“แม่ทำงานหนัก” ส่งลูกสาวเรียนมหาลัย ผ่านไป 4 ปี หลังเรียนจบ รีบกลับบ้านก่อนรู้ความจริงที่มาของเงินที่แม่ไม่เคยพูด..!
“แม่ทำงานหนัก” ส่งลูกสาวเรียนมหาลัย ผ่านไป 4 ปี หลังเรียนจบ รีบกลับบ้านก่อนรู้ความจริงที่มาของเงินที่แม่ไม่เคยพูด..!
ที่หมู่บ้านหลิวซีมีเด็กสาวคนหนึ่งมีนามว่าชุ่ยๆ เนื่องจากตอนเล็กๆมีอยู่ครั้งนึงเธอไม่ระวัง โดนถังน้ำร้อนราดใส่ ทำให้ใบหน้าด้านขวาและหลังคอโดนลวก หลังจากรักษาแล้วก็ยังเป็นแผลเป็นน่าเกลียด น้อยคนนักที่จะกล้ามองดู นอกจากแม่ของเธอ ทำไมพูดแบบนี้ เพราะหลังจากชุ่ยๆเกิดเรื่องไม่นาน พ่อเธอก็ออกไปทำงานหาเงินตัวเป็นเกลียวเพื่อเอามารักษาแผลน้ำร้อนลวกของลูกสาว มีงานมีโอทีก็ทำไม่ว่างเว้น แต่ก็โชคร้ายเกิดอุบัติเหตุระหว่างทำงานทำให้เสียชีวิต ซวยซ้ำซวยซ้อน เรื่องราวของแม่ลูกคู่นี้จึงน่าสงสารมาก
เมื่อที่บ้านไม่มีเสาหลัก ฐานะทางเศรษฐกิจก็แย่ การรักษาชุ่ยๆทำให้ใช้เงินที่เก็บไว้จนหมด แม่ของเธอจึงต้องเริ่มปลูกข้าว และออกไปเก็บขยะขาย
แต่จะว่าไปก็มียังมีเรื่องโชคดี ชุ่ยๆเป็นเด็กเชื่อฟัง แถมฉลาดมาก ชอบเล่นคนเดียว ดูเหมือนว่าจะไม่มีเพื่อน แม่สงสารลูกสาว เพราะว่าแผลเป็นบนหน้า หลายๆคืนที่ต้องผวาตื่นเพราะฝันร้าย ในใจก็รู้สึกผิด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
ดีที่ชุ่ยๆ ไม่เคยบ่น แกตั้งใจเรียนหนังสือ แล้วในที่สุดก็สอบเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดังได้
แต่พอคิดถึงค่าเล่าเรื่องเป็นหมื่น ที่บ้านก็จ่ายไม่ไหวแน่ๆ แถมไปเรียนมหาวิทยาลัยก็ต้องกินต้องใช้ ชุ่ยๆรู้สึกผิด คิดถึงแม่ที่เพื่อเธอแล้ว ต้องทำนา ต้องเก็บขยะ ตรากตรำทำงานหนัก แม่ดูแก่กว่าคนวัยเดียวกันเป็น 10 ปี ชุ่ยๆสงสารแม่ ไม่สามารถทนเห็นแม่ลำบากได้อีก
ชุ่ยๆก็เลยวางแผนในใจ เธอแสร้งทำเป็นดีใจวิ่งไปหาแม่ : “แม่จ๋า พี่จวนบอกว่าพวกพี่เค้าไปทำงานโรงงานได้เงินเยอะแยะ แถมยังบอกว่าจะพาหนูไปด้วย หนูก็เลยว่าจะไปทำงานกับพวกพี่เค้า หาเงินมาเลี้ยงแม่”
แม่เงียบไปสักพักก่อนว่า : “แกเป็นลูกคนเดียวของแม่ จะให้เวลาที่ทุ่มเทเรียนหนังสือมาอย่างยากเย็นเสียเปล่าได้ยังไง แม่รู้ว่าแกคิดมาก เห็นว่าที่บ้านลำบาก ค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่าย แกไม่ต้องกังวล แม่จะหาวิธีเอง แกต้องเรียนต่อไปนะลูก”
“แต่ว่าแม่” “ไม่ต้องพูดแล้ว แกรอแม่ที่บ้าน” พูดจบแม่ก็ออกไปข้างนอก เช้าวันต่อมาแม่ก็กลับมา พร้อมเงินปึกใหญ่ ใบหน้าเหนื่อยล้า เห็นแล้วก็ยิ่งสะเทือนใจ
“ชุ่ยๆ ไปเรียนนะลูก อย่าพลาดโอกาสนี้เลย ต่อไปนี้แม่จะส่งเงินให้แกทุกเดือน บ้านเราอยู่ไกลจะกลับมาบ่อยๆก็ไม่ลำบาก แถมเปลืองเงิน แกเรียนจบแล้วค่อยกลับมานะลูก”
หลังจากนั้น 4 ปี ในที่สุดชุ่ยๆก็กลับมาบ้านที่หมู่บ้านหลิวซีที่ไม่ได้กลับมานาน ชุ่ยๆสวยขึ้น มั่นใจขึ้น เธอเดินตรงไปที่บ้าน แต่พอถึงหน้าประตูก็แทบทรุด
หญ้าหน้าบ้านสูงประมาณครึ่งตัวคน โซ่หน้าบ้านก็สนิมเขลอะ เธอรู้สึกถึงความผิดปกติ แล้วตอนนั้นเองลุงจางเพื่อนบ้านก็เดินผ่านมาพอดี “ชุ่ยๆ เอ็งกลับมาแล้วเหรอ” “ใช่จ๊ะลุง แม่หนูล่ะจ๊ะ”
[เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น]
“ปีที่เอ็งไปเรียน คืนนั้นแม่เองไปขอร้องขอยืมเงินเค้าไปทั่ว เงินค่าเทอมของเอ็งแม่เอ็งแลกมาด้วยศักดิ์ศรี ต่อมาแม่เอ็งดูทีวี เห็นเขาบอกว่าสมัยนี้การผ่าตัดศัลยกรรมก้าวหน้า ไม่แพงเหมือนเมื่อก่อน เพื่อจะหาเงินให้เอ็งผ่าตัด แม่เอ็งทำงานหนักเพิ่มขึ้นหลายเท่า กลางคืนยังไปทำงานโรงงานซีเมนต์ช่วยเขายกของ พอทำงานเหนื่อยสะสมไปนานๆเข้า แถมตัวเองก็ประหยัด ไม่ยอมกินของดีๆ ร่างกายก็ไม่ได้แข็งแรงเหมือนสาวๆ วันนั้นแม่เอ็งรู้สึกไม่ค่อยสบาย แต่ก็ยังลากสังขารไปทำงานที่โรงงาน แล้วก็เกิดเรื่องขึ้น….หลังจากนั้นเงินค่าผ่าตัด ค่าใช้จ่าย ค่าเล่าเรียน จดหมาย ก็มาจากผู้จัดการโรงงาน กับพวกเราชาวบ้านที่บริจาคให้เอ็ง เขียนจดหมายแทนแม่เอ็ง ตามคำของครั้งสุดท้าย ไม่ให้ไปรบกวนการเรียนของเอ็ง รอจนเอ็งกลับมาแล้วค่อยบอกเนี่ยแหล่ะ”
“แม่….หนูมันอกตัญญู ฮือๆๆ แม่…” นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง
แหล่งที่มา: deemagna