update ผู้หญิงคนเดิม ที่เพิ่มเติมคือสิ่งที่เธอเรียกร้อง (update จะสีน้ำเงินนะ)
อันนี้คือแรกเริ่มจ้าาา...(ถ้าใครอ่านแล้ว เลื่อนข้ามไปอ่านเรื่องราว update ได้เลย)
อ้างอิงจากเรื่องจริง...
ขออภัยถ้ายาวไปและอาจจะทำให้งง ในการเรียบเรียง...
ก่อนเล่าเรื่องเพื่อขอความคิดเห็นหรือข้อสรุปของเรื่อง
ขอเล่าถึงตัวละครก่อนนะครับ
ครอบครัว ช ประกอบด้วย ช และ แม่
ครอบครัว ญ ประกอบด้วย ญ น้องชาย และ พ่อ
ซึ่งทั้งสองครอบครัวนี้ ช+ญ เป็นแฟนกัน
ฝ่าย ญ ชวนฝ่ายชายไปเที่ยวบ้าน ในช่วงวันหยุดสงกรานต์
หลังจากฝ่าย ช เคยปฏิเสธไปรอบนึง ช่วงปีใหม่ ด้วยเหตุเรื่องการเงิน ซึ่ง พอไม่ไป ณ ตอนนั้น ญ ก็งอน ก็นอยด์ ช สักพัก
แต่พอถูกชวนครั้งนี้ แถมยังบอกประมาณว่า ถ้าจะคบกันหรือแต่งงานกัน ไปหาบ้านแฟน เพียงครั้งเดียวไม่พอหรอกนะ ฝ่าย ช
ก็เลยตอบตกลง ชวน แม่ ไปเที่ยวบ้านสงกรานต์ที่บ้านฝ่าย ญ ( แม้ก่อนไปก็ได้บอกแล้วว่า สภาพการเงินไม่โอเท่าไหร่นะ
ฝ่าย ญ ก็บอกว่า ไม่เป็นไร กดมาสัก 500 ก็ได้)
ฝ่าย ช จึงกด 500 และแม่ของฝ่าย ช ก็กดเพิ่มกันเหนียว อีก 500 บาท
พอไปถึงบ้าน ญ
ก็ชักชวนกันไปซื้อกับข้าว เพื่อมาทำบุญในช่วงสงการนต์
พอตอนเลือกๆๆ สินค้า ก็ยังดีๆ (อารมณ์) และมีเล่นมุสนุกสนานตามปกติ
แต่พอดูๆราคา ยอดราวๆ จะ 2700 ก่าๆ
ซึ่งฝ่าย ช ก็บอกว่า เงินสมทบหรือแชร์ค่ากับข้าว ไม่พอนะ แต่ก็ช่วยสมทบไป 1000 (เงินของ ช รวมกับ แม่ฝ่าย ช)
คือสรุป ณ ตอนนี้ ฝ่าย ช ไม่มีงบใช้จ่ายในวันอื่นๆละ
ก็เกิดประโยคเหน็บแหนม จาก ญ ว่า
" แหมๆ ทีซื้อของเข้าร้าน( หมายถึงเอามาขายน่ะ) ทีละ 2000-3000 ยังซื้อกันได้เลย พอช่วยจ่ายค่ากับข้าวแค่นี้
ช่วยแค่ 1000 ??? เองหรอ
ซึ่งความรู้สึกจากคำพูดนี้ ฝ่าย ช ไม่ได้คิดไรมาก เพราะมองว่า อาจจะพูดเล่น แต่มันสะกิดทำให้แม่ฝ่าย ช ถึงขนาดเก็บไป
คิดมาก (โดยไม่รู้ว่าจริงหรือเท็จหรือมุข) แต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากหรือโวยวายแต้อย่างใด // การซื้อของรอบนั้นก็กลายเป็นฝ่าย
ญ ออกเองทั้งหมด
ส่วนวันอื่นๆ ทีนอกเหนือจากการทำบุญ ฝ่าย ญ ก็ให้ น้องชายขับรถยนต์พาไปเที่ยวที่ต่างๆ โดยฝ่าย ช ขอถ่ายรูปคู่ด้วย
แต่ก็โดนปฏิเสธ พร้อมให้ เหตุผลว่าที่ที่นีั้เคยมามาแล้ว เคยถ่ายรูปแล้ว ไรแบบนี้
