[เรื่องสยองขวัญ] โค้งหน้าตึกคณะวิศวะฯ
เรื่องนี้เป็นเรื่องของคุณแป้ง เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 7-8 ปีก่อน ที่คณะสถาปัตย์ ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง แถวธัญบุรี ตอนนั้นแป้งเพิ่งเข้าปี 1 เป็นรุ่นแรกที่ได้เข้าเรียนในตึกใหม่ 8 ชั้น แป้งเป็นผู้หญิงห้าวๆ ติดตลก พูดอะไรไม่ค่อยยั้งคิด
คืนวันงาน Freshy Night ที่หอประชุมมีคอนเสิร์ต เพื่อนๆ สนุกกันสุดเหวี่ยง ในขณะที่แป้งไม่ค่อยสบาย ปวดหัวมาก ฝืนอยู่จนตีหนึ่งกว่า ก่อนจะบอกรุ่นพี่ว่าขอกลับหอก่อน ระยะทาง จากหอประชุม ไปหอในไม่ไกลมาก แต่โค้งเยอะ และมืดมาก.. แป้งขี่มอเตอร์ไซค์แบบช้าๆ ประสาคนป่วย โดนลมแล้วหนาวใจจะขาด.. ขณะที่ขี่ผ่านโค้งหน้าตึกคณะวิศวะฯ ก็เห็นนักศึกษาผู้หญิง นอนอยู่ที่กลางถนน แป้งตกใจ หักหลบเกือบไม่ทัน เลยอุทานขึ้นมาไม่คิดว่า ‘เชี่ย เมาป่าววะ มานอนตรงนี้ เกือบเหยียบตายห่าละ’ จังหวะนั้นเอง ไฟที่ถนนก็เกิดดับไปเฉยๆ แป้งก็รีบเร่งเครื่องไปต่อ พอผ่านช่วงตึกไป ไฟก็ดันติดขึ้นมาอีก.. คืนนั้นแป้งกลับถึงหอ ก็รีบกินยาเข้านอนเลย
เช้าวันรุ่งขึ้น มาเรียน Drawing 8 โมง เรียนกันที่ชั้น 2 ของคณะ พอเลิกเรียนตอนเที่ยง ก็แยกย้ายกับเพื่อน ขึ้นมอเตอร์ไซค์คนละคัน เพื่อจะไปกินข้าวกัน แต่เแป้งบอกให้ไปกันก่อน เพราะจะกลับไปเอาโทรศัพท์ที่ลืมไว้ที่หอ แป้งก็ขี่รถออกมาก่อน.. ยังไม่พ้นหน้าคณะ เพื่อนๆ ก็ตะโกนเรียก แป้ง! เฮ้ยแป้ง! บีบแตรกันปี๊นๆๆ แป้งก็มองผ่านกระจกข้างมา แต่เห็นไม่มีอะไร เลยคิดว่า คงเรียกกวนตีนกันเฉยๆ.. ในระหว่างทางที่ขี่รถกลับหอ รถที่สวนกันจะบีบแตรใส่ ตลอดทาง ตอนนั้นก็เริ่มใจไม่ดีแล้ว แต่ก็พยายามไม่คิดไรมาก จนมาถึงหอ หยิบโทรศัพท์กดดูมี สาย Missed call ของเพื่อนๆ หลายสาย และ SMS จากเพื่อนในกลุ่มเข้ามาว่า ‘แป้ง.. มีคนซ้อนท้ายรถ...!’
