าไปในห้องให้ได้ลงมาด้วย พี่ทอปนั่งเล่นนั่งคุยกับแม่ที่กำลังทำกับข้าวได้อยู่แค่สักครู่เดียวก็ได้ยินเสียงตูมตามมาจากชั้นบน พร้อมกับที่พี่บีวิ่งลงมาด้วยความเร็ว
หน้าตาของพี่บีบ่งบอกว่ากำลังตื่นกลัวอย่างมาก พี่บีลงมานั่งตัวสั่นอยู่ที่โต๊ะอาหารโดยที่มีแม่และพี่ทอปช่วยกันปลอบใจ หลังจากเวลาผ่านไปได้พักใหญ่พี่บีก็เริ่มที่จะใจเย็นลงและเป้นโอกาสให้พี่ทอปกับแม่ได้ถามไถ่ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
พี่บีกระชอบอ้อมแขนกอดแม่ไว้แน่นเหมือนพยายามหาที่พึ่งทางใจก่อนจะค่อยๆเล่าด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักลนลานด้วยความกลัว
พี่บีเล่าว่าพี่บีได้ยินเสียงกุกกักมาจากทางประตูอยู่สักพักหนึ่งพอลืมตาขึ้นมาก็เห็นพี่ทอปกำลังเดินไปทางประตูพอดีแล้วก็เห็นว่าเป็นไอ้อ้วนจึงไม่ได้คิดอะไรเลยกะว่าจะหลับต่อในทันทีแต่หลังจากที่พี่ทอปออกจากห้องไปแล้วพี่บีก็ได้ยินเสียงแปลกๆดังขึ้นมาอีก เสียงนั้นดังมาจากทางข้างเตียงฝั่งที่พี่ทอปนอน เสียงนั้นเป็นเสียงแหบแห้งคล้ายคนหัวเราะ
พี่บียังไม่ได้หันไปมองในทันทีเพราะความง่วงที่ยังมีอยู่มากบวกกับเสียงนั้นก็ไม่ได้ดังมากอย่างชัดเจน แต่ก็มากพอจะสร้างความรำคาญให้ไม่สามารถนอนต่อได้ เมื่อพี่บีลองตั้งใจฟังก็ยิ่งชัดเจนว่ามันเป็นเสียงหัวเราะแน่ๆ แต่มันบบ่างแหบแห้งน่าขนลุกยังไงไม่รู้
พี่บีเริ่มกลัวกับสิ่งที่ได้ยิน แต่ธรรมชาติของคนเรายิ่งกลัวก็จะยิ่งต้องหันหน้าไปมองมัน แล้วพี่บีก็ตัดสินใจกลั้นใจหันกลับไปมองทางด้านที่มีเสียงแปลกๆดังขึ้นมา
ทันทีที่พี่บีลืมตามองไปยังที่ว่างตรงข้างๆเตียงใจของพี่บีก็หล่นวูบเหมือนจะเป็นลมไปในทันที ที่ตรงช่องว่างในความมืดนั้นปรากฏเป็นร่างของหญิงสาวในชุดเสื้อยืดนั่งกอดเข่าอยู่กับพื้น ใบหน้าที่บิดเบี้ยวไม่ได้รูป ดวงตากลมโตที่ไม่มีตาดำให้เห็นแม้แต่น้อยฉายแววเยาะเย้ย ปากที่ฉีกกว้างหัวเราะด้วยความสะใจเสียงอันแหบพร่าบวกกับรอยยิ้มกว้างที่ไม่มีฟันนั้นทำให้คนเห็นสติแทบจะไม่อยู่กับตัว
ปากสีแดงสดนั้นยังคงยิ้มกว้างและส่งเสียงหัวเราะมายังพี่บีด้วยความสะใจอย่างไร้สาเหตุพี่บีหลับตาลงในทันทีด้วยความกลัวพร้อมๆกับที่เสียงหัวเราะนั้นเงียบไปเหมือนถูกปิดเทป พี่บีใช้เวลาสักครู่หนึ่งเพื่อรวบรวมความกล้าเงยหน้ามามองภาพตรงหน้าอีกครั้ง
ผู้หญิงตรงหน้าหายไปแล้ว พี่บีจึงรีบลุกวิ่งลงจากเตียงมาในทันที หลังจากที่พี่บีเล่าจบแม่ก็รีบเดินไปจัดชุดกับข้าวในทันทีเพราะตอนนี้ได้เวลาที่พระท่านจะมาบิณฑบาตผ่านหน้าบ้านพอดี
ทั้งสามคนพร้อมกับหมาอีกหนึ่งตัวเดินมารอพระที่หน้าบ้าน หลังจากที่ใส่บาตรเรียบร้อยแล้ว ทั้งสามคนก็ดูจะสบายใจขึ้นบ้าง แต่ในตอนที่กำลังรับพรจากพระนั้นทั้งสามคนก็ต้องใจหายและกลับมาสู่ห้วงของความกลัวอีกครั้ง
‘ขอให้โยมสามคนและคนในบ้านที่ไม่ได้ออกมาใส่บาตรร่วมอนุโมทนาด้วยกันนะ แกด้วยเจ้าหมาน้อย’
...............................................................................................
แหล่งที่มา:pantip.com