(ซึ่งตลอดการเดินทาง ในแต่ละวัน ค่าอาหารแต่ละมื้อ ค่าน้ำมัน ก็จะออกค่าใช้จ่าย โดย ฝ่าย ญ )
จึงทำให้ ช ถ่ายรูปกับ แม่ ซะส่วนใหญ่ ...ก็เลยทำให้ ช ไม่พอใจ ทั้งที่ก่อนมาฯ ก็ตกลงว่าถ่ายได้ๆๆแต่พอไม่ถ่าย ฝ่าย ช ก็เลยงอนและนอยด์บ้าง
จนถึงขั้นฉุนเฉียว และ จะขอกลับบ้านเลย ณ เด๋วนั้น เลยเอาแม่ฝ่าย ช ก็งงๆเหมือนกัน
แต่ก็ยอมจัดข้าวของใส่กระเป๋าเพื่อเตรียมกลับ แต่ด้วยเวลา ณ ตอนนั้นทำให้ รถประจำทาง หมดแล้ว จึงทำให้เหมือน ญ และน้องชายตัวเอง ขับรถ
มาส่งครอบครัวฝ่าย ช ไปๆมาๆ เพราะพอไปแล้วไม่มีรถกลับ ก็ต้องพาไปนอนที่บ้าน ฝ่าย ญ อีกรอบ
รวมทั้งก่อนไป ก็ได้แวะกดเงิน เพื่อให้ฝ่ายหญิง โดย ตอนแรกก็บอกว่า เพื่อสมทบค่าใช้จ่ายช่วงที่มาอยู่บ้าน ญ (ประมาณว่า
ช่วยสมทบค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าน้ำมัน ค่ารถยนต์ ที่ฝ่ายหญิง พาไปเที่ยวนู้นนี่นั่น)
ซึ่งคราวนี้ พอกลับมาถึงบ้าน ฝ่าย ญ ก็จะโดน พ่อของฝ่าย ญ ตัดพ้อว่า นึกจะไปก็ไป ก็บอกแล้วว่าเที่ยวรถมันหมดแล้ว ยังจะ
ฝืนไปอีก ไว้กลับพร้อม
ลูกตัวเอง วันรุ่งขึ้นก็ไม่ได้หรือไง...แล้วอย่างนี้หรอ ที่จะฝากชีวิตหรืออยู่ด้วยกันตลอดชีวิต ถามใครว่าเพราะอะไร ถึงรีบกลับ
ปุ๊ปปั๊ป ก็ไม่มีใครบอกเลย ...ฯลฯ
ณ คืนนั้น ฝ่าย ช และแม่ ก็เลยโดยการ นอนกับพื้น(แผ่นกระดาน) เปล่าๆ ไม่มีเสื่อ ไม่มีหมอน ไม่มีผ้าห้ม ไม่มีพัดลม รวมทั้ง ไม่ยอมทานมื้อเย็น
โดย ทั้งน้องชายและ ญ ถามว่าทำไมต้องทำแบบนี้
ฝ่าย ช เลยให้เหตุผลว่า ไม่อยากให้เป็นภาระมากขึ้นกว่าเดิม
=====================
ก็เกิดทะเลาะกันค่อนข้างใหญ่โต
ระหว่าง แม่ ฝ่าย ช และ น้องชาย และ ญ
ญ : ทำไมต้องเอาเงินมาให้ด้วย บอกแล้วว่าไม่ต้องๆๆ
ช : เอาเหอะ จะได้ไม่ต้องอึดอัดกว่านี้
น้องชาย : อึกอัดไรหรอคับ
แม่ : ก็จะได้ไมต้องโดนดูถูกอีกไง พอไม่ช่วยออกไร ก็ทำสีหน้าไม่พอใจอย่างชัดเจน อย่างตอนซื้อกับข้าวมาทำ พอบอกว่า มีงบช่วยแค่ 1000
ก็ไม่ฟัง หลังจากซื้อเสร็จ ท่าที ญ ก็เปลี่ยนไป
น้องชาย : (เหมือนไม่เชือ่) จะพูดว่า แม่ ฝ่าย ญ พูดเองเออเองหรือ ตอ.... ก็ตอบไปว่า ผมรู้นิสัยพี่สาวผมดี ไม่พูดแบบนั้นแน่ๆ
จิงไหม พี่
ญ : หนูพูดแบบนั้นจริงๆหรอค่ะ ???
