เลิกกันแบบ”จบกันด้วยดี”มีจริงไหม?

 

พูดถึงเรื่องเลิกทุกคนจะเข้าใจว่ามันคือการจากลาของคนสองคน ส่วนใหญ่จะเป็นแบบนั้นเพราะพอเลิกทุกคนจะพร้อมตัดความสัมพันธ์แล้วเดินออกมา คำว่า ‘เลิก’ เลยเป็นอะไรที่ค่อนข้างเจ็บปวด ยิ่งหัวใจยังรักยิ่งไม่ต้องพูดถึง 

สาเหตุของการเลิกมีมากมายหลายร้อยเหตุผล เพราะแต่ละคู่ไม่เหมือนกัน แต่หลักๆ คือความรู้สึกที่ไม่เหมือนเดิม ถ้าแค่ความรู้สึกเปลี่ยนมันคงพูดกันง่ายขึ้นแต่ถ้ามีสาเหตุอื่นด้วยคงได้บอกเลิกแบบไม่ยินดี แล้วที่ว่าเลิกๆ จบกันด้วยดีเนี่ยมันมีจริงๆ เหรอ?

 

เจ้าของกระทู้ตั้งกระทู้ขึ้นมาว่า….

เลิกกันแบบ”จบกันด้วยดี”มีจริงไหม?

‘แบบตกลงกันดีๆ เคลียภาระร่วมกัน หรือตกลงกันใจกัน ไม่มีความโกรธแค้น หรือเสแสร้งว่า แบบเป็นเพื่อนกันได้นู่นนี่นั่น มีจริงไหมคะ แบบจบกันด้วยดีจากใจจริง’

 

 

คิดว่ามี….แต่คงไม่ได้มีเยอะ เพราะธรรมชาติของคนเราที่เคยรักกันจะทำเหมือนปกติ ไม่มีความคิดอะไรเลยมันก็คงยาก

 

ความคิดเห็นที่ 5

ถ้าจบแบบไปต่อกันไม่ได้ ไม่ใช่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดนอกใจ ก็คงคุยกันได้ แต่ถ้าเกิดจากการนอกใจก็คงจะ ผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ กันเลยมั๊งสำหรับบางคู่

 

 

คิดเหมือนกันกับความเห็นนี้ ถ้าการเลิกเป็นเลิกแบบที่ค่อยๆ หมดรักหรือหมดความหวานต่อกัน เป็นความสมัครใจที่คุยกันเรียบร้อยว่าเราควรหยุด มันต้องแตกต่างจากสถานการณ์ที่บีบบังคับให้เลิกกันอยู่แล้ว

 

ความคิดเห็นที่ 6

มีค่ะ เรากับแฟนเก่าเลิกกันด้วยดี เลิกกันเกือบ2ปี แต่ยังใช้ชีวตในบ้านหลังเดียวกัน ช่วงเลิกกันแรกๆคุยกันน้อยลง ต่างฝ่ายต่างหลบหน้าเหมือนสับสนกันอยุ่ จนเรามั่นใจในความรุ้สึกของเค้าและเราแล้วว่า เราทั่งคุ่พร้อมจบสถานะตรงนั้นจริงๆ เราถึงเปิดอกคุยกัน และ เข้าใจกันและกัน นางขออยู่ต่อที่บ้านซักระยะ เราก็โอเคน่ะ ตอนนี้เราได้รู้จักแฟนใหม่นาง นางได้รู้จักแฟนใหม่เรา นางเพิ่งจะย้ายออกจากบ้านไปเมื่อปีที่แล้ว ทุกวันนี้ยังมีเรื่องคุยเรื่องปรึกษาเหมือนพี่น้อง ^^

 

 

วัาว ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก เสียแฟนไปแต่ได้เพื่อนสนิทรู้ใจมา อย่างน้อยเวลาที่เคยใช้เรียนรู้กันก็ไม่เสียเปล่า

 

ความคิดเห็นที่ 13

มี ตอนนี้เป็นเพื่อนสนิทกันเลย สนิทกับสามีมันด้วย

 

 

ความเห็นนี้เหมือนๆ กับความเห็นบน ไปๆ มาๆ วงสังคมกว้างขึ้นเพราะรู้จักแฟนของแฟนเก่าด้วย

 

ความคิดเห็นที่ 16

เราเลิกเพราะจับได้ว่าเค้าแอบคบคนอื่น เสียใจมากและไม่เคยพูดจาไม่ดีใส่เลยแม้แต่ครั้งเดียว เรารอจนเราใจเย็น+มีหลักฐานครบ แล้วบอกเค้าว่าเรารู้แล้วไม่ต้องเลือกเราไปเองขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมา แล้วก็ต้องขอโทษกับบางสิ่งที่เราทำผิดทำพลาดไป ส่วนเรื่องนอกใจเราอโหสิกรรมให้ ขอให้เลิกแล้วต่อกันด้วยดี ไม่ใช่เพราะรักมากแต่เพราะเรารู้สึกว่าเราโชคดีที่เค้าออกลายตอนนี้ดีกว่าแต่งงานกันไปแล้วมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ผู้ชายที่ไม่มีความกล้าแม้แต่จะบอกเราว่าเลิกกันเถอะ คนที่โกหกหลอกลวงเรามาเป็นเวลานาน ใช้ความเชื่อใจความรักของเรามาทำร้ายเรา สำหรับเราคือผู้ชายที่ใช้ไม่ได้ และเราไม่ต้องการผู้ชายแบบนี้เข้ามาอยู่ในชีวิต ที่พูดดีด้วยเเละเลิกกันด้วยดีเพราะคิดได้ทันทีว่าเราโชคดีมากขนาดไหนที่หลุดพ้นจากคนแบบนี้ ทุกวันนี้เค้าโทรมาหาบ้างก็คุยกันด้วยดี ถามสารทุกข์สุขดิบกันทั่วๆไป ไม่มีความโกรธ เกลียดชังใดๆจากเรา แต่โทรมาชวนไปข้างนอกเราไม่ไป และเราไม่เคยโทรหรือทักไปก่อน เพราะเราถือว่าเราให้เกียรติและเกรงใจแฟนใหม่ของเค้า

 

 

เป็นตัวอย่างของสาเหตุการเลิกที่ไม่ดี แต่ด้วยตัวคนที่มีเหตุผลและใจเย็นพอทำให้เรื่องดูง่ายขึ้น ไม่มีเรื่องให้ต้องหนักใจกว่าเดิม ค่อยๆ แก้ไปอย่างคนมีสติ

 

ความคิดเห็นที่ 17

ยืนยันด้วยอีกเสียงว่ามีคู่แบบนี้เกิดขึ้นจริงๆครับ เลิกกันเป็นเพื่อนกัน เพียงแต่คู่ผมค่อนข้างพิเศษตรงที่ แยกกันอยู่มีลูกด้วยกัน แบ่งลูกกันเลี้ยง แต่ผมยังรับผิดชอบค่าใช้จ่ายบางส่วนช่วยเหลือเขาด้วย เขาคงมีแฟนใหม่ไปแล้วมั้ง ส่วนผมยังโสดอยู่เลย555 อยากอยู่คนเดียว เพราะยังรักเขาอยู่แต่เขาหมดรักเราแล้ว เราเข้าใจจึงไม่ได้โวยวายอะไร รับสภาพความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่ได้ อย่างน้อยผมก็มีลูกแล้ว2คน จึงทำให้ไม่อยากมีเมียใหม่ แค่ลูกผมก็ไม่มีเวลาให้แล้วครับ ถ้ามีเมียนี่ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ หรือผมยังไม่เจอผู้หญิงแบบที่เข้ากับได้รึเปล่าก็ไม่รู้

 

 

ลำบากเหมือนกันนะสำหรับคนที่มีลูกด้วยกันแล้ว เพราะถ้ามองอีกมุมเหมือนเป็นสิ่งที่ผูกมัดและเป็นสมบัติของพวกเขาทั้งสอง ถึงเลิกกันไปก็ต้องรับผิดชอบ ทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด

 

ความคิดเห็นที่ 25

ของผมก็จบกับแฟนที่คบกันมา 8 ปีได้ด้วยดีนะครับ แต่ผมเองก็ไม่มั่นใจว่า จะกลับไปเป็นเพื่อนกัน อย่างที่เธอขอผมไว้ได้จริงหรือเปล่า … เพราะความรู้สึกต่างๆ ที่ผมมีกับเธอนั้น มันมากมายเสียเหลือเกิน…

