"ไร" ในหู กระต่าย
โรคหนึ่งที่พบบ่อยมากๆในกระต่ายโรคหนึ่ง นั้นคือ ไร ในหู ซึ่ง ชื่อโรคภาษาไทยเรียกว่า ไรในหู แต่ฝรั่งเค้าเรียก ว่า Ear mite และชื่อที่นักวิทยาศาสตร์ ตั้งให้คือ Psoroptes cuniculi
จริงๆแล้วไรในกระต่ายมีหลากหลายชนิด แต่ไรที่เป็นแล้วทำให้กระต่ายรำคาญมาก จนบางที ไม่กิน ไม่นอน เอาแต่สะบัดหัว ไป-มา ก็คือ ไรในหู
การติดต่อของไรในหู นี้ติดกันได้หลายวิธี แต่วิธีหลักๆ 2 ข้อคือ
1.โดยการสัมผัสกันโดยตรงของกระต่ายครับ ถ้ากระต่ายตัวที่เป็นโรค เล่นกับตัวที่ไม่เป็นโรค หรือ แม่กระต่ายที่เป็นโรค เลี้ยงลูก ลูกก็มีโอกาสติดสูงมาก
2.ติดจากสิ่งแวดล้อม แล้วสิ่งแวดล้อมติดมาจากไหน ก็ติดมาจากกระต่าย แล้วกระต่ายติดมาจากไหน ก็จากสิ่งแวดล้อม มันเป็นเหมือนวงจรอุบาทว์ สิ่งแวดล้อมก็คือถ้ากระต่ายเป็นแล้ว สะบัดหู เกาหู ก็จะมีตัวไร หลุดออกมา ที่สิ่งแวดล้อม ถ้าเรารักษาแต่ตัวกระต่ายโดยไม่ทำความสะอาดสิ่งแวดล้อมก็มีโอกาสติดโรคซ้ำได้
เคยสงสัยกันมั้ยว่าไรในหู ทำไมต้องไปอยู่ไปในหู? แล้วกินอะไรเป็นอาหาร? กินขี้หูรึ! ก็ไม่น่าใช่ จริงๆแล้ว ไรพวกนี้จะกิน น้ำเหลือง เป็นอาหาร ไรจะกัดและรอกินน้ำเหลือง หลังจากกิน กระต่ายก็จะมีการคัน อักเสบมาก นอกจากจะอาศัยอยู่กินในหูกระต่ายแล้ว ยังผสมพันธุ์กันในรูหูกระต่ายอีก ... (ทำไปได้
)
สงสัยไรจะนึกว่ารูหูกระต่ายเป็นเรือนหอชั้นดีซะละมั้ง นอกจากนี้ตัวไรในหูบางตัว ก็ยังมีการไปฮันนีมูน นอกรูหูอีก คือไปที่ ใบหน้า และ ลำตัวก็ได้ ซึ่งเจอได้แต่ไม่บ่อย
การวินิจฉัย เค้าทำกันยังไง คือถ้าเห็นรอยโรคนี่ก็ 80 % ไปแล้ว เพราะรอยโรคมันจำเพาะจริงๆ แต่ให้ชัวร์ก็ทำการขูดตรวจ เอาขี้หูและคราบสะเก็ดไปส่องตรวจ ก็จะเจอ ครอบครัวตัวไรหู
![]() |
| ใบหูซึ่งมีไรในหูทำให้ใบหูอักเสบและเจ็บมาก |
การรักษา เราสามารถรักษาได้หลายวิธี มีทั้ง ฉีดยา หรือ หยดยา ซึ่งโดยส่วนใหญ่ถ้าฉีดยาก็ ทุกๆ 14 วัน ติดต่อกัน 3 ครั้ง หรือ หยดยาก็เช่นเดียวกัน ข้อห้ามก็คือ ห้ามแคะแกะเกา เอาคราบในหูออกเป็นอันขาด เพราะกระต่ายจะเจ็บค ปล่อยไว้ ซัก สองอาทิตย์เดี๋ยวคราบที่หูก็จะหลุด ออกมาเอง
อาการหลักๆที่มักจะพบได้ก่อนที่กระต่ายจะแสดงอาการมากก็คือ
1. สะบัดหัว
2. เกาบริเวณหัวหรือหูมากกว่าปกติ
3.ขนร่วงที่บริเวณใบหูหนึ่งหรือสองข้าง
4.เจอคราบแดงๆในรูหู
5.กระต่ายหัวเอียง เดินเซ และ มีอาการชัก
การรักษาให้หายไม่ยาก ถ้าวินิจฉัยถูกต้อง และเจ้าของพากระต่ายไปรักษากับคุณหมอเฉพาะทางสัตว์เล็กตามนัด โรคนี้บางทีถ้าตัวไรมีปริมาณมากอาจจะทำให้เกิดการอักเสบของหูชั้นในได้ และอาจจะทำให้เกิดโรคอื่นๆตามมาได้ ถ้าพบอาการดังกล่าว อย่างข้างต้น ก็อย่านิ่งนอนใจ รีบพามาพบสัตวแพทย์
Cr.น.สพ.เชาวพันธ์ ยินหาญมิ่งมงคล (หมออ้อย)
- อย่าลืมสำรวจเด็กๆที่บ้านกันนะฮะด้วยความปรารถนาดีจาก คุณถุงเงิน 
"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชน
วิเคราะห์สถิติหวยปีใหม่ 2 มกราคม: เจาะลึกเลขเด่นรับโชควันศุกร์ 2569
รู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่
📜 ภาพเก่าประวัติศาสตร์ “พระตะบอง” จากแผ่นดินสยาม สู่ความทรงจำ
ทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจาย
เตือนแล้วนะ! 3 ผลไม้ที่ "เซลล์มะเร็ง" โปรดปราน หมอยังไม่กล้าแตะ แต่หลายคนกินทุกวันโดยไม่รู้ตัว
จรวดจีนฟัดจรวดจีน เปิดคลังอาวุธลับสมรภูมิสระแก้ว เมื่อไทย-เขมรต่างงัดไม้เด็ด "สายเลือดมังกร" มาดวลกัน
แม่น้ำหนึ่ง ประเดิมเลขเด็ดต้อนรับงวดแรกของปี 2569
คุกกี้เสี่ยงทาย... ทายนิสัยความขี้อ้อนของคนเกิดทั้ง 7 วัน
10 ประเด็นร้อนฉ่าที่คนไทยให้ความสนใจสูงสุดในปี 2568
"กล้วยหอม" จากผลไม้พื้นบ้านสู่สินค้าเปลี่ยนโลก
หมอปลาย พรายกระซิบ รีเทิร์นแบบฮาๆ! ทำนายพลาดทัวร์ลงหนัก ขอโทษยกมือไหว้ วอนชาวเน็ตให้โอกาสแก้ตัว ไม่งั้นเลิกดูดวงไปจับผีเต็มตัวซะเลย!
ไทยยันคำเดิม “เขมรต้องหยุดยิงก่อน” เสธ.ทบ. ลั่นกู้คืนพื้นที่ได้ 90% แล้ว เหลืออีกนิดเดียวยึดคืนได้ทุกพื้นที่
พุทธศิลป์แนวใหม่หรือวัตถุนิยม? กระแสวิจารณ์ "หัวใจพระพุทธเจ้า" ทรงอนาโตมี
📜 ภาพเก่าประวัติศาสตร์ “พระตะบอง” จากแผ่นดินสยาม สู่ความทรงจำ