แม่ : อ้าว เราพูดเองแท้ๆ จำไม่ได้หรอ
ญ : ทำไม แม่คิดไปได้ไกลแบบนี้ละ ....หนูว่าหนูไม่ได้พูด
น้องชาย : พี่ ช พี่เชื่อใคร
ช : พี่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ พี่ขอไม่ตอบ
น้องชาย : ก็บอกว่า เชื่อแม่ เข้าข้างแม่ก็หมดเรื่องแล้วว่ะ
(ซึ่งตลอดการทะเลาะ ช พยายามยุติ หรือให้หยุดๆๆ แต่ ทั้ง น้องชายและ ญ บอกว่า ขอฟังเหตุผลจากแม่ก่อน เพราะจะหมายหัวหรือคอยจะเข้าใจ
ว่า ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องขอกลับบ้านปุ๊ปปั๊ปหรือเรื่องจ่ายเงินสมทบให้ หรือเรื่องนอนแบบไม่มีผ้าปู เสื่อและอื่นๆที่กล่าวมา
แม่เป็นคนบอก ช ให้ทำทั้งหมด)
น้องชาย : คิดว่าจะเอาเงินมาฟาดหัวพวกเราหรือคับ อย่าคิดว่าเงินจะตัดสินทุกอย่างนะ บางทีเงินก็ไมจำเป็นสำหรับทุกสิ่ง
งั้นผมขอถามหน่อยสิ ว่าทำไมต้องกลับปุ๊ปปั๊ป
ช : ก็ตอบเลี่ยงๆไปว่า อยากกลับไวขึ้นก็แค่นั้น แต่ไม่ได้อธิบายเหตุผลว่า ไปบ้านแฟน ไม่อยากเป็นฝ่ายรับอย่างเดียว อันไหนพอช่วยได้ก็จะช่วย
หลังจากค่าน้ำมัน ค่าอาหารการกินก็แทบไม่ได้ออก ....ก็นึกๆ เหมือนกัน ว่าทำไมไม่บอกเหตุผลนี้ไปนะ
(หลังจากนั้น ก็ทะเลาะกันยกใหญ่ สักระยะ)
จนท้ายที่สุด น้องชาย ฝ่าย ญ เหลืออด ทำท่าทีเหมือนจะ ทำร้ายหรือใช้กำลัง ทำร้ายแม่ฝ่าย ช แต่ ญ ห้ามไว้ก่อน เป็นอันยุติการทะเลาะ
พอตลอดการนอน
ฝ่าย ญ พอพยายาม เอาข้าวใส่จานมาให้ทาน บ้าง หาเสื่อ หาพัดลมมาติดตั้งให้บ้าง แต่ ฝ่าย ช ก็ปฏิเสธแล้วเอาออกไปจากห้อง โดยให้เหตุผลว่า
ไม่อยากเป็นภาระเพิ่มขึ้น แม้ ญ จะบอกว่า ขอเชิญ ช มาเคลียร์ข้างนอกโดยที่ไม่มีแม่อยู่ได้ไหม
ช : เคลียร์ตั้งแต่เมื่อกี้หมดละ
ญ : อืม ถ้าเชื่อแม่ ฟังแม่ ก็ไปอยู่กับแม่เลยละกัน เพราะถ้าอยู่กับเขา ก็ต้องฟังเขาคนเดียว ?? (เพราะภูมิหลังของบ้านนี้ จุดสิ่งอย่าง ทั้งพ่อและน้อง
ชายจะขึ้นอยู่กับ ญ คนเดียว ไม่ว่าจะเรื่องไรในบ้าน)
จนตลอดการนอน....ฝ่าย ช กับแม่ ก็นอนแบบร้อนๆ พื้นแข็งๆ และท้ายที่สุดก็นอนไม่หลับ
จนเช้ามืด
ฝ่ายช และ แม่ก็รีบออกเดินทางไปแต่เช้ามืด ก็ไปร่ำลา พ่อของฝ่าย ญ ที่ ณ ตอนนั้นกำลังเตรียมหุงข้าวให้ทานก่อนเดินทางกลับ ก็งงๆเหมือนกัน ที่