 

 

ยิ่งมีความรู้สึกให้มาก ยิ่งกลับเป็นแบบเดิมยาก เพราะแบบนี้หลายคู่ถึงกลับไปเป็นแบบเดิมไม่ได้ด้วยเหตุผลเดียวกัน

 

ความคิดเห็นที่ 26

มีสิ  ทุกวันนี้สมองเหนืออารมณ์​ ไม่เหมือนตอนนั้นหรอก

 

 

พอโตขึ้นการแก้ปัญหาของเราดูเหมือนต้องใช้สมองมากขึ้นจริงๆ อารมณ์จะทำให้แต่เกิดเรื่อง

 

ความคิดเห็นที่ 28

มันแล้วแต่เหตุผลนะของยังงี้ แต่จากกันด้วยดี น่ะมีแน่นอน เล่าให้ฟังนะ ชีวิตที่ผ่านมาคบกับแฟน คนแรกคบกันหลายปีอยู่หอด้วยกัน ต่างคนต่างทำงาน สุดท้ายมีทอมมาชอบ แต่เค้าพยายามบอกผมแล้วว่า ไม่มีอะไร แค่คนรู้จักกันธรรมดา ผมก็นอยคิดมาก จนทะเลาะกันบานปลายด่ากัน จนต้องเลิกกัน แล้วต่างคนต่างหายไปจากชีวิตเลย ไม่เคยเจอกันอีก อันนี้จากกันไม่ดีละ คนที่สองอายุผมกับเค้าเท่ากันเราเหมือนกันมากๆ เธอเป็นคนน่ารัก อ่อนหวาน ผมคบถึงขั้นคิดจะแต่งงานกัน แต่แล้ว ด้วยวัยและเวลา เมื่อผ่านไปแต่ละปี ความคิดมันก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทั้งผมและเค้าก็รู้สึกว่า ทุกอย่างมันดูเรียบเฉยลงทุกวัน เราสองคนเริ่มไม่พูดจากันมากเหมือนก่อนละ เริ่มมีพื้นที่ส่วนตัวของแต่ละคนมากขึ้น ผมกับเค้าก็เปิดใจคุยกันเลย ไม่อยากจะคิดมาก ถามตรงๆกันว่า เธอมีคนใหม่หรือป่าว ผมก็เปิดใจตอบนะว่า ผมไม่มีเค้าก็บอกว่าไม่มี แต่รู้สึกเฉยๆ กับชีวิตตอนนี้ แล้วเค้ากับผมต่างรู้สึกว่า ความสัมพันเราลดลง เราสองคนเลยตกลงกันว่า เราจะกลับไปเป็นเพื่อน ไปเดินตามชีวิตตัวเอง เราไม่ได้เกลียดหรือโกรธกัน และไม่รู้สึกเสียเวลากับสิ่งที่ผ่านมา ผมกับเค้าก็จะยังคงรักและคิดถึงหวังดีต่อกันเสมอ ผ่านมา6ปีและ เค้าก็โทรมาคุยเวลามีปัญหา ปรึกษาผม ตอนผมมีปัญหาคิดไม่ออก ผมก็มีบ้างที่จะโทรปรึกษา โทรเล่าให้เค้าฟัง เค้ามีชีวิตใหม่คนใหม่ ผมก็มีคนใหม่ชีวิตใหม่ แต่เราก็ยังคุยกันได้ ปรึกษากันได้ ในฐานะเพื่อนที่ดีและไว้ใจกันได้มากที่สุด เพราะเราจากกันด้วยดีไม่ได้ทะเลาะกันครับ

 

 

เท่าที่เห็นส่วนใหญ่การเลิกที่จบลงด้วยดีเป็นเรื่องความรู้สึกของคนสองคนที่ค่อยๆ จืดจางลง หรือคิดว่าที่เป็นอยู่มันยังไม่ใช่ เพราะทั้งหมดคือเหตุผลที่ทั้งสองคนสามารถรู้สึกและเข้าใจได้ ไม่มีใครทำผิดต่อใคร ความรู้สึก ความคิด ด้านลบก็จะไม่มี