10 ภาพเรื่องราวเบื้องหลังที่น่าสลดใจ

ภาพถ่ายมักสร้างความทรงจำที่งดงามในอดีต
บางภาพเห็นแล้วอดยิ้มหรือมีความสุขไปด้วยไม่ได้
แต่บางภาพที่ดูใสซื่อบริสุทธิ์แต่มีเบื้องหลังที่น่าสลดใจ
10 ภาพเรื่องราวต่อไปนี้
บางภาพดูเหมือนจะเป็นเรื่องราวที่ดูใสซื่อบริสุทธิ์
แต่เหตุการณ์ต่อมาภายหลังกลับ

1.) Regina Kay Walters

ภาพนี้ถ่ายโดยฆาตกรต่อเนื่อง Robert Ben Rhoades
ที่ฆ่า Regina Kay Walters สาววัยรุ่นวัย 14 ปี
Rhoades มีความชั่วร้ายมากในการเดินทางไปทั่วประเทศ
ด้วยรถบรรทุก 18 ล้อที่เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์ทรมานเหยื่อ
ในห้องหนึ่งของตู้คอนเทนเนอร์ที่ดัดแปลงขึ้นมา
ภาพนี้ถ่ายที่ยุ้งฉางร้างแห่งหนึ่งในรัฐ Illinois
ก่อนที่ Rhoades จะฆ่า Walters
มันกร้อนผมเหยื่อแล้วบังคับให้ใส่ชุดสีดำพร้อมกับรองเท้าส้นสูง

ที่มาของภาพ Imgur http://bit.ly/1EIHQG9

Robert Ben Rhoades ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต

ที่มาของภาพ http://bit.ly/1yhapES

ที่มาของภาพ http://bit.ly/1CHE5Sg

2.) Reynaldo Dagsa

Reynaldo Dagsa หนึ่งในนักการเมือง Philippines
ถ่ายภาพครอบครัวก่อนที่ถูกยิงตายในวันปีใหม่ 2011
ภาพถ่ายนี้ก่อนที่จะมีการยิงโดย Michael Gonzales
โดยมันยิงถึง 2 นัดต่อหน้าครอบครัวผู้ตาย

มือปืน ลูกสาว ภริยา แม่ยาย คนข้างบ้าน

ที่มาของภาพ What Culture http://bit.ly/1tdbe5P

Michael Gonzales สมาชิกแก้งค์ใต้ดิน Fubo of Fish Pond Area 1 แก้แค้นที่ผู้ตายแจ้งจับพรรคพวก
มีผู้ร่วมมืออีก 2 คนชื่อผู้ร้ายคือ Rommel Olivia กับ Francis Bumjai ถูกจับได้ในเวลาไม่นานนัก



ภาพถ่ายผู้ตาย Reynaldo Dagsa

ที่มาของทั้ง 2 ภาพ http://dailym.ai/1utxT9v

3.) Michael กับ Sean McQuilken

ภาพกระแสไฟฟ้าสถิตย์ในรูปก่อนหน้าไม่กี่นาที ในช่วงฤดูร้อนปี 1975
ก่อนที่ฟ้าจะผ่าสองพี่น้องที่แถบเทือกเขา Sierra Nevada
แต่โชคดีที่พี่น้องทั้งคู่รอดตายจากฟ้าผ่าในครั้งนั้น

ที่มาของภาพ NBC News http://bit.ly/1C1LYTt

4.) The Wuhan Yangtze River Bridge Lovers

ช่างภาพรายหนึ่งกำลังถ่ายภาพมลภาวะทางอากาศ
รอบ ๆ สะพานข้ามแม่น้ำ Wuhan Yangtze ในจีน
บังเอิญจับภาพคู่รักฆ่าตัวตายในภาพได้
ในช่วงกำลังเล็งจับภาพถ่ายอยู่
ไม่ทันเห็นภาพคนรักชายกำลังโดดลงไป
แต่ทันจับภาพคนรักหญิงกำลังโดดลงไปในเวลาต่อมา

" ผมตกใจมากเลย ไม่มีทางเข้าไปใกล้เธอได้เลย
ผมมีแต่กล้องอยู่ในมือและถ่ายภาพแบบฉุกละหุกทันทีเท่าที่ทำได้
จบลงด้วยชีวิตของผู้หญิงคนนั้น "
ศพของคนรักทั้งคู่ยังไม่มีใครเจออีกเลย

ที่มาของภาพ Reuters http://bit.ly/1B9pUAX

5.) Tara Calico and Michael Henley, Jr.