เดินทางไปแบบรีบร้อนอีก แต่ก็ได้บอกกล่าวแค่ว่า เด๋วให้ ลูกชายตัวเองไปส่ง แต่ ทั้ง ช และ แม่ บอกว่าไม่เป้นไร
ก็รีบเดินๆๆๆออกไปทางฝั่ง น้องชาย ญ ก็รีบร้อนเอารถยนต์ไปรับเพื่อจะไปส่งที่รอรถ ซึ่งระยะทางระหว่างบ้าน ญ กับที่จอด ไกลประมาณ 30 กิโลเมตรได้
แต่ก็ถูก แม่และ ช ปฏิเสธ พร้อมบอกว่า เกรงใจ ไปพักเหอะ พวกพี่มารบกวนเราหลายวันละ (พูดหลายรอบเหมือนกัน เพราะ น้องชาย ฝ่าย ญ ก็พยายามขี่ตามตื้อ) จนตอนหลัง ก็ย้อนไปรับ ญ มาช่วยพูด แต่ก็ปฏิเสธเหมือนเดิม แต่ทุกครั้งที่ให้ขี่ตาตื้อจะให้เหตุผลว่า " จะให้เขาโดนชาวบ้านว่า
หรือไง ที่ปล่อยให้เดินกลับเองน่ะ ไม่เคยเอ่ยเลยว่า จะเดินเหนื่อยหรืออะไร เพราะแถวบ้านนั้นและแวกนั้น รู้จักครอบครัวนี้เป็นอย่างดี เพราะพ่อของ
ญ เป็นมัคทายกที่วัดๆนึง) จน แม่และ ช เดินไปเรื่อยๆแล้วไปขอร้อง บ้านแถวนั้น ให้ช่วยไปส่ง





แต่ตลอดการส่ง
ทั้งน้องชาย และ ญ ก็ขับรถตามไปเรื่อยๆ ตลอดการเดินทาง
จนพอเห็นว่ามาถึงที่รอรถ ก็จึงขี่รถกลับบ้านไป
แหะๆ กว่าจะเรียบเรียงเล่าจนจบ
*****
...ล่าสุด ทุกวันนี้ยังมีโอกาสพูดคุยกัน แต่เฉพาะเพียงแค่ใน LINE เท่านั้น ยังมีเฟสบ้าง หรือ
ลดลิมิตที่สามารถ(อนุญาต)ให้โทรหา
ช่วงกลับบ้านได้ แต่ฝ่ายชายอาจจะยังไม่คุ้นชิน หลังจากเจอสองมาตรฐานใส่หลังจากเกิดเหตุ..(ช่วงสงกรานต์ปีที่แล้ว) ที่มักจะ
โดนห้ามเสมอๆ ว่าเวลากลับบ้าน ห้ามโทรหา..เพราะทางบ้าน ทั้งพ่อและน้องชายยังไม่รู้ว่าเราแอบคบ แอบคุยกันอยู่ (หลังจาก
ถูกห้ามจากพ่อและน้อง)
พอฝ่ายชายเงียบๆไปก็มักถูกติง หรือทักท้วง...สักพักก็กลับมาคุยกันใหม่ แต่ ส่วนใหญ่จะเป็นฝ่ายหญิงที่เริ่มบทสนทนาก่อน
จนล่าสุด ปีใหม่นี้
...ฝ่ายหญิงนัดแนะฝ่ายชาย ให้ไปที่พักของฝ่าย ญ (ลึกๆ ฝ่ายชายคิดว่าจะให้ไปทำไม )
ช : ไปทำไม
ญ : จะให้มาเอาของ เลิกงานหรือยัง
ช : ยัง ของไร ของกินหรือเปล่า ที่ถามเพราะไม่รู้จะเลิกงานเมื่อไหร่ เผื่อของเสียหรือบูด
( ณ ตอนนั้นฝ่ายชายที่ถาม เพราะลึกๆอยากจะตัด หรืออยากจะไม่ไป)
ญ : ไม่ใช่ของกิน ถ้าจะมาเมื่อไหร่ก็บอก จะได้ออกไปแขวนไว้หน้าห้อง
(สรุปคือ จะไม่ยอมอยู่รอเจอหน้า...นี่เอง ???)
