ความหงุดหงิดจากการซื้อของที่ 7-eleven
จาก : TaiwaneseAmerican.org |
สวัสดีครับ สำหรับเนื้อหานี้ที่จริงแล้วผมอยากจะเขียนเล่าเรื่องมาตั้งนานแล้วครับ แต่เนื่องด้วยเหตุผลบางอย่างและก็งานที่เยอะพอสมควร เลยทำให้บทความนี้ต้องมาเขียนในวันนี้ครับ แน่นอนเลยเกริ่นก่อนจริงๆ ผมเป็นคนนึงที่ชอบเข้าเซเว่นมากๆ เลย ถ้าใครรู้จักผมดีหรือว่าเคยทำงานกับผมจะรู้ว่าจริงๆแล้วผมชอบเข้าเซเว่นมากๆ ซึ่งผมก็รู้อีกว่าคนที่ชอบเข้าเซเว่นนั้นไม่ได้มีแค่ผมคนเดียว คนส่วนใหญ่และทุกๆคนก็ชอบเข้าเซเว่นกันเป็นประจำบางคนเข้าทุกวัน บางคนเข้าวันเว้นวันหรือแล้วแต่คนไป
ซึ่งประเด็นที่ผมจะมาพูดวันนี้เกี่ยวอะไรกับการเข้าเซเว่นหรือไม่แต่อย่างใด จะบอกว่าไม่เกี่ยวเลย แต่จริงๆ คือเป็นลักษณะการที่เราไปซื้อของแล้วได้รับการทอนกลับมา ซึ่งผมจะ "รู้สึกหงุดหงิด" ทุกครั้งที่เราได้เงินทอนแล้วจังหวะนั้นเราต้องเก็บเงินเข้ากระเป๋าตังค์แล้วอีกมือนึงถือของที่ต้องเดินออกมา ผมจะเป็นอารมณ์นี้บ่อยมากหรือแทบทุกครั้ง ซึ่งจริงๆแล้วถ้าซื้อของในปริมาณที่น้อยหรือจ่ายตังค์พอดี เงินทอนในจำนวนน้อย ก็จะไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดอะไรมาก แต่มีหลายครั้งเหมือนกันที่ซื้อของเยอะใช้แบงค์ใหญ่ แล้วต้องมาหงุดหงิดกับการถือเงินทอนในปริมาณเยอะ ลองจินตนาการภาพเงินทอนที่ประกอบไปด้วยแบงค์ 500 แบงค์ 100 แบงค์ 20 หรืออาจจะมีแบงค์ 50 ด้วยบวกกับเหรียญอีกนิดหน่อย ซึ่ง ณ เวลาตรงหน้าเคาน์เตอร์เมื่อได้รับเงินทอนเสร็จแล้ว เราควรจะต้องเดินออกจากตรงนั้น แต่บางทีผมคิดว่าเราควรต้องเก็บตังค์ก่อนแล้วค่อยถือของออกมา ทำให้ต้องเสียเวลาอยู่ตรงนั้นในช่วงเวลาหนึ่งถึงจะเดินออกมาได้
ปัญหานี้เป็นกับผมครับ แต่ผมไม่รู้ว่าเป็นกับคนอื่นด้วยหรือเปล่า และในบางวันที่ผมแบกของมาเยอะอย่าง เช่น บางวันผมจะไปหาเพื่อน อยากให้ทุกคนลองนึกภาพดูผมสะพายกระเป๋า ผมซื้อของแล้วต้องมาเข้าเซเว่นก่อน ณ เวลานั้นอาจจะหิวน้ำหิวข้าวหรืออะไรก็ตาม แต่รู้ว่าเราต้องซื้อ แล้วก็มาหงุดหงิดทุกครั้ง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ที่เกิดขึ้นกับผม ไม่ได้เป็นปัญหาของใครเลย เป็นปัญหาของผมล้วนๆ
จาก : https://f.ptcdn.info/ |
และแล้วเราก็เจอทางออก
แต่ก็ยังมีความโชคดีอยู่บ้างครับ ที่ผมชอบเทคโนโลยีดังนั้นในทางเลือกที่เราจะซื้อของจากเซเว่นได้ ก็ไม่ได้มีแค่เงินสดเพียงอย่างเดียว แต่มีอีกหลายทางเลือกเลย เช่น
1. ใช้บัตรเซเว่นครับ ซึ่งวิธีนี้ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ดีมากๆ เติมเงินก็ง่ายนิดเดียว ชำระเงินก็แค่เอาบัตรไปแตะ จากนั้นก็รับใบเสร็จแล้วเดินมาได้เลย สะสมแต้มได้ด้วย ง่ายมาก
2. ใช้ True Money wallet วิธีนี้ง่ายกว่าเดิมเข้าไปอีก เพราะไม่ต้องพกบัตรเลย ใช่โหลด App True Money wallet ลงในเครื่องมือถือ เท่านั้นแต่คุณต้องเติมตังค์ก่อนนะ หรือจะผูกบัตรเดรบิตก็ได้ พอใช้งานก็แค่เปิด App ใส่ PIN แล้วเลือกไปที่หมวดสแกนบาร์โค้ดได้เลย จากนั้นเพียงรอให้พนักงานนั้นยิงบาร์โค้ดเพื่อตัดเงินของเรา รอรับใบเสร็จเสร็จเรียบร้อยเดินออกจากร้านได้เลย
