หุบเขาแสงจันทร์ ตอนที่ 10
กว่าฝนฟ้าจะคลายความพิโรธ ก็เมื่อตะวันเคลื่อนตัวมาอยู่กลางฟ้า
หากแต่หมู่เมฆน้อยใหญ่..ก็ยังบดบังแสงจ้าของตะวันอยู่ดี ดวงตะวันที่เห็นเป็นเพียงเค้าเงาวงกลมรางๆบางๆ หลังแผ่นก้อนเมฆ เหมือนจะยังไม่เป็นใจให้ทำพิธีเท่าไหร่นัก
ซายอตัดสินใจเลื่อนทำพิธีลอยเรือออกไป ไว้ให้ตะวันคล้อยกว่านี้เสียก่อน เมื่อดูจากทิศทางของเมฆหมอก ที่กำลังเคลื่อนตัวไปเรื่อยๆ ไม่ช้าไม่นานเชื่อว่าฟ้าจะกระจ่างเหมือนเดิม
คำทำนายของพ่อเฒ่าหมอผี แม้จะตัดทอนกำลังใจของคนหมู่บ้านไปมาก แต่กับซายอแม้กำลังใจจะสั่นคลอนเพียงใด เขาก็ยังคงทำหน้าที่ผู้นำได้ดีและมั่นคง
ตะวันเคลื่อนคล้อยโรยตัวในยามบ่าย
และเริ่มมีแสงแดดบ้างเมื่อหมู่เมฆเริ่มสลายตัว ชาวบ้านที่กระจัดกระจายเริ่มกลับเข้ามารวมตัวกันอีกครั้งที่บริเวณศาลศักดิ์สิทธิ์ พิธีบวงสรวงดวงวิญญาณบรรพบุรุษ กำลังจะเริ่มขึ้นต่อจากเดิมอีกหน เมื่อฟ้ากระจ่างเป็นใจ โดยมีซายอเป็นผู้นำจิตวิญญาณดังเดิม
เรือก่าบางลำน้อยนิด ที่ถูกสร้างจำลองโดยช่างอาวุโสชำนาญการประจำหมู่บ้านถูกนำออกมาตั้งวางกลางลานพิธี ชาวบ้านผู้ทำหน้าที่นำข้าวสาร อาหารต่างๆ รวมทั้งของใช้จำเป็นมาวางใส่ลงไปในเรือเล็กจำลองนั้น ตามความเชื่อแต่โบราณว่าสิ่งของและอาหารต่างๆเหล่านี้ จะถูกส่งต่อไปให้ดวงวิญญาณบรรพบุรุษของพวกเขา เพื่อนำไปใช้ในสัมปรายภพ
เมื่อจัดวางข้าวของต่างๆลงไปเรียบร้อย ซายอ..ก็ก้าวเท้าออกมายืนตรงกลางลานพิธี หน้าศาลศักดิ์สิทธิ์และเสาไม้แกะสลักปักวางเรียงราย อันเป็นเสมือนตัวแทนดวงวิญญาณบรรพชน เพื่อเป็นผู้นำในพิธีลอยเรือตามมาด้วยพ่อเฒ่าปอซอ ร่างชราลึกลับของพ่อเฒ่า ค่อยๆนั่งลงท่ามกลางเสาแกะสลักที่ปักเรียงราย พิธีบวงสรวงดวงวิญญาณบรรพบุรุษกำลังจะเริ่มต้น
เสียงพึมพำบริกรรมคาถาของพ่อเฒ่าหมอผีดังขึ้นอีกหน..ท่ามกลางเสียงร้องรำทำเพลงของชาวมอแกนน้อยใหญ่ บ้างก็ร่ายรำตามเพลงในระหว่างพิธี ความเป็นไปแห่งวิถีทางวัฒนธรรมดำเนินสืบไป เหมือนที่เคยเป็นมา
ความลึกลับแห่งพิธีกรรม
ความรื่นเริงดั่งงานเฉลิมฉลองผสมกลืนรวมกัน อยู่ท่ามกลางขุนเขาตระหง่านเทียมเมฆลอยสูงเสียดฟ้า และแผ่นผืนทะเลสีน้ำเงินอันกว้างใหญ่ ก็โอบล้อมพิธีกรรมอันน่าชวนค้นหานั้นไว้ ไม่ให้เสื่อมสลายไปตามกาลเวลา
หรืออาจจะเสื่อมสลายไป ด้วยพ่ายแพ้ต่อกาลเวลา
อ่านต่อในครั้งหน้า
หุบเขาแสงจันทร์ / ตรีวิทย์ นฤดม
สำนักพิมพ์บ้านทะเลล้อม 2008