หนุ่มวัยทำงาน ขอเล่าเรื่อง ความสุข=บัตรเครดิต อยากให้อ่านครับ
เฟซบุ๊ก มอ เมธ ได้แบ่งปันเรื่องราวเรื่องแง่คิดของการใช้บัตรเครดิตครับ คิดก่อนใช้ก่อนที่คุณจะติดกับดักเป็นหนี้บัตรเครดิตจนมารู้ตัวอีกที หนุ่มคนนี้ใช้หนี้หัวโตเงินแทบไม่เหลือ แถมโดนยึดบ้านอีกเพราะเป็นหนี้บัตรเครดิต .. อยากให้อ่านครับโดยทางเจ้าเรื่องราวนี้ได้โพสท์ระบุว่า ..
อยากเล่า เรื่องนี้มาก ความสุข=บัตรเครดิต
ผม เป็นคนหนึ่งที่มีความสุขมากเวลามีบัตรสี่เหลี่ยมๆใบเล็กๆทั้งหมดนี้ มันตอบโจทย์ กิเลสของเราได้อย่างเเรง
สมัยก่อน ผมทำงานบริษัทเอกชน ขึ้นชื่อว่าเป็นวิศวกร เเถมเงินเดือนน่าจะสูงนะ ถ้าเที่ยบกับวิศวกรบริษัทอื่น เวลาไปธนาคารทำธุรกรรมผ่อนบ้าน ผ่อนรถ พวกนี้เห็นเงินเดือนเรายิ่งถามเลยทำบัตรเครดิตไหมครับให้ 5เท่าของเงินเดือนเลย ตอนนั้นก็ทำๆไปเพื่อไว้โก้ๆเเบบชาวบ้านคนอื่นเค้ามั่ง เพื่อนชวนทำมั่ง ทำไปทำมาเริ่มต้น2-3ใบ ใช้จ่ายสนุกมันมือเลยคราวนี้!!
เรื่องเที่ยวขอให้บอก รูดปืด ใช้ไปใช้มา กับดักทางการเงิน ซึ่งคนทั่วไปเรียกว่า เครดิต ผมติดกับมัน อาการเริ่มเเรกมีดังนี้!!!
1.เริ่มจ่ายขั้นต่ำ 5-10%ของยอดเงินเต็ม
2.เริ่มมองหาบัตรเครดิตธนาคารใหม่ๆเพื่อเอาเงินมาหมุน
3.เริ่มขอสินเชื่อก้อนใหญ่ๆเพื่อมาปิดบัตร
ถ้าคุณมีอาการดังกล่าวเบื้องต้นทั้ง3ข้อนี้ คุณติดกับมันเเล้ว
ผมใช้เวลาสนุกกับ เครดิต1.5ปี มีบัตรเครดิต15ใบ สินเชื่ออีก5ที่ รวมๆเเล้วเป็นเงิน 1.5ล้านบาท หนี้สินทั้งหมดมากจากการเที่ยวเตร่ กินเหล้า เล่นการพนัน ใช้จ่ายเกินตัว ซึ่งอยากจะบอกว่า ตอนใช่เนี่ย เหมือนคนป่ามีปืน พร้อมยิงทุกคน เดินหน้าฆ่ามัน ใช้เหมือนหนังสงคราม เที่ยวทุกวัน!!
