หุบเขาแสงจันทร์ ตอนที่ 18 (คลื่นแห่งความหลัง)
เมื่อคณะทั้งหมดเดินกลับมาถึงบริเวณหน้าหาด ตรงที่ซายอและชาวบ้านกำลังจัดเตรียมงานพิธีฉลอง คุณหมออาทิตย์ก็เป็นคนเปิดบทสนทนาอีกครั้ง
“ผมแวะไปดูอาการป่วยของแม่ซายอ ท่าทางเป็นไข้ป่าอาการหนัก พรุ่งนี้ผมจะให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเอาเรือมารับเข้าฝั่งเมืองแต่เช้า ลองรักษาด้วยยาสมัยใหม่ อาจได้ผลกว่าที่ทำอยู่”
หมออาทิตย์บอกกล่าว อย่างไม่อยากก้าวล่วงไปถึงการรักษาด้วยพิธีกรรมแบบชนเผ่า
ซายอฟังคำบอกของหมออาทิตย์อย่างตรึกตรอง
และได้แต่จ้องหน้าคุณหมอ..
จนดุจเดือนต้องเอ่ยความสนับสนุนหมออาทิตย์อีกแรง “จริงๆนะซายอ ยาชุดที่ฉันจัดให้เมื่อสี่วันก่อนมันแค่ประคองอาการให้ทรงตัว ถ้าซายอไม่ขัดข้อง ลองทำตามที่คุณหมออาทิตย์แนะนำ อาจทำให้แม่คืนเป็นปรกติ หรือซายอจะว่ายังไง”
คำของคุณดุจเดือน ไม่รู้ว่ามีอะไรดลใจ ทำให้หนุ่มมอแกนคนนี้คล้อยตามได้อีกเป็นหนที่สอง สิ่งดลใจเพราะความเป็นคนดีที่สัมผัสได้ กระนั้นหรือ..
“ก็ได้ แต่กูจะให้อีละมอน้องสาวกูติดตามไปด้วย จนกว่า..”
ซายอหยุดนิ่งคิดหาคำพูดชั่วครู่.. “แม่กูจะหายดี ตามที่พวก...คิดว่าจะทำได้จริง”
สีหน้าของคณะพัฒนาพื้นที่ทั้งกลุ่มโล่งใจเป็นปลิดทิ้ง โดยเฉพาะสีหน้าของหมออาทิตย์ที่เหมือนรู้สึกว่า กำแพงปิดกั้นตัวเอง ของคนทะเลกลุ่มนี้ เริ่มแตกลงทีละน้อยได้อย่างที่เขาเองก็ต้องการให้เป็นแบบนั้น
หมออาทิตย์ยินยอมตามที่ซายอร้องขอ และก่อนกลับไปนายอำเภอน้ำนิ่งเป็นคนบอกกล่าวส่งท้ายว่าคณะพัฒนาพื้นที่น่านน้ำอันดามันของเขา จะเริ่มเข้ามาพัฒนาพื้นที่ตรงนี้ราวกลางสัปดาห์หน้า เริ่มด้วยการตรวจสุขภาพของชาวบ้านบนเกาะ โดยการนำของคุณดุจเดือนเจ้าหน้าที่สถานีอนามัยเชิงทะเล
ก่อนกลับไปซายอยังไม่ได้ให้คำตอบตกลงอะไรแก่นายอำเภอน้ำนิ่ง มีแต่การนิ่งรับฟังคำบอกล่าว เขาคิดอยู่แค่ว่าพอถึงเวลานั้นค่อยมาคิดอีกที
คณะของนายอำเภอน้ำนิ่งเดินทางกลับไปแล้ว.. ..
ซายอและชาวบ้านมอแกนน้อยใหญ่ ต่างกลับมาสนใจเรื่องราวความเป็นตัวตนของพวกเขาต่อ
และเมื่อรัตติกาล..คืบคลานเข้ามา
พระจันทร์ทอแสงเต็มดวง..
เริ่มกระจ่างขอบฟ้าด้านทิศตะวันออกของเกาะแสงจันทร์
ความรื่นเริงบันเทิงดั่งงานฉลองก็เริ่มต้น
ความเชื่อแต่ครั้งบรรพกาล ความตายของพวกเขาคือการพ้นทุกข์ คนที่ตายไม่ต้องมาลำบากเหมือนคนที่ยังมีชีวิตอยู่ ทุกครั้งที่มีการตายจึงมีแต่งานรื่นเริงเฉลิมฉลอง มันเป็นความเชื่อที่สืบทอดกันมายาวนาน
นานและนานจนถึงแม้วันคืนนี้..
แต่ความเชื่อ กับความรู้สึกของการจากไปของคนอันเป็นที่รัก สำหรับมอแกนบางคนนั้น มันไม่อาจทำให้ข่มใจมีความรื่นเริงนั้นได้เลย มันเป็นเหมือนความคิดที่แปลกแยกของชนเผ่า แต่มันก็เป็นความแปลกแยกที่เกิดจากความรู้สึกของใจโดยแท้ หรือว่าจริงๆแล้ว ลึกๆในใจของมอแกนผู้สูญเสียคนอื่นๆ ก็อาจมีความรู้สึกทุกข์ร้าวใจแบบเดียวกันนี้ หากแต่ไม่อาจแสดงความอ่อนแอนั้นออกมาได้ เพราะขนบทางวัฒนธรรมบอกย้ำให้ทำแบบนั้น ให้เป็นแบบนั้น
ทั้งๆที่ความจริง อาจทุกข์ร้าวใจปานจะตาย เหมือนยิปซีสาวอย่างบูงอ.. ..
อ่านต่อในครั้งหน้า
หุบเขาแสงจันทร์ / ตรีวิทย์ นฤดม
สำนักพิมพ์บ้านทะเลล้อม 2008