เราควรซักผ้าปูที่นอนและหมอนบ่อยแค่ไหน?
การซักผ้าปูที่นอนและหมอนเป็นส่วนสำคัญของการดูแลสุขภาพและความสะอาดในชีวิตประจำวัน เพราะผ้าปูที่นอนและหมอนที่เราใช้ทุกคืนสามารถสะสมเหงื่อ, เซลล์ผิวที่หลุดลอก, ไรฝุ่น และสิ่งสกปรกต่าง ๆ ได้ง่าย ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคผิวหนัง, ภูมิแพ้ หรือการนอนที่ไม่สบายได้ หากไม่ได้รับการซักล้างอย่างสม่ำเสมอ
1. ผ้าปูที่นอน ผ้าปูที่นอนควรถูกซักทุกๆ 1-2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น การมีเหงื่อออกมากในขณะนอน, การนอนร่วมกับสัตว์เลี้ยง หรือการมีอาการแพ้ฝุ่น ถ้าใครมีอาการแพ้ควรซักทุกสัปดาห์เพื่อลดการสะสมของไรฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ อีกทั้งการซักผ้าปูที่นอนบ่อย ๆ ยังช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่นและสบายตัวเวลานอน
2. ปลอกหมอน ปลอกหมอนควรถูกซักทุกสัปดาห์เช่นกัน เนื่องจากใบหน้าและเส้นผมสัมผัสกับหมอนโดยตรง หมอนอาจสะสมเหงื่อ, น้ำมันจากผิวหนัง และสิ่งสกปรกจากเส้นผม ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาสิวหรือการระคายเคืองผิวได้ การซักปลอกหมอนบ่อย ๆ จึงช่วยให้คุณนอนหลับได้อย่างสะอาดและสุขภาพดีขึ้น
3. หมอน หมอนที่เรานอนทุกคืนจะสะสมฝุ่น, ไรฝุ่น และความชื้นในระยะยาว แม้ว่าหลายคนมักลืมซักหมอนหรือไม่แน่ใจว่าจะซักหมอนอย่างไร แต่การซักหมอนทุก 3-6 เดือนเป็นสิ่งที่ควรทำ การซักหมอนจะช่วยให้หมอนสะอาดและนุ่มฟูเหมือนใหม่ อีกทั้งยังช่วยยืดอายุการใช้งานของหมอนอีกด้วย
เคล็ดลับการดูแล
ควรซักผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนในน้ำร้อนหรือน้ำอุ่นเพื่อช่วยฆ่าเชื้อโรคและไรฝุ่น
ตากแดดให้แห้งสนิททุกครั้งเพื่อป้องกันความชื้นและเชื้อรา
หากไม่สามารถซักบ่อย ๆ ได้ ให้ปัดฝุ่นหรือดูดฝุ่นที่หมอนและที่นอนเพื่อลดปริมาณไรฝุ่น
การซักผ้าปูที่นอนและหมอนเป็นประจำ ไม่เพียงแต่ช่วยให้ที่นอนของคุณสะอาด แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพทั้งกายและใจ ทำให้คุณได้พักผ่อนอย่างเต็มที่และมีคุณภาพการนอนที่ดีขึ้น