(เรื่องสั้น) ผมไม่ทำงานให้คนชั่ว ตอน 1
1.
20.45 น. วันศุกร์ ที่ 18 มีนาคม 2560
ตึ๊ง! ตึ๊ง! เสียงข้อความจากแอปพลิเคชั่นไลน์ดังขึ้น ‘ศิโรจน์’ ชายหนุ่มวัย 30 ปี ค่อย ๆ ลุกขึ้นจากโซฟาในห้องเช่าสี่เหลี่ยมใจกลางกรุงเทพฯ
เขาเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนหลังตู้เย็น ก่อนเปิดอ่านข้อความของ ‘บงกช’ บรรณาธิการข่าว สถานีโทรทัศน์ เจบีวิชั่น ชั่วเสี้ยววินาทีความฉงนสนเท่ห์บังเกิดขึ้น
“โรจน์...
วันนี้คุณอรชุน เรียกพี่เข้าไปคุย เพราะเขาได้รับจดหมายขอบคุณจากองค์กรธรรมในใจ”
พร้อมแนบไฟล์หนังสือขอบคุณจากองค์กรธรรมในใจมาให้ศิโรจน์อ่าน ซึ่งเป็นข้อความกล่าวขอบคุณในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข่าว ทว่าไม่ทันที่เขาจะเปิดหนังสือฉบับนั้นอ่านให้ถ้วนถี่ ข้อความจากบงกชเด้งเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
“คุณอรชุนว่ามันเป็นความผิดร้ายแรง ขอให้พิจารณาตัวเอง
ป๊าด! ร้ายแรงมาก
พี่บอกว่า พี่ลาพักร้อนไป บริษัทไม่ได้เสียเงินเบี้ยเลี้ยงและคุณกนกวรรณ บรรณาธิการบริหาร ก็รับทราบ
แต่ความผิด คือ พี่เอาสกู๊ปมาออกอากาศ”
ศิโรจน์ได้แต่ตั้งคำถามในใจ เพียงแค่นำสกู๊ปมาออกอากาศ ถึงขั้นต้องให้บงกชพิจารณาตัวเองเชียวหรือ เพราะเหตุใดอรชุนจึงใช้อำนาจแบบนี้
ทั้งที่ความจริงแล้ว คุณกนกวรรณ มิใช่รึที่อนุญาตให้บงกชเดินทางไปทำข่าวกับองค์กรธรรมในใจ ณ ประเทศอินเดีย
ศิโรจน์มั่นใจเหลือเกินว่าเขาจำได้...จำได้ว่า ก่อนหน้าที่บงกชจะเดินทางไป หล่อนกระซิบกับเขาว่า คุณกนกวรรณอนุญาตให้ใช้วันลาไป และหล่อนยังได้แจ้งคุณกนกวรรณอีกว่า สามีจะเดินทางร่วมไปด้วย ในฐานะช่างภาพถ่ายทำสกู๊ป เพราะหากใช้ช่างภาพของเจบีวิชั่น จะต้องเสียค่าเบี้ยเลี้ยง ซึ่งอาจเปลืองงบประมาณขององค์กร
“แล้วพี่จะทำยังไงต่อไป” ศิโรจน์พิมพ์ข้อความถามกลับไป
ไม่ถึงครึ่งวินาทีอีกฝ่ายก็พิมพ์อธิบายมาอย่างยาวเหยียด ศิโรจน์ค่อย ๆ ไล่อ่านทีละข้อความด้วยสีหน้าครุ่นคิดและกังวล
“เดี๋ยววันจันทร์พี่จะเข้าไปคุยกับคุณประภาส” บงกชหมายถึงประภาส บวรพจน์ ประธานกรรมการบริษัท เจบีวิชั่น จำกัด
“พี่จะไปหารือเรื่องกฎหมายกับกระทรวงแรงงานด้วย
แต่พี่งงตรงที่คุณอรชุนบอกว่า เป็นความผิดวินัยร้ายแรง ทั้งที่คุณกนกวรรณ อนุญาตให้พี่ไป
พอพี่ถามคุณกนกวรรณ กลับบอกว่า ไม่เคยพูดว่าให้ไป
โรจน์เชื่อมั้ย พี่มึนเลย พยายามคิดทบทวน ถ้าคุณอรชุนกับคุณกนกวรรณไม่เซ็นในใบลาที่เขียนชัดเจนว่า ไปร่วมทำสกู๊ปข่าวที่ประเทศอินเดีย ถามหน่อยพี่จะไปได้มั้ย”
ศิโรจน์อ่านมาถึงข้อความนี้ เขางงงันกับข้อหาความผิดที่อรชุนเอ่ยอ้างกับบงกชเหลือเกิน และวินาทีนั้นคิดเพียงว่า อาจเป็นเกมกำจัดคนที่กระด้างกระเดื่องออกไปก็ได้
หากบงกชออกจากเจบีวิชั่นแล้ว เท่ากับว่าสถานีข่าวแห่งนี้จะไม่เหลือบรรณาธิการข่าวแม้แต่คนเดียว
ก่อนหน้านี้อรชุนไล่ออกพนักงานนับสิบคนในกองบรรณาธิการข่าวออกไปจนเกือบหมด ด้วยเหตุผลที่ว่า ไม่มีผลงาน
ทั้งที่หลายคนภักดีทำงานให้แก่เจบีวิชั่นมานาน ทว่า แท้จริงแล้ว เหตุผลเพราะหล่อนไม่ชอบก็เท่านั้น จึงใช้อำนาจที่มีอยู่ ในฐานะผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ ‘ไล่ออก’
พนักงานคนใดขัดแข้งขัดขา ไม่เออออห่อหมก พนักงานคนนั้นจะต้องกระเด็นออกจากเจบีวิชั่นทันที และบงกช คือ เหยื่อรายล่าสุด
ติดตามต่อพรุ่งนี้