บทเรียนแห่งความเงิบ ในการด่วนตัดสินใครในโลกโซเชียล
บทเรียนแห่งความเงิบ ในการด่วนตัดสินใครในโลกโซเชียล โดย Warat Karuchit อีกหนึ่งคดีที่น่าสนใจที่อเมริกาสาวผิวขาวคนนี้ เป็นผู้จัดการร้าน Chipotle ร้านอาหารเม็กซิกันในเมืองเซนต์พอล มินเนโซต้าเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เธอถูกไล่ออก หลังจากที่มีลูกค้าผิวดำคนหนึ่ง โพสต์คลิปในทวิตเตอร์นี้
Can a group of young well established African American get a bite to eat after a long workout session. @ChipotleTweets ?? pic.twitter.com/Sj8RaeINj6
— Masud Ali 🍑 (@Masudaliii) 16 พฤศจิกายน 2561
ในวันที่ 15 พย. ว่าเขาและเพื่อนๆ ไปกินร้านนี้ แต่เธอไม่ยอมให้กิน เพราะไม่เชื่อใจว่าจะมีเงินจ่าย ต้องจ่ายเงินหรือแสดงให้เห็นก่อนว่ามีเงิน ถึงจะทำอาหารตามที่สั่งให้ โดยเธอพูดว่า "พวกคุณต้องจ่าย เพราะพวกคุณไม่เคยมีเงินเลยเวลามาที่นี่" ซึ่งการกระทำแบบนี้เป็นการเหยียดหยาม และเป็นการเหยียดผิวอย่างร้ายแรง พอเห็นว่าเป็นคนดำ จึงคิดว่าจะไม่มีเงินจ่าย
คลิปนี้แพร่กระจายเป็นไวรัลเยอะมาก มีคนดูถึงเกือบ 11 ล้านคน และคนจำนวนมากเข้ามาโพสต์ต่อว่าร้าน Chipotle จะบอยคอตต์ไม่กิน และด่าตัวผู้จัดการร้านและพนักงานอย่างรุนแรง มีสำนักข่าวมาสัมภาษณ์ตัวผู้โพสต์คลิป
ทางร้าน Chipotle จึงรีบแก้ไขสถานการณ์ ด้วยการเข้าไปขอโทษผู้โพสต์ และประกาศว่าได้ไล่ผู้จัดการคนนี้ออกแล้ว และให้พนักงานของร้านเข้าอบรมเรื่องการบริการเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก (ดูรูปทวิตของร้าน)
เรื่องก็น่าจะจบลงแค่นี้ แต่ว่าไม่ครับ
กลายเป็นว่า มีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง ไปขุดประวัติของคนทวิตคลิปนี้ และพบว่าเคยอวดพฤติกรรม "กินแล้วหนี" (dine and dash) มาแล้วหลายครั้งในหลายร้าน รวมทั้งที่ร้าน Chipotle ด้วย (รูปที่ 2) (ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ผู้จัดการสาวพูดว่า "พวกคุณไม่เคยมีเงินเลยเวลามาที่นี่") และได้ capture หลักฐานทวิตเหล่านั้นลงไปที่ทวิตต้นเรื่อง ทำให้แก๊งชักดาบกลุ่มนี้ "โป๊ะแตก" โดยไม่ได้สั่ง โดยเฉพาะตัวคนโพสต์คลิป ชื่อนายมาซุด อาลี เคยถูกจับในข้อหาลักทรัพย์มาแล้ว! (ดูภาพ Mug Shot ของนายอาลี)
ทวิตของนายอาลี เช่น "การกินแล้วหนี เป็นเรื่องที่น่าสนใจสุดๆ"
"ถ้าเป็น Nigga วายร้ายของแท้ จะต้องไปกินร้าน Applebee's ให้มากที่สุด ให้ทิป 20 เซ็นต์ (ประมาณ 6 บาท) แล้วเดินออกมาแม่งเลย"
"กินเต็มที่ ให้ฉันคุยเอง"
"ไม่ใช่กินแล้วหนี แค่ขอยืมอาหารซักสองสามชั่วโมงเท่านั้นเอง"
พอมีคนเข้ามาแฉหลักฐาน และเริ่มด่าร้าน Chipotle ทางร้านจึงได้สอบสวนเรื่องนี้อีกครั้ง (แต่ทำเป็นแก้เกี้ยวว่าได้ข้อมูลมาก่อนหน้านั้นแล้ว) และวันนี้ (20 พย.) ประกาศว่าได้จ้างผู้จัดการร้านกลับคืนเหมือนเดิมแล้ว และขออภัยที่ทำให้เธอต้องตกอยู่ในสถานการณ์นี้ แต่ทางร้านก็ยังโดนชาวเน็ตด่าซ้ำในการไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนไล่ออก
ส่วนลูกค้าคนดำกลุ่มดังกล่าว ยังไม่มีรายงานว่าจะมีการสอบสวนเพิ่มเติมหรือไม่ (ทางร้านก็คงไม่อยากเป็นข่าวแล้วแหละ)
เรื่องนี้เลยกลายเป็นว่า คนที่ด่วนตัดสินคนอื่นนั้น ไม่ใช่ตัวผู้จัดการ แต่กลายเป็นร้าน Chipotle และชาวเน็ตที่เข้ามารุมด่าผู้จัดการสาวคนนี้ทุกคน ซึ่งก็หงายเงิบหน้าแหกกันไปเป็นแถบๆ แต่เธอก็โดนด่าฟรีไปเรียบร้อยแล้วในระยะเวลา 5 วันก่อนความจริงจะปรากฎ ซึ่งร้านคงต้องชดเชยค่าเสียหายทางจิตใจให้เธอด้วย ไม่งั้นมีสิทธิโดนฟ้องกลับได้ง่ายๆ
และช่วยเตือนใจให้กับเราได้เช่นกันว่า คลิปเหตุการณ์ต่างๆที่เห็นกันอยู่ในโลกโซเชียลนั้น ล้วนแต่ "ตัดตอนมา" จากสถานการณ์เต็มทั้งสิ้น มีบริบท มีเบื้องหน้า เบื้องหลังของเหตุการณ์ แม้จะมีภาพ มีคลิป แต่ก็อาจจะไม่ได้บอกความจริงทั้งหมดได้ เพราะหลายๆครั้ง "สิ่งที่เห็น ไม่ใช่สิ่งที่เป็น"ในโลกโซเชี่ยล














