อุทาหรณ์! "นางแบบสาว" สูญเงินหลักล้าน ยื่นฟ้องธนาคารชื่อดัง หลังถูกหลอกขอรหัสผ่าน
น.ส.ธนิตา จิรพณิช อายุ 37 ปี นางแบบโฆษณาปลากระป๋องยี่ห้อดัง พร้อมนายเฉลิมพงษ์ กลับดี หัวหน้ามูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ได้เดินทางไปที่แผนกคดีผู้บริโภค ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก เพื่อยื่นฟ้องบริษัทธนาคารชื่อดัง กับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนธนาคารชื่อดังเป็นจำเลยที่ 1-2 เรื่อง ผิดสัญญา, เรียกทรัพย์คืน
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเดือน ธ.ค.2560 ได้มีกลุ่มคนร้ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้หลอกลวงเอาข้อมูลของโจทก์ เช่นหมายเลขบัตรประชาชน ข้อมูลเอทีเอ็ม รหัส OTP แล้วสมัครอินเตอร์เน็ตแบงก์กิ้งผ่านแอปพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟนของคนร้าย เข้าทำธุรกรรมทางการเงินกับจำเลยโดยช่องทางอีซีแอ็พ
โดยโอนเงินโจทก์ออกจากบัญชีไปหลายครั้งหลายหนรวม 50 ครั้งระหว่างวันที่ 27ธ.ค.2560 – 4 ม.ค.2561 ครั้งละ 10,000 – 373,000 บาทรวม 1,670,200 บาท เข้าบัญชีเงินฝากของกลุ่มคนร้าย ทั้งที่จำเลยมีหน้าที่ตรวจสอบ รักษาความมั่นคงปลอดภัยควบคุมการเข้าถึงข้อมูล แต่กลับไม่แจ้งเตือน ไม่ตรวจสอบ
ในฐานะผู้รับฝากเงินควรใช้ความระมัดระวัง ตรวจสอบการเข้าถึงข้อมูลและใช้ความระมัดระวัง แต่กลับใช้ความระมัดระวังต่ำกว่าผู้รับฝาก ดังนั้นจำเลยจึงต้องรับผิดในเงินจำนวน 1,670,200 บาท ของโจทก์ที่สูญเสียไปพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีรวมทั้งสิ้น 1,780,830 บาทด้วย ศาลรับฟ้องคดีไว้ และนัดเจรจาไกล่เกลี่ยคู่ความวันที่ 16 ก.พ. 2562 เวลา 09.00 น.
โดย น.ส.ธนิตา กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อปลายปี 2560 ตนถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์มาหลอกว่า ถูกดำเนินคดีกู้เงิน ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งตนก็ตกใจเพราะส่วนตัวก็ไม่เคยไปกู้เงินที่ไหน แต่ทางคนร้ายบอกว่ามีคนแอบอ้างชื่อตนไปกู้ แล้วให้ตนไปแจ้งตำรวจที่ จ. ประจวบ แต่ตนไม่สะดวกเดินทาง
คนร้ายจึงอาสาจะติดต่อกับตำรวจที่ประจวบฯให้ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่น่าเชื่อถือมาก เพราะมีการส่งเรื่องต่อให้คุยกับคนที่อ้างว่าเป็นตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายๆ คน และหลอกถามไปเรื่อยๆ ด้วยความที่ตอนนั้นเชื่อ จึงกลายเป็นว่าตนค่อยๆ บอกข้อมูลให้ไป
กระทั่งสุดท้ายคนร้ายถามรหัสยืนยันตัวตน (OTP) เพื่อเข้าใช้แอพลิเคชั่นธนาคารทางโทรศัพท์ ก่อนจะสวมรอยเข้าไปโอนเงินออกจากบัญชีไปทั้งหมด 50 ครั้ง ในระยะเวลาเพียง 9 วัน เป็นยอดเงินเกือบ 2 ล้านบาท
โดยที่ก่อนหน้านั้นตนไม่ทราบเรื่องอะไรเลย และกว่าที่จะรู้ตัวทางตำรวจเป็นฝ่ายโทรมาบอกธนาคารให้แจ้งตนว่า กำลังโดนหลอก จึงรีบไปจัดการอายัดบัญชี แต่ที่ตนสงสัยคือตัวธนาคารเองที่ทำหน้าที่ดูแลข้อมูลการเงินของตนกลับไม่สงสัยการโอนเงินในระยะเวลาเพียงไม่กี่วันในจำนวนหลายครั้งเลยหรือ ทำไมถึงไม่มีการดำเนินการใดๆ เลย และเมื่อสอบถามไปยังธนาคารกลับไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ อีก จึงต้องทำการยื่นฟ้องในครั้งนี้
น.ส.ธนิตา กล่าวอีกว่า คนหนึ่งคนสามารถใช้รหัส OTP เดียวได้ในโทรศัพท์หลายเครื่อง ไม่ได้ผูกติดกับเบอร์โทรศัพท์หรือ เพราะตนมองว่านี่คือช่องโหว่ให้คนร้ายสวมรอยได้ง่ายๆ อีกเรื่องคือทำไมคนร้ายถึงเอาเงินออกจากกองทุนได้ง่ายขนาดนั้น ทั้งๆที่กองทุนมีขั้นตอนในการสมัครที่ยุ่งยากอยู่แล้ว กว่าที่จะสมัครได้จะต้องไปที่ธนาคารด้วยตัวเอง และต้องมีลายเซ็นกำกับ แต่ทำไมตอนที่คนร้ายเอาเงินออกไปถึงได้ง่ายขนาดนั้น
ทั้งนี้ธนาคารมีวิธีป้องกันที่มีมาตรฐาน และควรจะมีระบบแจ้งเตือนเมื่อมีอีกเบอร์หนึ่งกำลังพยายามเอารหัสไปเข้าระบบอยู่ มายังเจ้าของบัญชีที่แท้จริง เพื่อป้องกันความเสียหายได้ทัน