งานนี้พี่ไม่ได้มาเล่นๆ ขอเชิญร่วมงาน "ซ้อมตาย" ซ้อมนอนโลง และวางแผนงานศพของตัวเอง
ขอเชิญร่วมงานศพ "นิ้วกลม" ครับ
---
ก่อนอื่น คงต้องบอกกล่าวกันก่อนครับว่า นี่ไม่ใช่การเอาเรื่องซีเรียสมาล้อเล่น และไม่ต้องการสร้างความตื่นเต้นตกใจแต่ประการใด งานครั้งนี้จัดขึ้นด้วยเจตนาที่ดีและต้องการสร้างบทสนทนาที่เป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ในสังคม
แม่งานครั้งนี้คือเครือข่ายพุทธิกา ซึ่งทำงานสื่อสารเรื่อง "เตรียมตัวตาย" ให้กับสังคมไทยมาต่อเนื่องยาวนาน ร่วมกับทีมครีเอทีฟ "ชูใจ" พร้อมด้วยภาคีต่างๆ พวกเราตั้งใจจัดงานศพขึ้นมาหนึ่งงาน คล้ายเป็นนิทรรศการหรือการแสดงสด แต่จะเรียกว่า "แสดง" คงไม่ใช่ เพราะไม่ใช่ละครหรือเรื่องแต่ง หากเป็น "เรื่องจริง" ที่เราเพียงนำมา "ซ้อม" ก่อนที่จะเกิดขึ้นจริง จึงมิได้ทำกันเล่นๆ แต่ทำอย่างตั้งใจ ใส่ใจ และพิถีพิถัน
งานศพ (ซ้อมตาย) ครั้งนี้เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมได้ คุณจะได้ร่วมในพิธีศพที่ถูกออกแบบเพื่อสื่อสารเรื่องการเตรียมตัวตาย สำหรับผมแล้ว นี่คือ "งานศพที่อยากเห็น" เป็นงานศพที่ไม่ฟุ่มเฟือย เรียบง่าย แต่สื่อสารความหมายให้กับผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ เพื่อให้ผู้มางานได้กลับบ้านไปแล้วมีชีวิตที่ดี ที่เป็นเช่นนั้นเพราะเมื่อเราตระหนักถึงความตายหรือความไม่แน่นอนของชีวิตเสียแล้ว เราจะใช้ชีวิตในทุกวันอย่างมีคุณภาพมากขึ้น
นอกจากได้รับทราบเนื้อหาต่างๆ เกี่ยวกับงานศพ ความตาย การเตรียมตัวตายในรายละเอียดต่างๆ แล้ว ผู้มาร่วมงานยังจะได้มีโอกาส "ซ้อมตาย" ด้วยการลงไปนอนในโลงศพและกำหนดจิตใจให้ได้สัมผัสความรู้สึกใกล้ตายเพื่อการตระหนักรู้อีกด้วย
งานศพแต่ละรอบใช้เวลาประมาณ 2-3 ชม. ทางผู้จัดตั้งใจให้เป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่าสำหรับผู้มาร่วมงานทุกท่าน
ผมเองรู้สึกขอบคุณและเป็นเกียรติที่ได้มีโอกาสจัดงานศพของตัวเอง มีโอกาสได้บอกความประสงค์ว่า งานศพของตัวเองที่อยากเห็นมีหน้าตาแบบไหน ควรใช้งบประมาณเท่าไร ต้องการอะไร ไม่ต้องการอะไรบ้าง
