หุบเขาแสงจันทร์ ตอนที่ 23 (พระจันทร์สีเลือด)
ยามสายของวัน เมื่อเรือก่าบางของซานัมเทียบฝั่ง
มอแกนวัยหนุ่มแทบล้มทั้งยืนกับคำบอกเล่าจากปากชาวบ้านและหญิงคนรัก ทันทีที่พบปะหน้าที่ริมชายหาด บูงอโผเข้ากอดชายหนุ่ม ร่ำไห้อีกครั้งเหมือนใจจะขาดสิ้น แม้ซานัมจะเป็นชายแต่เรื่องราวร้ายๆแบบนี้ มันก็ทำให้เขาทั้งใจหายและงุนงงจนตั้งตัวนึกคิดอะไรไม่ออกไปชั่วครู่
“กูถามจริงๆ -ึงไม่ได้เล่าเรื่องหน้าผาเพชรให้ใครฟังใช่ไหม”
เมื่ออยู่ด้วยกันตามลำพังที่เรือนของซานัมในยามบ่าย บูงอเริ่มต้นสิ่งที่หล่อนสงสัยมาตลอดทั้งคืน เป็นคำถามต่อชายคนรัก
หญิงสาวจ้องมองหน้าเขาอย่างอ่อนล้า
“กูจะเล่าให้ใครฟังเล่า”
จนถึงตอนนี้ชายหนุ่มก็ยังไม่นึกเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น
“ตอนนี้พ่อใหญ่มาดีนะ กำลังสงสัยคนในหมู่บ้าน”
บูงอบอกเล่าถึงความลำบากที่อาจมี หากพ่อใหญ่รู้ว่ายังมีซานัมอีกคนที่รู้เรื่องหน้าผาเพชร หล่อนก็อาจถูกมองเป็นคนไม่น่าเชื่อถือที่เอาความลับนี้มาบอกเขา แต่ซานัมอาจจะหนักกว่าหากถูกมองเป็นคนต้องสงสัยในเงื่อนงำการตายของพ่อและพี่สาวของหล่อน
“เอาเถอะ กูว่าเราไปดูที่หน้าผาเพชรให้เห็นกับตา อย่างที่พ่อใหญ่มาดีนะยืนยันดีกว่า ว่าพ่อกับพี่สาว-ึงถูกฆ่าตายที่นั่น เผื่อ-ึงกับกูอาจได้อะไรบางอย่าง”
ซานัมดูกระตือรือร้น ความทุกข์ของหญิงคนรักมันก็คือความทุกข์ใจของเขา ยิ่งนับจากนี้ หล่อนขาดคนพึ่งพิงในชีวิตเกือบหมดสิ้น หล่อนจะต้องเคว้งคว้างสักเพียงไหน..
บูงอตัดสินใจทำตามที่ซานัมบอก ทั้งเขาและหล่อนพากันลัดเลาะไปตามทางท้ายหมู่บ้าน ผ่านป่าดิบชื้นติดกับเชิงเขาอย่างระแวดระวัง หากจะให้ใครสักคนเห็น ใครสักคนรู้..ไม่ได้เลย
เส้นทางวกวน ต้องเดินอ้อมเข้าท้ายหมู่บ้านไปตามทางป่ากว่าสักพักใหญ่ จึงจะมาหยุดยืนอยู่อีกด้านของขุนเขา พื้นที่ราบตรงกลางระหว่างขุนเขากับแผ่นผาตรงหน้า เต็มไปด้วยสุมทุมพุ่มไม้น้อยใหญ่ ทั้งต้นมะพร้าว ต้นสนทะเลหนาตา และไม้ป่าอีกหลากหลาย เป็นเหมือนป่าน้อยๆที่ซ่อนตัวอยู่อีกป่าหลังขุนเขาตระหง่าน
หน้าผาที่ตั้งเด่นตระหง่านอยู่ตรงหน้าวงถัดไป
ดูเหมือนภูผาปิดตาย
ไม่มีทางที่จะผ่านเข้าไปยังอีกด้าน
ของแผ่นผาสูงเด่นนั้นได้เลย เลยสักน้อย..
ไม่ว่ามองไปทางไหน ก็เห็นแต่แผ่นผาขวางกั้นตั้งแต่สุดทางซ้ายไปจนจรดสุดทางขวา การจะข้ามไปยังอีกฟาก หากทำได้คงต้องปีนข้ามไป แต่ด้วยลักษณะแผ่นหินของผาเขา เป็นแนวเรียบสูงลิ่ว จึงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก หากใครสักคนจะปีนป่าย
บูงอและซานัม พากันลัดเลาะไปตามทางคดเคี้ยวของป่าอย่างคนชำนาญทาง จนมาถึงแอ่งทะเลสาบเล็กๆแห่งเดียวบนเกาะอันเป็นแหล่งน้ำจืดที่ใช้หล่อเลี้ยงชาวมอแกนทุกคนในหมู่บ้าน
ทะเลสาบน้ำใส เป็นผืนน้ำขวางกั้น
เพราะริมฝั่งซ้ายและขวาคือเนินหินขรุขระ เต็มไปด้วยไม้พันธุ์นานารกครึ้ม ไม่มีที่ทางแม้สักนิด จะก้าวเดินไปยังขุนผาตระหง่านตรงหน้าได้ หากอยากจะข้ามไปยังเนินผาตรงหน้าคงต้องนั่งเรือ แต่สำหรับบูงอและซานัม..มันไม่ใช่
สองหนุ่มสาวเดินลัดเลาะไปตามริมน้ำฝั่งขวา อันเป็นทางเดินแคบๆที่พอจะเดินได้เพียงทีละคน และเมื่อถึงดงเถาวัลย์พันธุ์ลึกด้านข้าง ทั้งสองก็แหวกตัวหายเข้าไปในดงเถาวัลย์นั้นอย่างรวดเร็ว
บูงอและซานัมเผยตัวออกจากดงเถาวัลย์อีกครั้งเมื่อมาถึงตรงริมหน้าผา ซึ่งเต็มไปด้วยไม้ป่าและเถาวัลย์พันธุ์ลึกลึกลับซับซ้อนอีกชั้น การจะหลุดเข้าไปยังหุบผาด้านในได้มีเพียงทางเดียว คือแหวกตัวเข้าไปในดงเถาวัลย์ตรงหน้าผานั้น เมื่อยิ่งแหวกตัวเข้าไป ก็ยิ่งให้ความรู้สึกว่าคืออุโมงค์หินเล็กๆ ที่ก้าวเดินได้เพียงทีละคน..ที่มืดมิดและซับซ้อน
อุโมงค์ลึกลับ ที่ถูกพรางตาด้วยเถาวัลย์พันธุ์ลึกกอใหญ่
ไม่มีมอแกนในหมู่บ้าน ที่รู้จะถึงความลับนี้ได้ ไม่มี
อ่านต่อในครั้งหน้า
หุบเขาแสงจันทร์ / นฤดม
สำนักพิมพ์บ้านทะเลล้อม 2008
ความเดิม ตอนที่ 22 https://board.postjung.com/1072896.html