update ผู้หญิงคนเดิม...ที่เพิ่มเติมสรุปว่าจะคบกันแค่ในโลกออนไลน์ใช่ไหม
https://board.postjung.com/974707.html
https://board.postjung.com/971723.html
https://board.postjung.com/970714.html
https://board.postjung.com/993208.html
https://board.postjung.com/994266.html
https://board.postjung.com/994789.html
...ล่าสุด ทุกวันนี้ยังมีโอกาสพูดคุยกัน แต่เฉพาะเพียงแค่ใน LINE เท่านั้น ยังมีเฟสบ้าง หรือ
ลดลิมิตที่สามารถ(อนุญาต)ให้โทรหา
ช่วงกลับบ้านได้ แต่ฝ่ายชายอาจจะยังไม่คุ้นชิน หลังจากเจอสองมาตรฐานใส่หลังจากเกิดเหตุ..(ช่วงสงกรานต์ปีที่แล้ว) ที่มักจะ
โดนห้ามเสมอๆ ว่าเวลากลับบ้าน ห้ามโทรหา..เพราะทางบ้าน ทั้งพ่อและน้องชายยังไม่รู้ว่าเราแอบคบ แอบคุยกันอยู่ (หลังจาก
ถูกห้ามจากพ่อและน้อง)
พอฝ่ายชายเงียบๆไปก็มักถูกติง หรือทักท้วง...สักพักก็กลับมาคุยกันใหม่ แต่ ส่วนใหญ่จะเป็นฝ่ายหญิงที่เริ่มบทสนทนาก่อน
จนล่าสุด ปีใหม่นี้
...ฝ่ายหญิงนัดแนะฝ่ายชาย ให้ไปที่พักของฝ่าย ญ (ลึกๆ ฝ่ายชายคิดว่าจะให้ไปทำไม )
ช : ไปทำไม
ญ : จะให้มาเอาของ เลิกงานหรือยัง
ช : ยัง ของไร ของกินหรือเปล่า ที่ถามเพราะไม่รู้จะเลิกงานเมื่อไหร่ เผื่อของเสียหรือบูด
( ณ ตอนนั้นฝ่ายชายที่ถาม เพราะลึกๆอยากจะตัด หรืออยากจะไม่ไป)
ญ : ไม่ใช่ของกิน ถ้าจะมาเมื่อไหร่ก็บอก จะได้ออกไปแขวนไว้หน้าห้อง
(สรุปคือ จะไม่ยอมอยู่รอเจอหน้า...นี่เอง ???)
พอสักพักไปเอาของ ตามที่ ญ นัดไว้ แขวนไว้
ปรากฎว่าเป็นของขวัญ 1 กล่อง (หลังจากก่อนไป บอกตามตรงว่าในใจ ช คิดว่าจะเป็นของที่ ช ให้ตลอดระยะเวลาที่คบๆกัน)
ลึกๆก็ลุ้นนะว่าของข้างในคืออะไร แต่ที่มาสะดุดคือการ์ด ที่ทำจากกระดาษในสมุดฉีกทั่วๆไป แล้วเขียนด้วยปากกาว่า
" ถึงแม้ ไม่ได้ให้ในฐานะแฟน แต่ก็อยากจะให้
และขอโทษสำหรับทุกสิ่งๆ ที่ผ่านมา...และขอให้เจอแต่สิ่งดีๆตลอดปี "
เชื่อไหมครับคุณผู้อ่านจากโพสจัง...
ว่า ณ ตอนนั้น ความอยากรู้อยากเห็น อยากทราบว่าของข้างในมันคืออะไร หมดไปทันที ...ก็เลยยังไม่แกะกล่อง
จนนานเข้า ทาง ญ ทักเข้ามาทางสื่อออนไลน์เหมือนเดิมว่า...
