หน้ากากโหงวตั๊ก ในละคร เรือนเบญจพิษ ตอนจบ คนสุดท้าย ที่เพาะเลี้ยง หนอนสีทอง คือ แหวน ศึกษารายละเอียดมาแล้วเจ้าค่ะ
กู่ (จีนตัวย่อ: 蛊; จีนตัวเต็ม: 蠱; พินอิน: gǔ; เวด-ไจลส์: ku) หรือ จินฉาน (จีนตัวย่อ: 金蚕; จีนตัวเต็ม: 金蠶; พินอิน: jīncán; เวด-ไจลส์: chin-ts'an; "หนอนไหมทอง")
จินฉาน คำว่า "จินฉาน" เป็นไวพจน์ของคำว่า "กู่" พบครั้งแรกในเอกสารสมัยราชวงศ์ถัง เขียนขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 7 เป็น พระนิพนธ์ซึ่งหลี่ เสียน (李賢) โอรสของจักรพรรดิถังเกาจง (唐高宗) เขียนอธิบายหนังสือ โฮ่วฮั่นชู (後漢書; "หนังสือฮั่นสมัยหลัง") โดยใช้คำ "จินฉาน" เป็นชื่อเครื่องประดับงานศพที่ทำขึ้นจากทองคำ ต่อมาในคริสต์ศตวรรษที่ 9 ซู เอ้อ (蘇鶚) เขียนหนังสือพรรณนาว่า "จินฉาน" เป็นตัวหนอนสีทองที่ผูู้คนร่ำลือกัน ได้มาจากแคว้นกัศมีร์ของอินเดีย
โวลแฟรม อีเบอร์ฮาร์ด (Wolfram Eberhard) กล่าวว่า การทำกู่เป็นประเพณีของ ชาวเหมียว (苗族) โดยในวัน 15 ค่ำ เดือน 5 พวกเขาจะจับสัตว์มีพิษชนิดต่าง ๆ ใส่ลงในหม้อ และขังปล่อยให้สัตว์เหล่านั้นกัดกินกันเอง ตัวใดรอดมาก็เอาไว้ใช้ฆ่าคน พวกเขาเรียกสัตว์นี้ว่า "กู่" แต่ในยุคของอีเบอร์ฮาร์ด นิยมเรียกว่า "จินฉาน" แล้ว ยิ่งกู่เป็นที่นิยมนำไปใช้ฆ่าคนมากเท่าไร เจ้าของกู่ก็ยิ่งร่ำรวยมากเท่านั้น จนกู่ได้ชื่อว่า สัตว์ที่สร้างทอง จึงเกิดการทำกู่โดยทั่วไป แต่ผู้เลี้ยงกู่ต้องหาคนมาสังเวยเลี้ยงกู่ มิฉะนั้น ตัวเขาเองจะถูกกู่ทำร้าย[1]
ส่วนหลุยซา เชน (Louisa Schein) ระบุว่า คนทั่วไปกลัวชาวเหมียว โดยเฉพาะสตรีชาวเหมียว มานานหลายร้อยปี เพราะพวกเขาเลี้ยงกู่ไว้ใช้ฆ่าคน ใครถูกพิษกู่ จะทำค่อย ๆ ตายอย่างทุกข์ทรมาน[2]
เจ.เจ.เอ็ม. ดี กรูต (J.J.M. de Groot) อ้างถึงหนังสือฉบับหนึ่งในสมัยราชวงศ์ซ่งที่พรรณนาว่า จินฉานเป็นตัวหนอนสีทอง เลี้ยงด้วยไหมที่ได้จากดินแดนฉู่ มูลของหนอนจินฉานนี้ถ้าใส่ลงในอาหาร ใครกินเข้าไปก็จะตายอย่างประหลาด หนอนเช่นนี้ืทำให้ผู้เลี้ยงร่ำรวยมาก แต่กำจัดยาก ไม่ว่าน้ำ ไฟ ดาบ หรืออาวุธอื่น ก็ไม่อาจทำอันตรายหนอนนี้ได้[3]
กรูตยังอ้างถึงหนังสือเรื่อง เถี่ยเหวย์ชานฉงถาน (鐵圍山叢談) ที่ไช่ เทา (蔡絛) แต่งขึ้นในคริสต์วรรษที่ 12 ว่า จินฉานเกิดขึ้นครั้งแรกในรัฐฉู่ (蜀國) ซึ่งปัจจุบันคือมณฑลเสฉวน แล้วภายหลังแพร่ไปในหูเป่ย์ หูหนาน ฝูเจี้ยน กว่างตง และกว่างซี[4]
นอกจากนี้ กรูตอ้างถึงหนังสือที่เฉิน ฉางชี่ (陳藏器) เภสัชกรสมัยราชวงศ์ถัง ประพันธ์ขึ้น ว่า กู่แมลงหรือสัตว์เลื้อยคลานที่บริโภคไหมเป็นอาหารนั้น เอาไหมเช่นนั้นเผาไฟใช้เป็นยาแก้พิษกู่ดังกล่าวได้ ทั้งพรรณนาว่า ยามกลางวัน กู่ดูคล้ายตัวหนอนสีทอง มักขดตัวเหมือนแหวนสวมนิ้ว และมักบริโภคผ้าไหมลายดอกไม้หรือผ้าไหมแดงเหมือนหนอนกินใบไม้[5]
ที่มา: