โรงเรียนมัธยมอาชีพช่างกล (โรงเรียนช่างกลรัฐบาลแห่งแรกของประเทศไทย) พ.ศ. 2478 - 2482
ข้อมูล 29 สิงหาคม 2555
รูปหมู่ครูและนักเรียนโรงเรียนมัธยมอาชีพช่างกล พ.ศ. 2475
พ.ศ. 2477 แผนกการพิมพ์กรมแผนที่ทหารบก ได้ย้ายไปอยู่ที่อื่น ซึ่งอยู่ติดท่าเรือราชินีเหนือ ซอยท่าข้าม ถนนมหาราช ตำบลท่าเตียน (ปัจจุบันคือแขวงพระบรมมหาราชวัง) อำเภอชนะสงคราม (เขตพระนคร) จังหวัดพระนคร มลฑลกรุงเทพ ฯ ปํจจุบันคือบริเวณที่ตั้งอาคารเสาวภาผ่องศรีในโรงเรียนราชินีล่าง จึงได้ถือโอกาสย้ายโรงเรียนอาชีพช่างกลจากตรอกกัปตันบุชมาอยู่ที่อาคารนี้แทน เพราะสถานที่กว้าง ใกล้ท่าน้ำ สะดวกแก่การข้ามไปฝึกงานที่กรมอู่ทหารเรือ หรือยืมเรือกลไฟจากกองเรือกลทหารเรือมาให้นักเรียนฝึกหัดให้มีความรู้ความชำนาญได้รู้ได้ใช้ของจริง ทั้งสะดวกในการขอความอนุเคราะห์จากกนายทหารเรือให้มาช่วยสอนทฤษฎีช่างในบางโอกาส และสะดวกแก่การควบคุมของผู้อำนวยการโรงเรียน เพราะที่ตั้งโรงเรียนอยู่ใกล้ปากคลองตลาดชาวบ้านมักเรียกชื่อช่างกลปากคลองตลาด
ลักษณะโรงเรียนเป็นอาคาร 2 ชั้น มีรั้วสังกะสีกั้นเขตกับโรงเรียนราชินีล่าง ชั้นบนใช้เป็นห้องทำงานของครูและห้องเรียนทฤษฎี 1 ห้อง ชั้นล่างเป็นโรงฝึกงาน ช่างกลึง ช่างตะไบ และช่างยนต์ ส่วนช่างเหล็กตั้งเป็นเพิงอยู่นอกตึกเรียน มีเครื่องกลึง เครื่องยนต์ และเครื่องจักรไอน้ำสำหรับฝึกอย่างละ 1 เครื่อง จึงต้องผลัดกันใช้ห้องเรียนทฎษฎีระหว่างนักเรียนชั้น ปี 1 และชั้น ปี 2 การฝึกภาคปฎิบัติส่วนหนึ่งต้องไปอาศัยฝึกที่กรมอู่ทหารเรือหรือโรงฝึกงานของโรงเรียนนายเรือ โดยกรรเชียงเรือข้ามฝากไปเรียนครึ่งวัน จากการกรรเชียงเรือทุกวันทำให้โรงเรียนได้ถ้วยแข่งเรือมาหลายใบ
ตราสัญญลักษณ์โรงเรียนมัธยมอาชีพช่างกล
โรงเรียนมัธยมอาชีพช่างกล (โรงเรียนช่างกลรัฐบาลแห่งแรกของประเทศไทย) พ.ศ. 2478 - 2481
แผนที่บริเวณที่ตั้งโรงเรียนมัธยมอาชีพช่างกล เมื่อปี 2477 แผนที่จากห้องปฎิบัติการแผนที่ประวัติศาสตร์ คณะสถาปัตย์กรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เส้นทางการกรรเชียงเรือจากรร.มัธยมอาชีพช่างกลไปกรมอู่ทหารเรือ ระยะทางไม่ใกล้เลย ได้กำลังแขนอย่างดีเมื่อพายทวนน้ำ แผนที่จากห้องปฎิบัติการแผนที่ประวัติศาสตร์ คณะสถาปัตย์กรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
แผนที่บริเวณที่ตั้งโรงเรียนมัธยมอาชีพช่างกล ปัจจุบัน พ.ศ. 2555 แผนที่จากเวบไซต์รู้ทันน้ำ
ในปีนี้เอง กระทรวงธรรมการหรือกระทรวงศึกษาธิการในปัจจุบัน ใคร่จะขยายการศึกษาวิชาอาชีพต่าง ๆ ตามโครงการการศึกษาของชาติ วิชาช่างกล เป็นวิชาชีพแขนงหนึ่งที่กระทรวงธรรมการเห็นว่ามีความสำคัญ และมีนโยบายที่จะส่งเสริมอยู่แล้ว จึงได้ขอความร่วมมือให้กองทัพเรือโอนโรงเรียนอาชีพช่างกลที่อยู่ในความดูแล ของนาวาเอกพระประกอบกลกิจ ร.น. ให้มาอยู่ในสังกัดกระทรวงธรรมการ นาวาเอกพระประกอบกลกิจ ร.น. ผู้อำนวยการโรงเรียนมีความยินดีที่จะมอบให้กระทรวงธรรมการ แต่ทว่าในปีนั้นกระทรวงธรรมการยังไม่มีงบประมาณพอที่จะรับมอบ จึงขอให้ชะลอเรื่องไว้ก่อน
ที่ตั้งรร.มัธยมอาชีพช่างกล ในบริเวณ รร.ราชินี ภาพจากเวบโรงเรียนราชินี(http://www.rajini.ac.th/school/map.html)