แกะกล่องหรือยัง ใส่ได้ไหมเสื้อน่ะ
จึงทำให้รู้เลยว่า ข้างในคือเสื้อ ก็ใส่ในช่วงปีใหม่และถ่ายให้ดู พุดคุย อวยพรตามปกติ โหยยยทำไมไม่ใจแข็งสักทีนะ ช เนี่ย
จนพูดคุยกัน (แม้จะคำพูดสรรพนามแทนตัว จะไม่ใช่แบบเดิม) นานๆเข้า จน ฝ่าย ช ก็อดใจอ่อนและเข้าข้างตัวเองอีกรอบ
ว่าน่าจะเหมือนเดิม ก็ถึงขั้นชวนไปทานมื้อเย็น หรอืไปไหนมาไหนให้เหมือนเดิมก่อนที่จะเกิดเรื่อง
แต่สิ่งที่ได้คำตอบคือ ญ ว่าง แต่ขอเลือกที่จะ อย่าพึ่งเจอกันเลย ขอดูแลกันและกัน ห่างๆแบบนี้ก็พอ
เพราะอยู่ใกล้กันก็อดทะเลาะไมไ่ด้ ??? เปิดช่องว่างให้กันและกันดีกว่า และถ้า ช จะมีคนอื่นต่อจากนี้ หรือ เงียบหายไปเหมือนแต่ก่อน ก็ได้นะ XX (ชื่อ ญ) ไม่ว่า เอิบบบ
จนฝ่ายชายพิมข้อความ(ยาวๆ) ใจความประมาณนี้ อีกรอบ
..... ถ้าคิดว่าการเจอหน้ากันแล้วจะทะเลาะ ขอให้เข้าใจซะใหม่นะ เพราะเรากำลังเข้าใจผิดประเด็นเหมือนตอนก่อน ที่บอกว่า ถ้าคุยเฟสก้อจะทะเลาะ ก็จะมีข้อความยืดยาวๆ จากฝ่าย ช เชิงนอยด์ เชิงงอน ....สู้มาคุยต่อหน้าไม่ได้ // ส่วนการจะว่าอะไรก็ขอให้มองดูตัวเองก่อนนะ ที่บอกว่าคนอื่น "ลูกแหง่" เชื่อแต่แม่ มันก็ซ้ำรอยเดิมที่เราเอามาอ้าง มาบอกพี่ ว่า พ่อไม่ให้คบกันหรือกลัวทางบ้านรู้ว่าเราคบกัน เพราะนั่นก็หมายถึงว่า เราก็เลือก "เชื่อฟัง" พ่อมากกว่าอื่นใด เหมือนกัน จริงไหมครับ ?? เอาเถอะ อย่างที่พี่บอกตอนต้น ว่าถ้ายืนยันหรือคิดว่า "เวลา" จะช่วยเยียวยาบาดแผลทางกายและทางใจได้ทุกสิ่ง พี่เองก็เคารพการตัดสินใจของเรา ของพ่อเรา และไม่เกี่ยวกับว่า ใครดีหรือไม่ดี เพราะคนทุกคน มันไม่ได้จะดี 100%หรือไม่ดี 100% แต่มันขึ้นอยู่กับว่า เราจะมองข้ามผ่าน จุดๆนั้นไปได้ไหมแค่นั้นมากกว่า ถ้าไม่ก็จมอยู่กับอดีตไปตลอด เป็นเงาตามตัวไปแบบนี้ // โปรดอ่านแล้วทำความเข้าใจด้วยสติ ไตร่ตรองดูดีๆ เพราะสิ่งเหล่านี้ ไม่ได้เอ่ยมาเพื่อจะชวนทะเลาะหรือจุดประเด็นกับเรื่องเก่าๆ เพราะอย่างที่เคยบอกแล้ว และจะบอกเป็นครั้งสุดท้ายว่า ทางพี่ ลืมและมองข้ามผ่านจุดๆนั้นไปแล้ว ที่เหลือจ๋าก็เลือกเอานะ ว่าจะจมกับอดีตกับเรื่องราวที่เรานอยด์ๆเมื่อตอนช่วงสงกรานต์ ไม่ว่าจะจากเหตุที่พี่ หรือเหตุที่พี่แม่ หรือเลือกที่จะอยู่กับคำสั่งของพ่อเรา ??