เเล้ววันนั้นก็มาถึง สัญญาณเเรกของคนเป็นหนี้
1.ถ้าคุณไม่จ่ายเงิน ใน1เดือน จะมี callcenter จากธนาคารโทรมาทวงคุณ โทรไม่ค่อยถี่ ตอนนั้นผมเริ่มหมุนเงินไม่ทันเเล้ว
2.ถ้าหยุดการรับสายจากธนาคาร6เดือน มันจะโทรมาเเบบ เช้า กลางวัน เย็น จนคุณหลอนกับการรับสายเเปลกๆ
3.ถ้าคุณหยุดรับสายใน1ปี มันจะเริ่ม โทรหาคุณในที่ทำงาน เเล้วคุณจะอายมากๆเวลา Hr เเจ้งว่ามีธนาคารให้โทรกลับด้วย
ถ้าทั้ง3ข้อเกิดขึ้นครบคุณเตรียมพบกับความฉิบหายในชีวิตได้เลย เพราะเส้นทางต่อไปนี้จะโหดร้ายมากๆ
เนื่องจากผมติดเป็น10ก่าที่ การต่อสู้ผมเริ่มต้นขึ้นเเล้ว สิ่งเเรกที่ต้องทำคือ ขยัน ทำเเม่งทุกงาน หางานเสริมทำโชคดีที่เมื่อก่อนสอนพิเศษ เลยหยุดจากทำงานมาสอนหนังสือ สอบไปสอนมาก ก็เริ่มเอาเงินมาใช้หนี้ เเต่หนี้ตั้งเป็นล้านจ่ายขึ้นต่ำก็เปนเเค่ดอกเบี้ยมัน ระยะเวลาจ่ายขั้นต่ำไปเป็นเวลาอีกครึ่งปี
จนมันครบ2ปี ธนาคารเริ่ม ฟ้องผมหักเงินเดือน30%ของรายได้ ตอนนั้นเเย่มาก อายจนเเทบไม่อยากเจอใครคนรู้กันทั่วบริษัท
มันหักเงินเดือนยังไม่พอ ถ้าเรามีทรัพย์สินอื่น มันก็ยึดได้ ผมโชคร้ายที่มีบ้านเปนชื่อตัวเอง มีหมายศาลมาติดหน้าบ้านทุกเดือน ตอนนี้อายยิ่งกว่าโดนหักเงินเดือนอีก
ตอนนั้นหมดหนทาง เพราะเงินเดือนก็หัก ธนาคารอื่นก็ต่อคิวฟ้อง ตอนนั้นไปหาใครก็ไม่ทีใครให้ยืม ตอนนั้นคิดง่ายๆบอกเเม่ว่า ขอโทษด้วยผิดไปเเล้ว เราไปเริ่มต้นใหม่กันไหมผมตัดสินใจ จะไม่จ่ายปล่อยใหม่มันยึดบ้าน เเล้วไปหาบ้านเช่าเอา เเละเเล้วก็มีคนดีมาช่วยผม คำว่าสวนกุหลาบ น้องเม๊า125 คนเเรกที่ ช่วยผมให้ยืมเงินมาก้อนหนึ่งใช้หนี้ เพื่อไม่ให้ยึดบ้าน เเล้วก็ น้องตี๋125 ออฟ123เสี่ยเเบค์120 ธนาคารที่จะมายึดบ้านรอบ2,3
ถ้าไม่มีพี่ๆน้องๆ ผมคงอนาคตดับเเน่ๆเรื่องเงินทองหยิบยืมกัน ทุกคนย่อมส่ายหน้าหนี ยิ่งเป็นคนเเบบผมด้วย เที่ยวเตร่เอาเงินไปเที่ยวเอง ตอน...สนุก...สนุกคนเดียว มาทีนี้จะมายืมเงินคนอื่น ทุกคนพูดกับผมเเบบนี้
เเล้วก็กัมหน้ารับกรรมทำงานใช้หนี้อย่างเดียวเรียกว่า365วัน เเทบไม่ได้หยุด หาเงินทุกวัน ชนิดที่เรียกว่า ควายเรียกพ่อ ทำไปทำมา ลาออกจากพนักงานเป็นเจ้าของกิจการเล็กๆ มีตังใช้หนี้สินต่างๆจนครบ
ที่เล่ามาอยากจะบอกเปนอุทาหรณ์ ในเรื่องบัตรเครดิตให้เพื่อนๆพี่ๆทุกคน ใช้จ่ายอย่างประหยัดพอเพียง ตามรอยพระราชดำริ ร.9
ผมยินดีเเนะนำเพื่อนๆพี่ๆที่เป็นหนี้บัตร วิธีการปลดหนี้ เทคนิคต่างๆในการต่อรองธนาคาร (ไม่มีตังให้ยืมนาจา555)
P.s. ที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้ ต้องขอบคุณ น้องชายผม Suthep Suthep Jettomrongchai ผู้ที่เป็นคนบริหารการจัดการหนี้สินทั้งหมด
แหล่งที่มา: มอ เมธ
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10204078941290587&set=a.1435913354613.42785.1736359790&type=3&theater