รู้หรือไม่? ต้นกำเนิดที่แท้จริงของ "งานแต่งงาน" มาจากอะไร และทำไมต้องมีเพื่อนเจ้าสาว ??
ทุกวันนี้การแต่งงานถือเป็นธรรมเนียมอย่างหนึ่งของมนุษย์ทุกชนชาติ ที่จัดขึ้นเพื่อประกาศให้รู้ว่าคนสองคนจะเริ่มต้นชีวิตคู่ด้วยกัน แต่เราเคยสงสัยมั้ยว่าแท้จริงแล้ว วัฒนธรรมการแต่งงานนั้นมีต้นกำเนิดอย่างไร และทำไมต้องมีองค์ประกอบต่างๆ ในการทำพิธี? คำตอบอยู่ข้างล่างนี้แล้วค่ะ
1. ต้นกำเนิดของเพื่อนเจ้าสาว
เพื่อนเจ้าสาวคือเพื่อนที่ดีที่สุดของเจ้าสาว พวกเขาจะคอยอยู่เคียงข้างคุณ คอยสนับสนุนคุณทุกอย่าง ไม่ว่าจะเจอเรื่องทุกข์หรือสุข เดิมนั้นเพื่อนเจ้าสาวต้องแต่งตัวให้คล้ายเจ้าสาวมากที่สุดเพื่อเป็นการหลอกตาวิญญาณชั่วที่จะมาทำให้คู่รักมีปัญหากันในอนาคต และวิธีนี้แหละที่ทำให้วิญญาณชั่วสับสนได้อย่างง่ายดาย
ในจักรวรรดิโรมัน เมื่อเจ้าสาวต้องเดินทางไปยังเมืองอื่นหรือหมู่บ้านที่เจ้าบ่าวอยู่ เพื่อเจ้าสาวก็ต้องเดินทางไปพร้อมกัน เพ่ื่อความปลอดภัยของเจ้าสาวจากการโจมตีและการถูกลักพาตัว
ในภาพนี้รู้มั้ยใครเป็นเจ้าสาว? ถ้าคุณสับสน ซาตานก็สับสนเช่นกัน
2. ต้นกำเนิดของเพื่อนเจ้าบ่าว
ในบางวัฒนธรรม เจ้าบ่าวจะมีการลักพาตัวหรือขโมยเจ้าสาวของตัว (ในกรณีที่ครอบครัวไม่เห็นด้วยหรือเจ้าสาวไม่เต็มใจ) ดังนั้นในอดีต เพื่อนเจ้าบ่าวต้องเป็นคนที่มีความแข็งแกร่งและมีทักษะในการต่อสู้ เพื่อช่วยเจ้าบ่าวในการปกป้องเจ้าสาวจากการถูกลักพาตัวหรือหลบหนี เพื่อนเจ้าบ่าวจะยืนข้างๆ เจ้าบ่าว เพื่อให้แน่ใจว่าเจ้าสาวจะไม่หนีไประหว่างทำพิธีแต่งงาน
3. ต้นกำเนิดของชุดสีขาว
ทุกวันนี้เราเชื่อว่ากันว่าชุดสีขาวนั้นเป็นส้ัญลักษณ์ความบริสุทธิ์ของผู้หญิง แต่จริงๆ แล้ว ชุดแต่งงานสีขาวนั้นเพิ่งจะถูกนำมาใช้ในภายหลัง ก่อนกลางทศวรรษที่ 1800 เจ้าสาวจะสวมชุดแต่งงานแบบดั้งเดิมคือ เป็นชุดสีแดง ซึ่งปัจจุบันนี้พบว่าก็ยังมีการใส่ชุดแต่งในงานแต่งทั่วโลก
แล้วทำไมต้องเป็นชุดแต่งงานสีขาว?
