หุบเขาแสงจันทร์ ตอนที่ 12
แสงแดดยามบ่ายยังเจิดจ้า..สาดส่องทั่วแผ่นน้ำทะเลและขุนเขา
จากบริเวณหน้าหาดตรงนี้คือหาดทรายขาวละเอียดที่ทอดตัวยาวเหมือนพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว ถัดจากตัวหาดทั้งฝั่งซ้ายและขวาเป็นโขดหินสูงชันที่ยากต่อการปีนป่าย ซ้ำตัวโขดหินทั้งสองฝั่งนั้น ก็ทอดยาวต่อจากตัวหาดทรายเป็นเส้นโค้งทอดออกไป ทำให้น่านน้ำทะเลตรงหน้าเป็นเหมือนแอ่งน้ำ เพราะโขดหินสองข้างมาโอบกั้นไว้ครึ่งหนึ่ง โขดหินที่เหมือนด่านกั้นบังการรู้เห็นจากมนุษย์ภายนอกและลมมรสุม
เหลี่ยมโขดหินดูแปลกตา แปลกใจ
เมื่อเรือยนต์กลางๆลำหนึ่ง..ค่อยๆเผยตัวพ้นจากเหลี่ยมโขดหินนั้น เสียงเครื่องยนต์ที่เร่งดังทำให้สายตาทั้งหมดของชาวบ้านมอแกนที่กำลังจัดแจงเตรียมสถานที่เพื่องานเฉลิมฉลองตรงหน้าหาด หันไปมองที่มาของเสียงอย่างพร้อมเพรียง
ในบรรดาสายตาของมอแกนทั้งหมด สายตาของซายอดูจะขุ่นมัวมากที่สุด ขณะมองเรือยนต์ลำกลางๆที่กำลังเคลื่อนตัวเข้ามาที่หน้าชาดหาด หากเป็นเรือของนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาคงไม่เป็นไร แต่หากเป็นคนจากฝั่งเมืองที่มุ่งอะไรบางสิ่งของแผ่นดินแถบนี้ แล้วจะทำอย่างไร
เรือยนต์เบาเครื่องลงเมื่อเคลื่อนตัวใกล้เข้ามา ภายในตัวเรือมีคนที่นั่งอยู่ข้างในห้าคน การแต่งตัวของพวกเขาและเธอ ไม่ต้องบอกก็รู้คือคนฝั่งเมือง และในสามคนนั้นแต่งชุดข้าราชการ
เมื่อเรือจอดสนิทนิ่งที่ริมหาด คนทั้งหมดค่อยๆพากันก้าวลงมา หญิงสาวผมดำขลับยาวสลวยที่ก้าวลงมาจากเรือเป็นคนที่สอง ในชุดเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เพียงแค่หล่อนเงยหน้าขึ้น สายตาของซายอที่จับจ้องหล่อนอยู่ พลันก็แปรเปลี่ยนจากความขุ่นมัวกลายเป็นความเคยคุ้นนิดๆ
ซายอก้าวเท้าเดินเข้าไปหา เมื่อคนเหล่านั้นทั้งหมดก้าวเท้าลุยน้ำริมหาดขึ้นมาอยู่บนฝั่งจนเรียบร้อย สายตาของซายอยังมองอยู่ที่หญิงสาว คนที่เขาเคยคุ้นมากกว่าใครๆ
“คุณดุจเดือน”
ซายอเอ่ยชื่อของหญิงสาว อย่างที่พอจำได้
“ซายอ”
หญิงสาวเรียกชื่อเขากลับคืน เหมือนคนคุ้นเคยที่ได้กลับมาพบเจอกันอีกครั้ง
อ่านต่อในครั้งหน้า
หุบเขาแสงจันทร์ / ตรีวิทย์ นฤดม
สำนักพิมพ์บ้านทะเลล้อม 2008