หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ภาพเก่าหาดูยาก : แร้งประจำถิ่น ณ วัดสระเกศ เมื่อ คริสตศักราช 1905

โพสท์โดย dukedicknarak

        ย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1905 (พ.ศ. 2448) ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ภาพถ่ายเก่าแก่จากวัดสระเกศ ณ กรุงเทพมหานคร เผยให้เห็นภาพที่หาชมได้ยากในปัจจุบัน นั่นคือฝูงแร้งที่รอคอยการลงกินศพมนุษย์ ภาพนี้ถือเป็นหลักฐานสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงการมีอยู่ของแร้งประจำถิ่นในสยามในช่วงเวลานั้น โดยเฉพาะ "อีแร้งเทาหลังขาว" (White-rumped Vulture หรือ Gyps bengalensis) ซึ่งเคยเป็นแร้งที่พบได้มากที่สุดในภูมิภาคนี้

แร้งประจำถิ่นของกรุงเทพฯ และสยามในอดีต

        ในอดีต แร้งหลากหลายชนิดมีบทบาทในระบบนิเวศของเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ นอกเหนือจากอีแร้งเทาหลังขาวแล้ว ยังมีแร้งชนิดอื่น ๆ เช่น พญาแร้ง (Cinereous Vulture) และอีแร้งสีน้ำตาล (Himalayan Vulture) ซึ่งเคยพบได้ในปริมาณมากในสยาม โดยเฉพาะในบริเวณที่มีการจัดพิธีกรรมเกี่ยวกับการเผาศพหรือการจัดการกับศพในช่วงที่เกิดโรคระบาดหรือโรคเรื้อรัง

แร้งกับวัฒนธรรมการจัดการศพ

        ภาพถ่ายนี้บันทึกไว้ในช่วงที่แร้งนั่งรอคอยการกินศพของมนุษย์ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นศพที่เกิดจากโรคระบาดหรือโรคเรื้อรัง เนื่องจากสภาพของศพที่ผอมแห้ง นอกจากนี้ ระยะห่างระหว่างคนในภาพกับแร้งบ่งบอกถึงความเชื่องของแร้งต่อมนุษย์ ทำให้คาดการณ์ว่าบุคคลในภาพอาจเป็นสัปเหร่อที่มีหน้าที่จัดการศพในพิธีทางศาสนา

อย่างไรก็ตาม ไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่บ่งชี้ว่าชาวสยามในอดีตมีการฝังฟ้าหรือ “Sky Burial” ซึ่งเป็นพิธีการบริจาคศพให้แร้งกินเช่นเดียวกับที่ทำในประเทศทิเบต ที่แร้งสีน้ำตาลหิมาลัย (Himalayan Vulture) และแร้งดำหิมาลัย (Cinereous Vulture) มีบทบาทสำคัญในพิธีนี้

การหายไปของแร้งในกรุงเทพฯ

        ในปัจจุบัน แร้งประจำถิ่นที่เคยพบมากในกรุงเทพฯ กลายเป็นสิ่งที่หาดูได้ยาก เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม การพัฒนาของเมือง และการหายไปของแหล่งอาหาร ทำให้ประชากรแร้งลดลงอย่างรวดเร็ว ภาพถ่ายประวัติศาสตร์จากวัดสระเกศจึงถือเป็นหลักฐานที่มีคุณค่าในการศึกษาประวัติศาสตร์สัตว์ป่าของไทย และทำให้เราได้ย้อนกลับไปเห็นชีวิตของสัตว์ในเมืองหลวงเมื่อกว่าร้อยปีก่อน

        ภาพนี้จึงนับเป็นหนึ่งในบทบันทึกสำคัญของประวัติศาสตร์ ซึ่งสะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และธรรมชาติในช่วงเวลาหนึ่งที่ลืมเลือน

 

เครดิตภาพจาก หนังสือ La Vie Illustree ฉบับ 26 May 1905

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
dukedicknarak's profile


โพสท์โดย: dukedicknarak
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
15 VOTES (5/5 จาก 3 คน)
VOTED: เป็ดปักกิ่ง, somlove, ลิลลี่ ไมโครนอส
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
มีผู้เสียชีวิต 1,500 คน จากการประท้วง ขับไล่นายกกลาเทศ"ดราม่า Miss Universe 2024: โอปอล สุชาตา รองอันดับ 3 ได้เงินรางวัลแค่ 35,000 บาท!เลขเด็ดแม่จำเนียรงวดนี้ 16/11/67 คอหวยตามด่วน!เรื่องของการ “ผายลม” หรือ “ตด” เรื่องน่ารู้เมื่อคุณ “ตด” และ ตดสามารถบอกโรคได้เศร้าสะเทือนวงการบันเทิงไทย: การจากไปของ ‘อุ้ม พรรษวุฒิ เมทะนี’ ลูกชายพระเอกตลอดกาลคนมันจะนอกใจ อยู่ด้วยกันยังไงก็นอกใจ"ฮาไม่ไหว! ปู่สุดหล่อสมัยหนุ่ม ไวรัลหลังหลานย้อมผมผิดสี หวิดโดนไล่จากบ้าน""แมท-ไมกี้" หวานน้ำตาลพุ่ง เสิร์ฟรักร้อนๆ ถึงเตียงราคาหัวหอมในอินเดียพุ่งสูง จนคนหลั่งน้ำตาขับรถลงทะเลสาบ เพราะคิดว่าเป็นถนนที่มีน้ำท่วม โชคดีคนเรือช่วยเหลือได้ทันท่วงที"ไบเดน" อนุมัติยูเครนใช้ขีปนาวุธมะกัน ถล่มรัสเซียรมว.สาธารณสุขเตือนคนไทยเปลี่ยนพฤติกรรม หลังป่วยเบาเกินครึ่งล้าน
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
"ดราม่า Miss Universe 2024: โอปอล สุชาตา รองอันดับ 3 ได้เงินรางวัลแค่ 35,000 บาท!คำตอบหวานจับใจ เดนมาร์ก คว้ามงแรก Miss Universe 2024👑เรื่องของการ “ผายลม” หรือ “ตด” เรื่องน่ารู้เมื่อคุณ “ตด” และ ตดสามารถบอกโรคได้"แมท-ไมกี้" หวานน้ำตาลพุ่ง เสิร์ฟรักร้อนๆ ถึงเตียง
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
จริงหรือไม่!! พิซซ่าป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมากได้ทำไมพระราชธิดาทั้ง 21 คนของจักรพรรดิคังซีถึงรอดชีวิตเพียง 9 คนเท่านั้น?ประตูนรก : พื้นที่แห่งเปลวเพลิงแห่งความลึกลับที่เผาผลาญไม่สิ้นสุด ที่เดียวในโลก ณ ตอนนี้เบื่อเสียงไลน์รบกวน? ง่ายนิดเดียว! ปิดเสียงแจ้งเตือน LINE บนมือถือแบบชั่วคราวได้ด้วยตัวเอง
ตั้งกระทู้ใหม่