โดยรวมรวมแล้วผมใช้ 2 วิธีนี้ครับ ซึ่งบางคนอาจจะมีวิธีการอื่นก็แล้วแต่ครับ ซึ่ง 2 วิธีนี้นั้นเป็นวิธีที่ไม่ต้องใช้ไม่ต้องพกเงินสดมาเลย สะดวกสบายมากๆเดินไปเซเว่นพกบัตรหรือโทรศัพท์ไปเครื่องเดียวก็ได้ของกลับมา
แต่ก็ยังมีปัญหาอะไรครับ บางคนที่อ่านมาถึงตรงนี้อาจจะงงว่าขนาดนี้ยังมีปัญหาอีก แน่นอนครับของอะไรก็ตามที่มันง่าย และง่ายมากๆ ขนาดนี้สิ่งที่ตามมาที่เห็นได้ชัดเลยก็คือเงินที่เรามีอยู่นั้น ก็ถูกตัดออกไปได้ง่ายมากเช่นกัน แน่นอนจากประสบการณ์ของผม ผมเติมเงินนะแค่ครั้งละ 1,000 บาท เพราะคุณรู้ตัวว่าคุณไม่ต้องพกเงินสดในการชำระเงิน คุณแทบจะอยากจะเดินเข้าร้านเซเว่นทุกๆ 10 นาทีเลย หรือบางกรณีคุณเดินเข้าร้านไป คุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณอยากซื้ออะไรหรืออยากได้อะไร แต่สัญชาตญาณในตัวเรารู้แต่ว่าเราอยากเข้าไปข้างในเพราะข้างในนั้นเย็นสบายเพราะมีแอร์ ข้างในนั้นสว่างไสวเพราะดวงไฟเยอะเหลือเกิน ตรงนี้อาจจะเป็นการตลาดบางส่วนของทางร้าน ซึ่งผมไม่รู้หรอกครับว่าการตลาดของเขาจึงเป็นยังไง แต่สุดท้ายแล้วผลลัพธ์ที่ออกมาคือมันทำให้ลูกค้าอย่างเราๆ เดินเข้าเดินออกกันเป็นว่าเล่นเลยในแต่ละวัน ยิ่งถ้าสังเกตดูถ้าไปดูสาขาในเมืองนะ พนักงานแทบไม่ได้หยุดเลย รับคิวเสร็จลูกค้าใหม่ก็มา รับคิวเสร็จลูกค้าใหม่ก็ต่อ อีกคนก็ต้องเวฟอาหาร คนจัดเรียงของก็ต้องมาช่วยชำระสินค้า ลูกค้าต่างชาติบางทีก็เยอะ
อีกเรื่องหนึ่งสำหรับสังคมไร้เงินสดที่กำลังจะเกิดขึ้น ส่วนตัวผมเป็นคนนึงที่อยากให้เกิดสังคมไร้เงินสดแบบนี้ขึ้นจริงๆ เพราะมันทำให้เราสะดวกสบายมากขึ้น ไม่ต้องพกธนบัตรไปไหนมาไหนตลอดเวลา แต่ถามว่าทุกวันนี้ทำได้แล้วไหม ก็ตอบว่าทำได้ครับแต่ยังทำไปได้ไม่ถึงไหนเลย ถ้าเทียบกับเมืองจีนหรือประเทศอื่นนั้นต่างกันลิบลับ ด้วยความเห็นส่วนตัวนะครับ ผมคิดว่าถ้าบ้านเราถ้าจะให้เกิดสังคมไร้เงินสดขึ้นมาจริงๆ แบบร้อยเปอร์เซ็นต์เนี่ย ทำได้ยากมากเพราะผู้ใหญ่บ้านเราหลายคนนั้นยังคงไม่เปิดรับอะไรใหม่แบบนี้ ที่เห็นได้ชัดเจนคือคนสูงอายุส่วนใหญ่ในบ้านเราจะไม่ค่อยเปิดรับเทคโนโลยีหรืออะไรใหม่ๆเข้ามา แต่ก็นั้นสิบ้านเราเป็นสังคมสูงอายุคนจำนวนนี้มีอยู่มากและจะให้ทำยังไงล่ะ ซึ่งจะบอกว่าติดตั้งยุ่งยากบ้าง ใช้งานยุ่งยาก แล้วก็ไม่รู้ว่าปลอดภัยไหม นี่คือคำถามหลักหลักของคนในบ้านเราเลย แล้วมันก็เป็นคำตอบต่อๆ ไปแล้วจะให้เกิดคำว่า "สังคมไร้เงินสด" คำนี้ขึ้นมาจริงๆ ได้อย่างไรกัน
ปล. จากย่อหน้านี้ ผมบอกก่อนนะว่าผู้สูงอายุส่วนใหญ่ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด เด่วผมโดนดราม่า ฮ่าๆ
สุดท้ายแล้ว สำหรับใครที่อ่านมาจนถึง ณ ตรงนี้ ก็ขอบคุณมากๆเลยครับ บทความนี้จริงๆผมแค่อยากแสดงความคิดเห็นส่วนตัวนิดหน่อย เกี่ยวกับการซื้อของใน 7-eleven ของผม ซึ่งผมไม่ได้ติดปัญหาอะไรใดๆจากทางร้านค้าแห่งนี้นะครับ ผมแค่อยากแชร์เรื่องราวของผมเท่านั้น ซึ่งปัญหาบางคนอาจจะมีปัญหาเหมือนกับผม หรืออาจจะไม่มีเลยก็ได้ ไม่ผิดไม่ถูกไม่ได้ว่ากันครับ สุดท้ายแล้วมาถึงตรงนี้ ช่วยกันแสดงความเห็นที่ด้านล่างหน่อยว่าทุกๆคนนั้นคิดเหมือนผมไหม กับปัญหาที่ผมเป็น หรือว่าผมควรจัดการกับมันยังไงดี ฮ่าๆ
Credit by : tanat29 (เขียนเองทั้งหมด ถ้าเป็น SEO ก็เป็นสายขาวน่ะ)