สวัสดีครับเพื่อนๆ โพสท์จังทุกคน วันนี้ผมขอนำเรื่องเกี่ยวกับ แฟชั่นในยุคโบราณของไทย สมัยก่อนก็มีแฟชั่นเหมือนกันครับ เพราะมนุษย์ทุกยุคทุกสมัยชอบความงามกันทั้งนี้ และวันนี้ผมขอเสนอเรื่องราวในอดีตของประเทศสยามของเรา เกี่ยวกับแฟนชั่นในยุคนั้นมาแชร์ต่อ ให้เพื่อนๆที่สนใจประวัติศาสตร์ได้อ่านเพื่อเพิ่มความรู้รอบตัวกันครับ... โดยเนื้อหานี้ผมนำมาจจากเฟซบุ๊ก จับเข่าเล่าประวัติศาสตร์ ที่ได้แชร์เรื่องราวเกี่ยวกับ แฟชั่นโบราณ ขอเชิญได้เลยครับ...
.แฟชั่นโบราณ...
สมัยนี้แฟชั่นตามกันไม่ทันจริงๆ ผู้ชายก็กางเกงขาเล็กๆโชว์ทรง เสื้อเนี๊ยบๆแนวๆ ไปทางเกาหลีๆ แอดมินใส่แล้วก็ เห้อ ไม่ไหวๆไม่เข้ากับหนังหน้าแอดมิน ผู้หญิงเขาก็ชอบใส่อะไรแอดมินก็ไม่ค่อยมีข้อมูล มันหลายสไตล์เหลือเกิน ข้าพเจ้าย่อมไม่บรรลุ ณ จุดนี้
แล้วบรรพบุรุษของเราล่ะ...สวมใส่อะไร อย่างไร
เมื่อพูดถึงแฟชั่นท่อนล่างของชาวสยามสมัยโบราณก็ต้องโจงกระเบน...
วัฒนธรรมการนุ่งโจงกระเบนในสยามนั้น รับมาจากขอมซึ่งมีอิทธิพลเหนือที่ราบลุ่มเจ้าพระยาในยุคหนึ่ง สำหรับขอมเองนั้นก็รับเอาการนุ่งผ้าโธตีแบบอินเดียเข้ามาเป็นโจงกระเบนอีกทีหนึ่ง
วัฒนธรรมการนุ่งผ้าแบบอินเดียที่นุ่งให้ยาวๆคลุมขานั้นก็เป็นรากฐานของการนุ่งผ้าแบบต่างๆในภูมิภาคยุคหลังๆ เช่น การนุ่งโสร่งยาวๆ โจงกระเบน เพราะแต่เดิมนั้นคนในภูมิภาคเรานิยมนุ่งผ้าลอยชายสั้นๆทำนองเป็นผ้าเตี่ยว เพราะภูมิอากาศแถบนี้เป็นตัวบังคับให้ต้องแต่งกายน้อยชิ้น มีผ้านุ่งก็พอแล้ว ร้อนจะตาย
มีการนุ่งผ้าอีกแบบที่เป็นการประยุกต์ คือการถกเขมร เป็นการนุ่งแบบโจงกระเบนแต่ถกให้ความยาวเลยเข่าขึ้นไปอีก เหมาะแก่การทำงานหรืออากาศร้อนๆ
ตั้งแต่ยุครัฐนิยมของจอมพล ป. ชาวสยามก็มิได้นุ่งโจงกระเบนกันในชีวิตประจำวันอีก...(แต่ถ้ายังนุ่งอยู่ถึงทุกวันนี้ก็อยากรู้เหมือนกันว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง...)
ถ้าเป็นชาวล้านนา ชาวไต ตอนบนๆ ก็จะรับกางเกงจีนเข้ามา เพราะย่านนั้นจะค้าขายกับพ่อค้าจีนทางบก ไม่ได้ค้ากับแขกทางทะเลเหมือนทางตอนล่าง ซึ่งจะรับแบบอินเดียเข้ามามาก
ส่วนท่อนบนอย่างเสื้อนั้น แต่เดิมก็คือ ไม่ใส่ ก็เพิ่งจะค่อยๆเข้ามาในภายหลังและจำกัดเป็นเครื่องแสดงยศ ผู้ที่ใส่เสื้อได้คือผู้มียศถาบรรดาศักดิ์เท่านั้น แม้แต่ขุนนางจะเข้าเฝ้าพระเจ้าแผ่นดินก็ถอดเสื้อ เพิ่งจะมาให้สวมเสื้อเข้าเฝ้าในสมัยรัชกาลที่ 4 ต่อมาก็เกิดเสื้อราชปะแตนในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งปรับมาจากชุดทูนิคของฝรั่ง ให้เข้ากับสรีระชาวสยาม
ส่วนตอนบนๆของภูมิภาคก็รับเสื้ออย่างจีนเข้ามาเช่นกัน
ในส่วนของผู้หญิงนั้นเดิมก็พอมีผ้าแถบปิดพอควร แต่บางทีก็เปลือยอกเลยทีเดียวถ้าไม่ได้เข้าวัดเข้าวา เดินชิวๆแถวบ้าน จะเต่งตึงดอกจำปาทัดไม่ร่วงหรือเป็นถุงกาแฟก็เห็นได้ชัด เพิ่งจะมาเปลี่ยนค่านิยมให้ผู้หญิงแต่งกายมิดชิดเมื่อราวรัชกาลที่ 4-5 ซึ่งได้รับแนวคิดการแต่งตัวจากทางตะวันตกยุควิคตอเรียเข้ามา...
รูแคุณยายท่าหนึ่ง ใส่โจงกระเบน ไม่สวมเสื้อ กินหมาก ผมทรงดอกกระทุ่ม โยกน้ำบาดาล รูปนี้ประมาณเกือบๆ 50 ปีมาแล้ว
แต่สมัยนี้อย่าอ้างกับคุณพ่อคุณแม่นะว่าจะขอย้อนยุค 555 เพราะคนสมัยนี้คิดเรื่องนี้ไม่เหมือนสมัยก่อนแล้ว...
ขอบคุณที่มา: FB: จับเข่าเล่าประวัติศาสตร์