Queen Victoria เป็นเจ้าสาวคนแรกที่ตัดสินใจสวมชุดสีขาวในระหว่างพิธีแต่งงานกับเจ้าชาย Albert เพราะเธอชอบสีขาว ตอนแรกการใส่ชุดสีขาวนั้นทำให้ผู้คนประหลาดใจไม่น้อยเลย แต่ภายใน 20 ปี ต่อมา ชุดสีขาวก็เลยเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะคนรวย พวกเขาจะเลือกใส่ชุดสีขาวเพื่อแสดงถึงความมั่งคั่งของตนเอง
ในศตวรรษที่ 18 และ 19 ผู้คนเริ่มตระหนักว่าชัดสีขาวนั้นเปื้อนง่าย และต้องซักด้วยมือเท่านั้นเพื่อถนอมเนื้อผ้า แน่นอนว่าคนรวยไม่ชอบการซักผ้าหรอก ด้วยเหตุนี้ผู้คนจึงคิดว่าคุณสามารถสวมชุดแต่งงานสีอะไรก็ได้ที่อยากใส่ อย่างไรก็ตาม Victoria ผู้ริเริ่มชุดแต่งงานสีขาว ก็ทำให้ค่านิยมนี้อยู่ได้นานกว่า 180 ปี เลยทีเดียว
4. ต้นกำเนิดของช่อดอกไม้เจ้าสาว
เจ้าสาวในยุคกรีกโบราณจะถือดอกไม้ที่มีใบสะระแหน่และดอกดาวเรือง ซึ่งหมายถึงยาหรือสารกระตุ้นความต้องการทางเพศ ผู้คนสมัยนั้นกลัวความชั่วร้ายมาก ดังนั้นจึงเลือกใช้พืชสมุนไพร เพราะเชื่อว่ามันช่วยปัดเป่าความชั่วร้ายเหล่านั้นได้
5. ต้นกำเนิดของผ้าคลุมหน้าเจ้าสาว
ตามความเชื่อของบรรพบุรุษที่มีความกลัวต่อวิญญาณชั่วนั้น นำมาซึ่งการใช้ผ้าคลุมหน้าเจ้าสาว… เดิมเจ้าสาวจะสวมผ้าคลุมหน้าเพื่อป้องกันตัวจากวิญญาณร้าย และเป็นการแสดงถึงการถ่อมเนื้อถ่อมตัวของเจ้าสาวเองด้วย
ในกรีซ ผ้าคลุมหน้าจะเป็นสีเหลือง ในขณะที่โรมมักนิยมใช้สีแดง อย่างไรก็ตามทั้งสองสีก็มีความหมายเหมือนกันคือ ปัดเป่าวิญญาณชั่วร้าย แต่มีบางวัฒนธรรมที่ใช้ผ้าคลุมหน้าเพื่อซ่อนเอกลักษณ์ของเจ้าสาวจากเจ้าบ่าวในระหว่างพิธีแต่งงาน
6. ต้นกำเนิดของการฮันนีมูน
บางคนบอกว่า วันหลังจากแต่งงาน จะมีการลักพาตัวเจ้าสาว ดัังนั้นสามีจึงต้องพาเจ้าสาวไปซ่อนตัวอย่างน้อย 1 เดือน และต้องคอยปกป้องเธอจากภัยต่างๆ
7. ต้นกำเนิดของแหวนแต่งงาน
แหวนแต่งงานมีต้นกำเนิดที่ค่อนข้างจะน่าขนลุกเล็กน้อย… ความสำคัญของนิ้วที่สี่หรือนิ้วนางนั้น เชื่อกันว่าเป็นเพราะมันมีหลอดเลือดดำที่นำไปสู่หัวใจ ในภาษาละตินเรียกว่า 「vena amoris」 ซึ่งหมายถึงหลอดเลือดดำแห่งความรัก
แหวนแต่งงานของเจ้าสาวยังหมายถึงการเป็นเจ้าของ
ในช่วงต้นของวัฒนธรรมโรมัน กรีกและยิว แหวนถือเป็นสินสอดที่เจ้าบ่าวต้องให้แก่บิดาของเจ้าสาว ซึ่งเปรียบเสมือนการซื้อตัวหรือหลักประกัน ต่อมา ได้มีการพัฒนาเป็นการแลกแหวนระหว่างเจ้าบ่าวกับเจ้าสาว ซึ่งเป็นผลมาจากความก้าวหน้าของลัทธิสตรีในยุคนั้นนั่นเอง
8. ต้นกำเนิดของการให้พ่อเจ้าสาวเดินส่งเจ้าสาวเข้าพิธี
ธรรมเนียมนี้เกิดขึ้นเมื่อผู้คนมีแนวคิดว่า ผู้หญิงเป็นสมบัติของผู้ชาย ดังนั้นพ่อเจ้าสาวจึงต้องเดินไปส่งลูกสาวและส่งมอบให้เป็นกรรมสิทธิ์ของสามีเธอ
9. ต้นกำเนิดของการพบกันครั้งแรก
ก่อนการแต่งงาน เจ้าบ่าวและเจ้าสาวต้องไม่เห็นกัน เพราะเชื่อว่าหากให้พวกเขาเจอกันหรืออยู่ด้วยกันบ่อยๆ ก่อนการแต่งงาน จะมีโอกาสทำให้พวกยกเลิกการแต่งงานก่อนถึงเวลาได้
10. ต้นกำเนิดของการอุ้มเจ้าสาวเข้าเรือนหอ
การอุ้มเจ้าสาวเข้าเรือนหอนั้น มันเป็นการแสดงที่ทำให้ดูเหมือนว่าเจ้าสาวไม่อยากออกจากบ้านพ่อแม่ ดังนั้นเจ้าบ่าวจึงต้องบังคับด้วยการอุ้มเข้าเรือนหอ
แต่ในขณะเดียวกันก็อาจเป็นได้ว่า การอุ้มเจ้าสาวเข้าเรือหอนั้นก็เพื่อป้องกันไม่ให้วิญญาณชั่วเข้าสู่ร่างกายของเธอผ่านทางฝ่าเท้า
11. ต้นกำเนิดของการจุมพิต
ครั้งหนึ่งการจุมพิตนั้นเคยเป็นประเพณีสำหรับผู้ทำพิธี โดยหลังจากทำพิธีแต่งงานแล้วผู้ทำพิธีจะมอบ 「จูบแห่งสันติภาพ」 แก่เจ้าบ่าว จากนั้นก็ให้เจ้าบ่าวจูบเจ้าสาว
นี่แหละต้นกำเนิดของการแต่งงาน
The Bizarre But True Origins Of Wedding Traditions