การประหารด้วย ‘หน่อไม้’ ต้นไผ่มรณะที่ทำให้นักโทษแดนมังกรลิ้มรสแห่งความตายอย่างช้าๆ นานนับสัปดาห์
การประหารชีวิตในสมัยโบราณนั้น
นอกจากจะเป็นโทษสูงสุด ที่ใช้ในการลงโทษ
ผู้ที่กระทำความผิดให้ได้ชดใช้ในสิ่งที่ตัวเองทำแล้ว
ยังมีจุดประสงค์เพื่อให้เกิดความทรมาน
ก่อนที่วิญญาณจะออกจากร่าง
เพื่อเตือนไม่ให้มีใครคิดที่จะเลียนแบบ
ดังนั้นเราจึงเห็นได้ว่าโทษประหารในโลกโบราณนั้น
มีแต่วิธีที่รุนแรงและน่ากลัวแทบจะทั้งนั้น
วิธีที่เรานำมาให้ชมกันในวันนี้ ก็เช่นกัน
มันเป็นวิธีที่มีความทรมานแบบสุดๆ
ตรงที่ กว่าจะเสียชีวิตก็ต้องทนไปจนเกือบเดือนกว่าจะขาดใจตาย
จะเป็นวิธีไหนนั้น เลื่อนลงไปชมพร้อมๆ กัน
ถือว่าเป็นการประหารที่เลือดเย็นแบบสุดๆ
ถ้าจะพูดถึงพืชที่โตไวที่สุดในโลก
ก็คงจะต้องตอบว่าเป็น “ไผ่” อย่างแน่นอน
ไผ่สามารถงอกได้ถึงวันละ 10 ซม.
ด้วยเหตุนี้มันจึงถูกนำมาใช้
ในการประหารชีวิตนักโทษประหารในประเทศจีน
การประหารด้วยวิธีนี้นั้นมีจุดเด่น (หรือจะเรียกว่า “จุดโหด” ก็ได้)
ตรงที่นักโทษจะได้ซึมซาบความทรมานอย่างช้าๆ จนกว่าจะขาดใจตาย
เริ่มต้นด้วยการนำนักโทษไปมัดกับหลัก หรือแคร่
ที่ทำมาเป็นพิเศษ เหนือหน่อไม้ที่แทงยอดขึ้นมาจากพื้นดิน
ความตายจะเริ่มเข้าใกล้นักโทษทุกวันๆ
เมื่อหน่อไม้พ้นดินขึ้นกลายเป็นไม้ไผ่ ปลายแหลมๆ
ก็จะค่อยๆ แทงเข้าไปในร่างของนักโทษที่ถูกมัดไว้
ลองนึกภาพตามว่าปลายแหลมๆ
ค่อยๆ แทรกตัวลงในเนื้ออย่างช้าๆ
จะต้องทรมานสักแค่ไหน ซึ่งกว่าต้นไม้จะทะลุร่างไปนั้น
นักโทษประหาร ก็จะร้องครวญคราง
เพราะส่วนใหญ่ที่ประหารด้วยวิธีนี้มันไม่ได้มีแค่ต้นเดียว
นักโทษที่ตายด้วยวิธีนี้นั้น
ก็จะถูกปล่อยคาไว้แบบนั้นจนเน่าเปื่อยกลายเป็นปุ๋ย
ซึ่งข้อดีของวิธีนี้ ก็คือถึงนักโทษจะถูกป้อนน้ำป้อนอาหารทุกวัน
เพื่อให้มีชีวิตรอดในการทรมานได้ทุกวัน
ส่วนใหญ่จะเสียชีวิตตั้งแต่หน่อไม้แทงทะลุ
เข้าไปตามอวัยวะที่สำคัญ ว่ากันว่า
คนที่อึดที่สุดนั้นทนได้ถึง 3 สัปดาห์เลยทีเดียว
วิธีนี้ไม่ได้มีใช้แค่ในโลกโบราณเพียงเท่านั้น
ยังมีเสียงร่ำลือกันว่าทหารญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ได้นำไปทดลองกับเชลยชาวจีน ในเมืองนานกิงเป็นจำนวนมาก
แต่ก็ยังเป็นที่ถกเถียงว่ามันคือเรื่องที่แต่งขึ้นเสียมากกว่า
เพื่อสร้างความเกลียดชังของคนจีนที่มีต่อคนญี่ปุ่นให้เพิ่มขึ้น.