“หมอเกียรติภูมิ” แนะ "สมุนไพร" ใกล้ตัว ช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้ เชียร์ "กลุ่มผู้ป่วย และ กลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน" ทานเป็นอาหารประจำ
ทีมข่าวเว็บไซต์ เมดฮับ นิวส์ medhubnews.com รายงานว่า หลังจาก “กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์” ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำ “ตำรามาตรฐานยาสมุนไพรไทย” ฉบับปี พ.ศ. 2560 ( Thai Herbal Pharmacopoeia 2017 ) ขึ้น
เพื่อส่งเสริมให้ยาสมุนไพรไทยมีคุณภาพมาตรฐานสากล ลดการนำเข้ายาแผนปัจจุบัน จากต่างประเทศ ทำให้วงการแพทย์แผนไทยได้รับเสียงตอบรับจากผู้ประกอบการ และ ผู้ศึกษาค้นคว้างานวิจัยที่มองว่าเป็นสัญญาณที่ดี เกิดมาตรฐานที่สูงมากขึ้น
ล่าสุดนายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ออกมาให้ความรู้เกี่ยวกับ “ โรคเบาหวาน”
ทั้งนี้ โรคเบาหวาน ในทางการแพทย์แผนปัจจุบัน หมายถึง ภาวะที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูง เกิดจากความบกพร่องของตับอ่อน และออร์โมนอินซูลินในร่างกาย อาการสำคัญที่สังเกตได้ของโรคเบาหวาน คือ ปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะใ ตอนกลางคืน หิวบ่อย กระหายน้ำบ่อย มีอาการชาปลายมือปลายเท้า
หากมีบาดแผล มักจะหายช้า ภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน ส่งผลให้จอประสาทตาเสื่อม เกิดแผลกดทับ ติดเชื้อได้ง่าย โดยเฉพาะติดเชื้อรา และเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของความพิการตามมา
โดยเฉพาะพืชผักสมุนไพรใกล้ตัวหลายชนิด ที่ใช้เป็นอาหารมีรายงานการวิจัยพบว่า มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดในสัตว์ทดลองที่เป็นเบาหวาน และหลายชนิดผลการศึกษาวิจัยมีฤทธิ์ลดน้ำตาลในผู้ป่วยเบาหวาน
เช่น กะเพรา ตำลึง มะระขี้นก ผักเชียงดา สำหรับ กะเพรา สมุนไพรยอดฮิตที่คนไทยนิยมรับประทานกันในขณะที่ทางการแพทย์อายุรเวทของอินเดีย ถือว่ากะเพรา เป็นสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ มีสรรพคุณหลากหลายในการแพทย์อายุรเวท
เช่น บรรเทาอาการไอ หวัด และการติดเชื้อทางเดินหายใจ ช่วยย่อยอาหาร บรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยลดอาการที่เกิดจากความเครียด เพิ่มความจำ เพิ่มภูมิคุ้มกัน
งานวิจัยของอินเดียชี้ให้เห็นว่า การรับประทานผงใบกระเพราแห้งในปริมาณ 2.5-3 กรัม วันละ 1 ครั้ง ก่อนอาหารเช้า สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานได้ หรือให้รับประทานในปริมาณ 6 กรัม วันละ 2 ครั้ง ก่อนและหลังอาหารเช้า ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดสูงและลดไขมันในเลือดสูงได้
ส่วนสารสกัดด้วยน้ำของใบกะเพราขนาด 5 มิลลิลิตร ดื่มวันละ 2 ครั้ง ก่อนอาหาร สามารถลดน้ำตาลและคอเลสเตอรอลในผู้ป่วยกลุ่มอาการอ้วนลงพุง ( Metabolic Syndrome ) ได้
และยังพบว่าประมาณ 63% ของผู้ป่วยเบาหวานที่ดื่มน้ำต้มกะเพรา วันละ 700 มิลลิลิตร โดยต้มต้นกะเพราแห้ง 20 กรัม ในน้ำ 1 ลิตร แล้วกรองดื่ม ตอบสนองต่อฤทธิ์ลดน้ำตาลได้ดี
งานวิจัยทางเคมีพบว่า สารสำคัญที่มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในกะเพราเป็นสารกลุ่มไทรเทอร์พีนอยด์ ซึ่งจากงานวิจัยเหล่านี้จะเห็นได้ว่าผู้ป่วยเบาหวานหรือกลุ่มเสี่ยงที่มีแนวโน้มจะเป็นเบาหวาน สามารถนำใบกะเพรามาใช้เป็นอาหารในวิถีชีวิตประจำวันได้
ข้อแนะนำกรณีที่ผู้ป่วยรับประทานยาแผนปัจจุบัน การจะนำไปใช้ร่วมกับยาอื่นอาจต้องใช้กระเพราในปริมาณที่พอเหมาะ หรือปรับลดยาแผนปัจจุบันลง ซึ่งต้องกระทำโดยแพทย์เจ้าของไข้ เพื่อป้องกันภาวะช็อค จากระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ
หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่ Call Center 02 5917007 ต่อกองวิชาการและแผนงาน กรมการแพทย์แผนไทยฯ หรือศึกษาข้อมูล ในแอพลิเคชั่นสมุนไพรไทย ( Thai Herbs )