เมื่อศึกษาเรื่องความตายแล้ว ทัศนคติที่เคยมีต่อความตายว่าเป็นเรื่องอัปมงคลก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป กลับเห็นเป็นสิ่งที่เราควรพูดคุยกัน เราควรบอกกับคนใกล้ชิดว่า ถ้าป่วยหนักจะให้ดูแลเราอย่างไร ต้องการให้ใช้เครื่องพยุงชีวิตหรือไม่ ต้องการเสียชีวิตที่โรงพยาบาลหรือที่บ้าน ต้องการฟัง ดู ชิม อะไรก่อนตายเป็นพิเศษหรือไม่ ร่างกายจะบริจาคหรือไม่ จัดการมรดกและทรัพย์สินให้เรียบร้อย ฯลฯ อีกมากมาย เรื่องเหล่านี้ หากไม่มีการเตรียมการไว้ ย่อมมีโอกาสก่อปัญหาให้คนข้างหลัง
การเตรียมตัวตายจึงสำคัญสำหรับทุกคน ไม่ว่าอยู่ในวัยใด เรามีโอกาสตายได้ทุกวัน เราควรคุยกันไว้ก่อน คิดกันไว้ก่อน จะได้ไม่เป็นปัญหากับคนข้างหลัง เช่นนี้แล้ว การเตรียมตัวตายย่อมนำไปสู่การ "ตายดี" คือการตายที่สงบ ไม่กังวล ไม่ทิ้งปัญหาไว้
นอกจากนั้น การเตรียมใจว่าตัวเองต้องตายยังช่วยให้เราลงมือทำในสิ่งที่ควรทำตั้งแต่วันนี้ ไม่ผัดวันประกันพรุ่ง เราจะเอ่ยปากขอโทษคนที่ผิดใจกัน บอกรักคนที่เรารัก เร่งทำสิ่งที่มีประโยชน์ เพราะรู้ว่าชีวิตคือความไม่แน่นอน
และเมื่อตระหนักว่าต้องตาย สิ่งที่เคยคิดว่าสำคัญนักหนา ตัวตนที่หวงแหน ทรัพย์สินที่อยากได้ ตำแหน่ง รางวัล คำสรรเสริญ ก็กลับคุณค่าไปจากเดิม เราจะหันไปให้ความสำคัญกับสิ่งที่สำคัญจริงๆ ในชีวิตแทน และปล่อยวางจากสิ่งที่ทำให้โลภ โกรธ หลง เจ็บปวด ทรมาน ฝังใจ ได้ง่ายขึ้น
"มรณสติ" จึงเป็น "สติ" ที่สำคัญ เมื่อตระหนักอยู่เสมอว่าเราต้องตาย ชีวิตในแต่ละวันจะมีความหมายขึ้นในทันที
การซ้อมตายของผมก่อให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นบางประการ มีรุ่นพี่ท่านหนึ่งส่งข้อความมาบอกว่า มีเรื่องที่ติดค้างในใจกับผมเนิ่นนานมาเกือบสิบปี เมื่อเห็นผมจะซ้อมตายจึงอยากขอเคลียร์กัน จะได้ไม่ติดค้าง เราได้พูดจากันทางโทรศัพท์ในเรื่องที่ผมไม่เคยทราบมาก่อน แล้วเรื่องนั้นก็คลี่คลายด้วยดี เราเข้าใจกัน มิตรภาพงอกงาม โชคดีเหลือเกินที่ผมยังไม่ตาย ยังมีโอกาสได้สืบสานมิตรภาพนี้ต่อไป
ผมเองก็ได้ทำเช่นนั้นกับคนที่ตัวเองติดใจเช่นกัน ผมกล่าวคำขอโทษ ขอปรับความเข้าใจ แล้วเราก็กลับไปมีมิตรภาพที่ดีกันอีกครั้ง
เช่นนี้แล้ว ความตายมิได้น่ากลัว ตรงข้าม, ความตายต่างหากที่บอกเราว่าควรมีชีวิตอยู่อย่างไร ควรทำอะไรในวันนี้ อาจารย์ประมวล เพ็งจันทร์บอกกับผมว่า ความตายนั้นเหมือนเสียงนกหวีดหมดเวลาในการแข่งขันฟุตบอล เพราะเรารู้ว่าเกมจะจบลง เราจึงเล่นเกมนั้นให้ดีที่สุด
ความตายจึงเป็น "มงคล" มิใช่ "อัปมงคล"
