5 เรื่องน่ารู้ เกี่ยวกับงานแต่งงาน ที่สาวๆอาจจะยังไม่รู้
https://khowoat.wordpress.com/2017/08/13/10-เรื่องน่ารู้-เกี่ยวกับ/
สวัสดีค่าาา ถ้าพูดถึงเรื่องแต่งงาน จะมีสาวๆอยู่สองสามกลุ่ม เท่าที่ข้าวโอ๊ตเคยสัมผัสมา
* กลุ่มแรก กลุ่มที่ได้แต่งแน่ๆ และกะลังเตรียมงานแต่งอยู่ กลุ่มนี้พร้อมเสมอที่จะ พูดถึงเรื่องงานแต่งได้ตลอด ตั้งแต่จัดงานยังไง จัดที่ไหน ไปจนถึงเรื่องกระดาษเช็ดปากที่จะใช้ในงาน เรียกว่าถ้าไปคุยกะกลุ่มนี้เรื่องงานแต่งล่ะก็ นางจะเมาท์ไม่หยุดจนเพื่อนๆหลับไปเลยล่ะจ้า
* กลุ่มที่สอง เป็นกลุ่มที่กำลังลุ้นอยู่ว่าจะได้แต่งรึเปล่า ประมาณว่าแฟนตรูจะขอมั้ยน๊า หรือคบมาจนเด็กสก๊อยข้างบ้านมันมีผัวมีลูกไปก่อนแล้ว ยังไม่มาขอซะที กลุ่มนี้อ่อนไหวง่ายถ้าไปคุยเรื่องงานแต่งงาน ถ้าเผลอไปคุยด้วยเข้า อาจจะถูกลากเข้ามิติพิศวงที่เต็มไปด้วยความสับสน
* กลุ่มที่สาม กลุ่มที่ปล่อยวางแล้ว ประเภทที่ว่า หนูอย่าเพิ่งคุยเรื่องงานแต่งเลยนะจ๊ะ คุยเรื่องหาแฟนให้เจ้ก่อนละกัน ไปทีละขั้น
ไม่ว่าจะกลุ่มไหนก็ตาม ข้าวโอ๊ตก็อยากให้ทุกคยได้มีความสุขกับชีวิตคู่ในที่สุดนะคะ ระหว่างนี้ข้าวโอ๊ตเลยไปหาเกร็ดสนุกๆ เกี่ยวกับงานแต่งงานมาให้เพื่อนๆได้อ่านเล่นๆกัน
รู้หรือไม่คะว่า แหวนหมั้น หรือแหวนแต่งงาน ที่นิยมใส่กันที่นิ้วนางมือซ้ายนั้น ทำไมจึงเป็นอย่างนั้น ที่มาก็เพราะที่นิ้วนางมือซ้ายนั้น มีเส้นเลือด ที่ไหลตรงเข้าสู่หัวใจ มีชื่อด้วยนะคะ ชื่อว่า Vena Amoris หรือ Vein of love ซึ่งก็แปลว่า “เส้นเลือดแห่งความรัก” เพราะเป็นเส้นเลือดเส้นเดียวในมือทั้งสองข้างของเรา ที่วิ่งตรงเข้าสู่หัวใจนั่นเองค่ะ แหมมมซึ้งซะ ถ้าใครได้สวมแหวนหมั้น แหวนแต่งงาน อย่าลืมเล่าให้แฟนฟังนะคะ
การสวมชุดแต่งงานสีขาว ที่เราลองแล้วลองอีก และต้องลดความอ้วนแบบสู้ตายเพื่อให้ใส่ได้สวยๆเนี่ย เริ่มโดย สมเด็จพระราชินีนาถ วิคตอเรีย แห่งอังกฤษ เมื่อปี คศ. 1840 ก็ใส่กันมาตั้ง 177 ปีกันแล้วนะคะ ส่วนก่อนหน้านั้น เจ้าสาวแค่ใส่ชุดที่ดีที่สุดของตัวเองก็พอ
ส่วนเค้กแต่งงาน ที่บ้านเรามีออปชั่นให้เลือกตั้งแต่ ห้าชั้น เจ็ดชั้น ยัน สิบสองชั้น นั้น แถมยังแย่งกะเจ้าบ่าว ว่าใครจะจับมีดตรงไหน เพื่อสำแดงอำนาจในบ้าน จริงๆมีจุดเริ่มมาตั้งแต่สมัยโรมัน นู่นแน่ะค่ะ แถมมาจากการที่แขกที่มาร่วมงาน เอาขนมปังโปะลงบนหัวเจ้าสาว นัยว่าเพื่อให้มีลูกดกซะงั้น
เคยได้ยินไหมคะว่า “การแต่งงานคือการผูกมัด” หมายถึงการที่คนสองคนผูกใจไว้ด้วยกัน อยู่ด้วยกันตลอดชีวิต แต่ในหลายๆประเพณี โดยเฉพาะในงานแต่งงาน ของชาวฮินดู หรืออียิปต์ เจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะถูก ‘มัด’ มือเอาไว้ด้วยกันจริงๆ ถ้าเป็นบ้านเราคงจะไม่จำเป็น เพราะในงานแต่ง เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวก็จับมือกันไว้ตลอด เผื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งวิ่งหนีไป เอ๊ะ…ไม่ใช่
กำเนิดของ Honeymoon ไม่ใช่การไปเที่ยวแบบโรแมนติคกันสองต่อสอง เหมือนสมัยนี้นะคะแต่มีกำเนิดมาจากประเพณีของชาวนอร์ส Norse (กลุ่มชาวสแกนดิเนเวีย) ในสมัยโบราณ ที่หนุ่มจากหมู่บ้านหนึ่ง จะไปลักพาตัวสาวจากอีกหมู่บ้านเพื่อมาเป็นเจ้าสาว ดังนั้นจึงต้อง ‘ซ่อน’ ตัวเจ้าสาวที่ลักพามาไว้สักพัก เพื่อนๆของหนุ่มนั้น ก็จะเอา ‘น้ำผึ้ง’ มาให้เป็นเสบียง และโดยส่วนใหญ่ การทำอย่างนี้ มักจะเก็บตัวเจ้าสาวไว้หนึ่งเดือนพอดี(หนึ่งรอบพระจันทร์) ส่วนทำไมหลังหนึ่งเดือนแล้วจึงอยู่ต่อกันไปได้ ก็คงเป็นเพราะเจ้าสาวคงท้องพอดีมั้ง แต่ถ้าเป็นบ้านเรา ไปทำแบบนี้เข้า เจ้าบ่าวอาจได้กินลูกปืนแทนน้ำผึ้งนะคะ
ที่มา: http://bride.com