พอสักพักไปเอาของ ตามที่ ญ นัดไว้ แขวนไว้
ปรากฎว่าเป็นของขวัญ 1 กล่อง (หลังจากก่อนไป บอกตามตรงว่าในใจ ช คิดว่าจะเป็นของที่ ช ให้ตลอดระยะเวลาที่คบๆกัน)
ลึกๆก็ลุ้นนะว่าของข้างในคืออะไร แต่ที่มาสะดุดคือการ์ด ที่ทำจากกระดาษในสมุดฉีกทั่วๆไป แล้วเขียนด้วยปากกาว่า
" ถึงแม้ ไม่ได้ให้ในฐานะแฟน แต่ก็อยากจะให้
และขอโทษสำหรับทุกสิ่งๆ ที่ผ่านมา...และขอให้เจอแต่สิ่งดีๆตลอดปี "




เชื่อไหมครับคุณผู้อ่านจากโพสจัง...
ว่า ณ ตอนนั้น ความอยากรู้อยากเห็น อยากทราบว่าของข้างในมันคืออะไร หมดไปทันที ...ก็เลยยังไม่แกะกล่อง
จนนานเข้า ทาง ญ ทักเข้ามาทางสื่อออนไลน์เหมือนเดิมว่า...
แกะกล่องหรือยัง ใส่ได้ไหมเสื้อน่ะ
จึงทำให้รู้เลยว่า ข้างในคือเสื้อ ก็ใส่ในช่วงปีใหม่และถ่ายให้ดู พุดคุย อวยพรตามปกติ โหยยยทำไมไม่ใจแข็งสักทีนะ ช เนี่ย
จนพูดคุยกัน (แม้จะคำพูดสรรพนามแทนตัว จะไม่ใช่แบบเดิม) นานๆเข้า จน ฝ่าย ช ก็อดใจอ่อนและเข้าข้างตัวเองอีกรอบ
ว่าน่าจะเหมือนเดิม ก็ถึงขั้นชวนไปทานมื้อเย็น หรอืไปไหนมาไหนให้เหมือนเดิมก่อนที่จะเกิดเรื่อง
แต่สิ่งที่ได้คำตอบคือ ญ ว่าง แต่ขอเลือกที่จะ อย่าพึ่งเจอกันเลย ขอดูแลกันและกัน ห่างๆแบบนี้ก็พอ
เพราะอยู่ใกล้กันก็อดทะเลาะไมไ่ด้ ??? เปิดช่องว่างให้กันและกันดีกว่า และถ้า ช จะมีคนอื่นต่อจากนี้ หรือ เงียบหายไปเหมือนแต่ก่อน ก็ได้นะ XX (ชื่อ ญ) ไม่ว่า เอิบบบ
จนฝ่ายชายพิมข้อความ(ยาวๆ) ใจความประมาณนี้ อีกรอบ
..... ถ้าคิดว่าการเจอหน้ากันแล้วจะทะเลาะ ขอให้เข้าใจซะใหม่นะ เพราะเรากำลังเข้าใจผิดประเด็นเหมือนตอนก่อน ที่บอกว่า ถ้าคุยเฟสก้อจะทะเลาะ ก็จะมีข้อความยืดยาวๆ จากฝ่าย ช เชิงนอยด์ เชิงงอน ....สู้มาคุยต่อหน้าไม่ได้ // ส่วนการจะว่าอะไรก็ขอให้มองดูตัวเองก่อนนะ ที่บอกว่าคนอื่น "ลูกแหง่" เชื่อแต่แม่ มันก็ซ้ำรอยเดิมที่เราเอามาอ้าง มาบอกพี่ ว่า พ่อไม่ให้คบกันหรือกลัวทางบ้านรู้ว่าเราคบกัน เพราะนั่นก็หมายถึงว่า เราก็เลือก "เชื่อฟัง" พ่อมากกว่าอื่นใด เหมือนกัน จริงไหมครับ ?? เอาเถอะ อย่างที่พี่บอกตอนต้น ว่าถ้ายืนยันหรือคิดว่า "เวลา" จะช่วยเยียวยาบาดแผลทางกายและทางใจได้ทุกสิ่ง พี่เองก็เคารพการตัดสินใจของเรา ของพ่อเรา และไม่เกี่ยวกับว่า ใครดีหรือไม่ดี เพราะคนทุกคน มันไม่ได้จะดี 100%หรือไม่ดี 100% แต่มันขึ้นอยู่กับว่า เราจะมองข้ามผ่าน จุดๆนั้นไปได้ไหมแค่นั้นมากกว่า ถ้าไม่ก็จมอยู่กับอดีตไปตลอด เป็นเงาตามตัวไปแบบนี้ // โปรดอ่านแล้วทำความเข้าใจด้วยสติ ไตร่ตรองดูดีๆ เพราะสิ่งเหล่านี้ ไม่ได้เอ่ยมาเพื่อจะชวนทะเลาะหรือจุดประเด็นกับเรื่องเก่าๆ เพราะอย่างที่เคยบอกแล้ว และจะบอกเป็นครั้งสุดท้ายว่า ทางพี่ ลืมและมองข้ามผ่านจุดๆนั้นไปแล้ว ที่เหลือจ๋าก็เลือกเอานะ ว่าจะจมกับอดีตกับเรื่องราวที่เรานอยด์ๆเมื่อตอนช่วงสงกรานต์ ไม่ว่าจะจากเหตุที่พี่ หรือเหตุที่พี่แม่ หรือเลือกที่จะอยู่กับคำสั่งของพ่อเรา ??
สุดท้ายนี้ พี่ก็ยืนยันว่าจะไม่ดึงดัน ดื้อรั้น หรือ เลือกที่จะ "ดูแลกันห่างๆ"อย่างที่เราบอกไว้ก็แล้วกัน
หลังจากนั้น ญ ก็เงียบไปสักระยะ ก็เข้ามาทักเหมือนเดิม (เง้อ คนแบบนี้ก็มีด้วย)
เหมือนไม่มีไรเกิดขึ้นหรือเหมือนไม่มีข้อความนั้นขึ้นมาอีก





ถึงขั้นโทรถามไถ่ เวลาฝนตก ว่า ช กลับบ้านยัง เชิงเป็นห่วง จิปาถะ...
ล่าสุดๆๆ ...


แม่ฝ่ายชายประสบอุบัติเหตุ ลื่นล้มในห้องน้ำ หัวแตก
ณ ตอนนั้น บอกตรงๆว่า ช เกือบจะทำตัวไรไม่ถูกจริงๆ
แต่ขอข้ามกระบวนการตรวจของหมอ...ไปนะคับคุรผู้อ่าน
แต่ปากหนัก มือหนักของฝ่ายชาย ที่อดพิมบอกรายงาน ญ ไม่ได้ ว่าแม่เกิดไรขึ้น
ก็จะมีข้อความถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง(ม้าง)ว่า
เป็นอย่างไรบ้าง เกิดไรขึ้น(ให้เล่า) หรือหมอตรวจเป็นไงบ้าง อาการดีขึ้นหรือยัง เป็นต้น
จนฝ่ายชาย พิมพ์ข้อความนี้กลับไป
....ถ้าว่างๆ ไม่ติดงาน ติดฝนตก จะมาเยี่ยมเยียนก็ไม่ว่านะ ไม่ถ่ายรุปขึ้นเฟสหรอกคับ (เพราะ ญ เคยบอกว่าไม่อยากให้ถ่ายรูปคู่
ขึ้นเฟสเพราะกลัวคนรู้จักจะไปบอกพ่อ)
และก็สูญเปล่า ไม่มาเยี่ยม




ฝ่ายชายพิมพ์ทักท้วงไปว่า
....ช่างเหอะ เลิกจะคาดหวังให้กลับมาเหมือนเดิมละ ขนาดเจ็บป่วยไข้ ยังเป็นแบบนี้
ไม่เป็นไร มันคงยังไม่ถึงเวลา หรือคง concept ที่ห่วงแค่ไกลๆแบบนี้...ซึ้งใจละ...