สุดท้ายนี้ พี่ก็ยืนยันว่าจะไม่ดึงดัน ดื้อรั้น หรือ เลือกที่จะ "ดูแลกันห่างๆ"อย่างที่เราบอกไว้ก็แล้วกัน
หลังจากนั้น ญ ก็เงียบไปสักระยะ ก็เข้ามาทักเหมือนเดิม (เง้อ คนแบบนี้ก็มีด้วย)
เหมือนไม่มีไรเกิดขึ้นหรือเหมือนไม่มีข้อความนั้นขึ้นมาอีก
ถึงขั้นโทรถามไถ่ เวลาฝนตก ว่า ช กลับบ้านยัง เชิงเป็นห่วง จิปาถะ...
ล่าสุดๆๆ ...
แม่ฝ่ายชายประสบอุบัติเหตุ ลื่นล้มในห้องน้ำ หัวแตก
ณ ตอนนั้น บอกตรงๆว่า ช เกือบจะทำตัวไรไม่ถูกจริงๆ
แต่ขอข้ามกระบวนการตรวจของหมอ...ไปนะคับคุรผู้อ่าน
แต่ปากหนัก มือหนักของฝ่ายชาย ที่อดพิมบอกรายงาน ญ ไม่ได้ ว่าแม่เกิดไรขึ้น
ก็จะมีข้อความถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง(ม้าง)ว่า
เป็นอย่างไรบ้าง เกิดไรขึ้น(ให้เล่า) หรือหมอตรวจเป็นไงบ้าง อาการดีขึ้นหรือยัง เป็นต้น
จนฝ่ายชาย พิมพ์ข้อความนี้กลับไป
....ถ้าว่างๆ ไม่ติดงาน ติดฝนตก จะมาเยี่ยมเยียนก็ไม่ว่านะ ไม่ถ่ายรุปขึ้นเฟสหรอกคับ (เพราะ ญ เคยบอกว่าไม่อยากให้ถ่ายรูปคู่
ขึ้นเฟสเพราะกลัวคนรู้จักจะไปบอกพ่อ)
และก็สูญเปล่า ไม่มาเยี่ยม
ฝ่ายชายพิมพ์ทักท้วงไปว่า
....ช่างเหอะ เลิกจะคาดหวังให้กลับมาเหมือนเดิมละ ขนาดเจ็บป่วยไข้ ยังเป็นแบบนี้
ไม่เป็นไร มันคงยังไม่ถึงเวลา หรือคง concept ที่ห่วงแค่ไกลๆแบบนี้...ซึ้งใจละ...
และ....
ถ้ามาเยื่ยมมาถามไถ่มันคงไม่รบกวนเวลาเราเข้างานหรือเวลาเราพักซะเท่าไหร่หรอกม้าง แต่ก็ช่างเหอะ ถ้าอยากจะห่วงแค่ในโลกออนไลน์หรือยังละอายที่ไม่พร้อมจะเจอหน้า ปั้นหน้าเข้าหากันก็ตามใจ
แต่พอ ญ อ่าน ก็ไม่มีทีท่าจะสำนึกหรือเข้าใจในสิ่งที่ ช จะสื่อ กลับพิมพ์
โต้ตอบกลับมาว่า
แล้วอาการแม่เป็นไงบ้างค่ะ...แบะๆๆๆ เชิงถามไถ่ (อีกละ)
อะไรกันเนี่ย ญ แบบนี้ก็มีแหะ...
เมื่อไหร่นะ ช จะใจแข็งสักที...เกิดวังวนซ้ำๆแบบนี้ตลอดเลย
...ขอบคุณที่อ่านจนจบ และหวังว่าจะไม่งงๆนะครับ
ปล. ทุกข้อความอ้างอิงจากเรื่องจริงทั้งสิ้น