ภาพถ่ายโพลารอย์(ล้างอัดภาพในการถ่ายถ่ายเพียงครั้งเคียว)
ภาพถ่ายนี้พบที่ลานจอดรถยนต์หน้าร้านชำแห่งหนึ่งใน Florida
คนในภาพได้รับการยืนยันว่าคือ Tara Calico นักศึกษาวัย 19 ปี
กับ Michael Henley Jr วัย 9 ขวบ ทั้งคู่หายไปจากบ้านที่ New Mexico ในปี 1988
ตอนนี้ทั้งคู่ยังอยู่ในรายงานคนหาย

ที่มาของภาพ Imgur http://bit.ly/1yh7YlM

6.) Robert Budd Dwyer

Dwyer เป็นสมาชิกพรรค Republican
ดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิกรัฐ Pennsylvania ตั้งแต่ปี 1971 จนถึงปี 1981
จนกระทั่งวันที่ 22 มกราคม 1987 เป็นผู้ว่าการคลังรัฐ Pennsylvania
ในวันชี้ชะตา Dwyer เรียกผู้สื่อข่าวมาฟังแถลงข่าวที่ทำการรัฐ
แล้วยิงตัวเองต่อหน้าผู้สื่อข่าว​ ภาพข่าวเรื่องนี้มีการเผยแพร่ไปทั่วประเทศ
ภาพนี้จับภาพได้ก่อนที่เขาจะฆ่าตัวตาย

ที่มาของภาพ Wikipedia http://bit.ly/1JH0I9j

7.) Chris McCandless

ภาพถ่ายตนเองของ Chris McCandless
ก่อนที่ศพของเขาจะพบโดยนายพรานรายหนึ่ง
ในป่ารกร้างที่ Alaskan ในปี 1992
ในตอนเดือนเมษายน ต้นปีนั้น
McCandless ตัดสินใจทิ้งวิถีชีวิตแบบเดิม
แล้วเดินทางไปผจญภัยในป่ารกร้างที่ Alaskan
ด้วยเสบียงอาหารและเครื่องมือยังชีพเพียงเล็กน้อย
เพื่อดำรงชีวิตอยู่ในป่าแบบเรียบง่าย
แต่คาดว่าเขาตายในช่วงเดือนสิงหาคม ปี 1992
พนักงานรัฐระบุสาเหตุการตายเพราะขาดอาหาร
เรื่องราวของ McCandless ทำให้มีนวนิยายเรื่อง Into The Wild

ที่มาของภาพ Imgur http://bit.ly/1C1MWim

ที่มาของภาพ http://bit.ly/15HNhtd

8.) Saylor Guilliams

Guilliams กับเพื่อนสาวของเธอ Brenden Vega
กำลังปีนเขาในป่ารกร้างที่ Santa Barbara County รัฐ California
ในขณะที่ทั้งคู่กำลังปีนเขาอยู่นั้น เกิดพลาดขึ้นมา
ทำให้ทั้งคู่ตกลงมาและได้รับบาดเจ็บสาหัส
หลังจากพยายามตะโกนเรียกให้คนช่วยเหลือนานหลายชั่วโมงแล้ว
ในที่สุด Guilliams ซึ่งพอจะพยุงตัวและช่วยเหลือตนเองได้
ปล่อยให้ Vega อยู่ตามลำพังเพื่อไปตามคนมาช่วยเหลือ
แต่เรื่องน่าเศร้าคือ ตอนเดินทางออกจากป่านั้น
Guilliams ตกลงไปอีกครั้ง และตายขณะอยู่บนพื้นดิน

ภาพถ่ายนี้จับภาพโดยนักปีนเขารายหนึ่งที่อยู่ในบริเวณนั้นในวันต่อมา
ไม่มีใครรู้เรื่องราวนี้เลย ร่างของ Guilliams ที่ฉากหลังของภาพ
ผมสีแดงที่มองเห็นได้อย่างชัดและดูเหมือนเธอยังมีชีวิตอยู่
แต่หน้าเธอทิ่มลงไปในโคลนและกระดูกหักไปหลายซี่
แม้ว่าเธอจะได้ยินเสียงคนปีนเขาผ่านไปมา
แต่เธอไม่สามารถร้องขอความช่วยเหลือได้เลย
กลุ่มนักปีนเขาเหล่านี้ในที่สุดพบ Vega และช่วยชีวิตเธอได้