ตอนนั้นยอมรับเลยว่าเริ่มกลัว เข้าใจคำว่าเสียวสันหลังวาบ วินาทีนั้นเลย แป้งลองคิดทบทวนว่าไปทำอะไรมา เพราะย่าจะสอนตลอดว่า ไปอยู่ต่างที่ต่างถิ่น เจออะไรอย่าไปพูด ไปทักมั่วซั่ว แต่พยายามคิด คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก ตั้งแต่เข้าเรียนที่นี่มา ก็ยังไม่ได้ปากพล่อยใส่ใครที่ไหนเลย นอกจากคืนงาน Freshy ที่ไปทักคนเมา ที่นอนกลางถนน แค่นั้นแหละค่ะ.. วันนั้นมีเรียนอีกทีบ่าย 2 วิชาอะไรจำไม่ได้ แต่ที่จำได้คือยังใจดีสู้เสือ ขี่มอเตอร์ไซค์มาเรียนอยู่ ก็ไม่มีอะไร พอเลิกเรียน ซ้อมเชียร์ต่ออีก จนเสร็จประมาณเที่ยงคืนกว่า เพื่อนๆ แป้งจะไปเมากันต่อ แป้งเลยขอตัว เพราะไม่ค่อยชอบ
เป็นอีกคืน ที่ต้องขี่มอเตอร์ไซค์กลับหอคนเดียว พอถึงโค้งตึกคณะวิศวะฯ ก็ใจคอไม่ดีเท่าไหร่ และวินาทีนั้นเอง ที่ใจลอยคิดอยู่ แท่ดๆๆ..กึก..กึก.. เครื่องดับ ตรงที่ที่เจอนักศึกษานอนอยู่คืนนั้นเลย ไฟถนน ก็ติดๆ ดับๆ อีกต่างหาก นึกภาพรถเกียร์ดับ มันจะหน่วงๆ เข็นไม่ไป ใส่เกียร์ว่างก็ยังเข็นไม่ไป ทีนี้ตามสัญชาตญาณคนขี่ ก็ชะโงกดูล้อหน้า.. เอี้ยวตัวไปมองล้อหลัง.. แต่สิ่งที่เห็นคือ มีเท้า.. และชายกระโปรงยาวๆ วางอยู่บนที่พักเท้าคนซ้อน! ตอนนั้นแป้งกรี๊ดไม่ออก.. รู้ทันทีว่าโดนเข้าแล้ว.. แป้งไม่มองต่อ รีบหันหน้ากลับ แต่มันเหมือนแขนขาตาย ไม่ขยับเลย ยืนคร่อมมอเตอร์ไซค์อยู่อย่างนั้น หลายนาทีมาก สักพักมีความรู้สึกเหมือนมีมือสองข้าง มาขยำที่ชายเสื้อแป้ง ก่อนจะพูดข้างๆ หูว่า ‘ทำไมไม่ไปล่ะ’ ตอนนั้นแป้งร้องไหั น้ำหู น้ำตาไหลพราก ทำอะไรไม่ถูก นึกได้คำเดียวคือ แม่ช่วยด้วย ย่าช่วยด้วย หนูกลัว
พอดีตอนนั้น ก็มีรถอาจารย์ขับมาพอดี ไฟหน้าสาดมาพร้อมเสียงแตรเบาๆ อาจารย์มาจอดเทียบข้าง ลดกระจกแล้วถามว่า ‘เป็นไรมั้ยลูก ดึกแล้ว มาจอดทำอะไรตรงนี้?’ ตอนนั้นหลุดหมดแล้ว ทุกอย่าง รู้ว่าเค้าไม่อยู่ข้างหลังแล้ว ตั้งแต่นึกถึงแม่..
หลังจากวันนั้น ก็ไม่ได้เจออะไรอีกเลย และแป้งก็ได้ลองไปถาม จากป้าแม่บ้านของตึกคณะวิศวะฯ ว่าที่ตึกนี้ เคยมีเรื่องอะไรมาก่อนรึเปล่า จนมาได้รู้ว่า ในคืนวันงาน Freshy Night เมื่อ 3 ปีก่อน เคยมีนักศึกษากระโดดตึกลงมาตาย แต่แปลกนะ ไม่ยักกะมีเลือดสักหยดเลย.. แต่แป้งก็ไม่ได้ตอบอะไร.. และจากนั้น แป้งก็ทำบุญไปให้ผู้หญิงคนนั้น มาตลอดจนทุกวันนี้ค่ะ