ผมแปลกใจเล็กน้อย ที่เมื่อเอ่ยปากเรื่องงานศพครั้งนี้กับป๊าและแม่ กลับไม่มีข้อสงสัยหรือความรู้สึกแย่ๆ แม้แต่น้อย ป๊าเอ่ยปากชมด้วยซ้ำว่าดี ป๊าเข้าใจคำว่า "ตายก่อนตาย" ของท่านพุทธทาสเป็นอย่างดี ส่วนแม่ที่ผมเป็นห่วงว่าจะด่าว่าไปทำสิ่งอัปมงคลทำไม กลับยิ้มแย้มและสนับสนุน
ความตายจะน่ากลัวก็ต่อเมื่อเราไม่ได้เตรียมตัวเผชิญกับมัน
อยากชวนทุกคนมาร่วม "เตรียมตัวตาย" ด้วยกันครับ ขณะนี้มีผู้สมัครมาร่วมงานศพล้นหลาม แต่เรายังอยากชวนให้สมัครกันอีก เพราะเชื่อว่า ทันทีที่คุณได้กรอกแบบฟอร์ม ตอบคำถามในใบสมัคร คุณก็ได้เข้าสู่กระบวนการเตรียมตัวตายเช่นกัน
หากใครที่สมัครมาแล้วไม่ได้รับคัดเลือก ก็ยังอยากเชิญมาร่วมงานกันที่ศาลาสำรอง รวมถึงงานเผาซึ่งไม่ต้องสมัคร สามารถมาร่วมงานได้เลยครับ
ผมเชื่อว่า การมาร่วมงานศพครั้งนี้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อตัวท่านเอง ผมเป็นเพียง "ตุ๊กตา" เพื่อให้งานศพสมจริงขึ้นเท่านั้นเองครับ ผมมิใช่คนสำคัญในงานเลย แต่ "ความตาย" ต่างหากที่เป็นสิ่งสำคัญ และเป็นสิ่งที่เราทุกคนล้วนมีอยู่ในตัว และหนีไม่พ้นด้วยกันทุกคน ฉะนั้น มาร่วมกันทำความรู้จักกับมันก่อนน่าจะดี
ขอเชิญทุกคนมาร่วมงานศพของผม และมาเรียนรู้เรื่องความตายร่วมกันอย่างเป็นทางการครับ ถ้าสนใจสามารถอ่านรายละเอียดด้านล่างได้เลยครับ
ด้วยความปรารถนาดี และด้วยมิตรภาพ
ขอให้ทุกคนมีชีวิตที่มีสติและเป็นสุขครับ
นิ้วกลม
-------------------------------------------------------------------------
ขอเชิญทุกท่านที่ยังไม่ทราบข่าวมาร่วมงาน
: ตายก่อนตาย live Exhibition | งานซ้อมตายนิ้วกลม
- - -
• ขยายการลงทะเบียนเพื่อคัดเลือกผู้เข้าร่วมถึงเสาร์ที่ ๑๗ นี้นะครับ
• ผู้เข้าร่วมต้องสามารถลงไปนอนในโลงศพที่จัดเตรียมไว้เพื่อร่วมซ้อมตายในช่วงเวลาที่กำหนดได้
• ด้วยพื้นที่จำกัดรอบละ ๒๔ คน จึงจำเป็นต้องใช้การคัดเลือกจากการตอบแบบสอบถาม
• รอบสุดท้ายงานเผา ทุกคนสามารถเข้าร่วมได้บริเวณเมรุ โดยไม่ต้องลงทะเบียน
• ขอให้ทุกท่านที่มาร่วมงานแต่งกายสีดำในชุดสุภาพ และเป็นชุดที่สามารถนอนลงได้อย่างไม่กังวล
• งานนี้ไม่รับพวงหรีดดอกไม้ แต่อยากชวนผู้เข้าร่วมนำหนังสือเล่มโปรดของตัวเองติดตัวมาคนละเล่ม เมื่อจบงานจะนำไปรวมกับหนังสือของนิ้วกลมในงานเพื่อนำไปบริจาค
• ตอบแบบสอบถามเพื่อสมัครเข้าร่วมงาน http://bit.ly/2AI73qB
แหล่งที่มา: https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10156876766294579&set=a.391558859578&type=3