ที่มาของภาพ What Culture http://bit.ly/1D6oNEw

9.) Robert Landsburg

Lansburg ได้เป็นช่างภาพตามตั้งใจก่อนตาย
เขาหลงใหลกับการระเบิดของภูเขาไฟ
Mount St. Helens ในรัฐ Washington
ในวันที่18 พฤษภาคม 1980
Landsburg เดินทางเข้าไปใกล้
จุดปะทุของภูเขาไฟ Mount St. Helens
ในจุดที่ภูเขาไฟระเบิดครั้งใหญ่ที่สุด
ในสหรัฐอเมริกานับตั้งแต่ปี 1915
เพราะอยู่ใกล้กับจุดระเบิดภูเขาไฟมากเกินไป
Landsburg ไม่รอดตายแต่ยังพยายามจับภาพ
การเริ่มต้นระเบิดของภูเขาไฟลูกนี้

ที่มาของภาพ What Culture http://bit.ly/1C1Nc13

10.) Omayra Sánchez

Sánchez เด็กสาวชาวโคลัมเบียวัย 13 ขวบในปี 1985
เพราะการระเบิดของภูเขาไฟ Nevado del Ruiz
ผลการระเบิดทำให้เกิดแผ่นดินไหว
ตามมาด้วยภาวะน้ำท่วมและดินถล่มหมู่บ้านหลายแห่ง
บ้านของเธอถูกถล่มด้วยดินโคลน
เธอต้องแช่อยู่ในน้ำเย็นถึง 3 วันเป็นเวลากว่า 55 ชั่วโมง
จนกระทั่งกล้ามเนื้อตายหรือภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติ hypothermia
ภาพนี้ถ่ายโดยช่างภาพรายหนึ่งที่เดินทางเข้าไปในหมู่บ้านแห่งนี้
ในเวลาไม่นานก่อนที่เธอจะตาย
ภาพนี้ได้รับรางวัล World Press Photo of the Year ในปี 1985

ที่มาของภาพ Wikipedia http://bit.ly/1BpRRXG

เรียบเรียง/ที่มา http://bit.ly/1wvU92b

เพิ่มเติม Omayra Sánchez

มีคนพยายามช่วยเหลือ Sánchez แล้ว
แต่ขาเธอติดกับซากสลักหักพัง
โดยมีศพป้าเธออยู่ข้างใต้ตัวเธอ
ต้องหาคนดำน้ำลงไปดึงขาเธอขึ้นมาหรือตัดขาเธอออก
น้ำในนั้นก็กระเพื่อมตลอดเวลาที่จะคนจะลงไปช่วยเธอ
ทำให้น้ำยิ่งท่วมตัวเธอจนหายใจไม่ได้
จนต้องโยนห่วงยางไปช่วยพยุงตัวเธอก่อน

ก่อนตายเธอยังมองโลกในแง่ดี(เชิงบวก)
เธอร้องบอก Germán Santa María Barragán
นักหนังสือพิมพ์ที่ทำหน้าที่เป็นอาสาสมัคร
ขอกินขนมหวานกับดื่มน้ำโซดา และยอมพูดคุยด้วย
บางช่วงขณะเธอบ่นพึมพำ สวดมนตร์ หรือ ร้องไห้
คืนสุดท้ายเธอเริ่มเพ้อว่า กลัวไปโรงเรียนสาย
และห่วงเรื่องการสอบวิชาคณิตศาสตร์
ก่อนตายดวงตาเธอแดงกร่ำ หน้าบวมและมือซีดขาว
เธอบอกคนมาช่วยเธอให้ไปพักผ่อนกันบ้าง

หลังจากมีการนำเครื่องสูบน้ำมาสูบน้ำออกแล้ว
พบว่าขาเธอขัดกับคอนกรีตขนาดใหญ่ในท่าคุกเข่า
ทำให้ยากมากในการดึงขาเธอออกมา
เรื่องนี้มีการประจานความล่าช้าของทางการ
ในการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติครั้งนี้
ซึ่งแตกต่างกับความตั้งใจทำงานช่วยเหลือของอาสาสมัคร