และ....
ถ้ามาเยื่ยมมาถามไถ่มันคงไม่รบกวนเวลาเราเข้างานหรือเวลาเราพักซะเท่าไหร่หรอกม้าง แต่ก็ช่างเหอะ ถ้าอยากจะห่วงแค่ในโลกออนไลน์หรือยังละอายที่ไม่พร้อมจะเจอหน้า ปั้นหน้าเข้าหากันก็ตามใจ
แต่พอ ญ อ่าน ก็ไม่มีทีท่าจะสำนึกหรือเข้าใจในสิ่งที่ ช จะสื่อ กลับพิมพ์
โต้ตอบกลับมาว่า






แล้วอาการแม่เป็นไงบ้างค่ะ...แบะๆๆๆ เชิงถามไถ่ (อีกละ)
อะไรกันเนี่ย ญ แบบนี้ก็มีแหะ..
.










เกิดวังวนซ้ำๆแบบนี้ตลอดเลย ....และหวังว่าจะไม่งงๆนะครับ




ปล. ทุกข้อความอ้างอิงจากเรื่องจริงทั้งสิ้น


























ประธานสมาคม ตามไปตำหนินักกีฬา ถึงกับร้องไห้โฮ ในซีเกมส์ครั้งที่ 33
สื่อมาเลย์ แฉยับ ทหารเขมรทิ้งขีปนาวุธให้ไทยยึดฟรี เพราะใช้ไม่เป็น ขายขี้หน้าทั้งประเทศ
ประธานกรรมการสิทธิฯ เขมร เย้ยกองทัพไทย ต้องพึ่งเครื่องบินรบ ถ้าไม่มี F-16 ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้เขมร
แฉเรือทุนไทยขายน้ำมันให้เขมร อดีต สว ประกาศ เตือน ทัพเรือสั่ง 'จมเรือ' ได้ทันที เพราะประกาศกฎอัยการศึก
สิ่งของที่ไม่ควรใส่ ไม่ควรซัก ในเครื่องซักผ้า
สถานทูตไทยทั่วโลก เปิด "สมรภูมิโซเชียล" ขย้ำ ฮุน เซน
Grab เผยที่สุดแห่งปี 2025 ปรากฏการณ์สายมูทำ "ห้วยขวาง" แตก! พร้อม "ชาไทย" ขึ้นแท่นเครื่องดื่มเบอร์หนึ่ง
ถล่มอุโมงค์ลับ เนิน 350 ทัพฟ้าส่ง F-16 เสิร์ฟไข่ 6 รอบติด
เฉลยแล้ว บักบอย เป็นใครกันแน่ ใช่สายลับหรือไม่
อวสานตั๋วผี "ขายรถจำนำทอง" กว้านซื้อบัตรคอนเสิร์ต เจ๊งเหยียบ 1 ล้าน
วิเคราะห์หวย AI น่าจะออกรางวัลงวด 16 ธันวาคม 2568
ช้างป่าภูผาม่านเหยียบพระสงฆ์ขณะบิณฑบาต เสียชีวิต
เฉลยแล้ว บักบอย เป็นใครกันแน่ ใช่สายลับหรือไม่
สถานทูตไทยทั่วโลก เปิด "สมรภูมิโซเชียล" ขย้ำ ฮุน เซน
สิ่งของที่ไม่ควรใส่ ไม่ควรซัก ในเครื่องซักผ้า