ตรงบริเวณอาคารเสาวภาผ่องศรีคือบริเวณที่เคยเป็นที่ตั้งของโรงเรียนมัธยมอาชีพช่างกล ภาพจากเวบโรงเรียนราชินี (http://www.rajini.ac.th/school/mapin.html)
รูปที่ตั้งโรงเรียนมัธยมอาชีพช่างกลที่อยู่ในบริเวณโรงเรียนราชินี ภาพจาก Internet
ภาพถ่ายทางอากาศบริเวณปากคลองตลาด เมื่อ พ.ศ. 2489 (ภาพถ่ายทางอากาศของ วิลเลียมฮันด์ จากหอจดหมายเหตุ หอสมุดแห่งชาติ) รูป Imag_0325
ภาพถ่ายทางอากาศบริเวณปากคลองตลาด เมื่อ พ.ศ. 2489 (ภาพถ่ายทางอากาศของ วิลเลียมฮันด์ จากหอจดหมายเหตุ หอสมุดแห่งชาติ) รูป Imag_0328
ภาพถ่ายทางอากาศบริเวณปากคลองตลาด เมื่อ พ.ศ. 2489 (ภาพถ่ายทางอากาศของ วิลเลียมฮันด์ จากหอจดหมายเหตุ หอสมุดแห่งชาติ) รูป Imag_0335
A กรมอู่ทหารเรือ
B โรงเรียนอาชีพช่างกล
C โรงเรียนราชินี
D สถานีตำรวชพระราชวัง
E สยามมิวเซียม หรือกระทรวงพาณิชย์เดิม
F กองแยกธาตุ (กรมวิทยาศาสตร์ ปัจจุบันคือโรงเรียนราชบพิธ)
G กรมพลาธิการทหารบก (ปัจจุบันคือโรงเรียนราชบพิธ)
H หอทะเบียนที่ดิน คือกรมที่ดินในปัจจุบัน
I ถนนราชินี
J ตลาดท่าเตียน
K วัดโพธิ์
L ถนนอัษฎางค์
จากวัดกัลยาณ์ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับโรเรียนราชินีมองไปยังกรมอู่ทหารเรือ
ภาพถ่ายโรงเรียนราชินีในปัจจุบัน
ภาพถ่ายทางอากาศกรมอู่ทหารเรือ เมื่อ พ.ศ. 2489 (ภาพถ่ายทางอากาศของ วิลเลียมฮันด์ จากหอจดหมายเหตุ หอสมุดแห่งชาติ) รูป Imag_0332
ภาพถ่ายทางอากาศกรมอู่ทหารเรือปัจจุบัน (พ.ศ. 2555)
พ.ศ. 2478 พลเรือเอก หลวงสินธุสงครามชัย ร.น. เป็นออกทุนสนับสนุนโรงเรียนอาชีพช่างกลด้วยผู้หนึ่ง ตั้งแต่ครั้งเป็นเสนาธิการกองทัพเรือ และยังคงให้การสนับสนุนจนท่านได้เป็นแม่ทัพเรือ และในปีเดียวกันนี้ ท่านได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงธรรมการ (กระทรวงศึกษาธิการปัจจุบัน)ท่านได้นำเรื่องของโรงเรียนอาชีพช่างกลเข้าปรึกษาจอมพล ป. พิบูลสงคราม ขณะนั้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ด้วยความเมตตากรุณาของท่านผู้ใหญ่ทั้งสองท่าน และด้วยสายตาที่มองกาลไกล ท่านได้เห็นความสำคัญในเรื่องวิชาชีพช่างกล ว่าเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลควรจะต้องอุ้มชู เพื่อความเจริญก้าวหน้าของประเทศชาติในอนาคต และให้ประชาชนของชาติได้รับการศึกษาเล่าเรียนวิชาช่างกลไว้ เพื่อได้เป็นวิชาอาชีพที่จะได้นำไปประกอบการงานให้เป็นประโยชน์ต่อราชการ ส่วนตัวและครอบครัว ให้ได้มีอาชีพการทำงานที่เป็นปึกแผ่นอยู่ดีกินดี จึงได้รับโรงเรียนอาชีพช่างกลจากนาวาเอกพระประกอบกลกิจ ร.น. มาสังกัดอยู่ในกรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2478 พร้อมอนุมัติเงินงบประมาณให้โรงเรียนปรับปรุงโรงงานและเครื่องจักรกลต่าง ๆ และได้เปลี่ยนนามของโรงเรียนใหม่ว่า "โรงเรียนมัธยมอาชีพช่างกล" ระเบียบในการรับสมัครนักเรียน ต้องสำเร็จวิชาสามัญชั้นมัธยมปีที่ 4 เป็นอย่างต่ำ (เทียบปัจจุบันคือผู้ที่จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที 1) และอายุไม่น้อยกว่า 15 ปี ไม่เกิน 18 ปี วางหลักสูตรการเรียนไว้ 2 ปี ไม่เก็บค่าเล่าเรียน วิชาที่สอน ช่างกลพื้นฐานเพื่อปูพื้นฐานการทำงานช่าง คือช่างตะไบ , ช่างตีเหล็ก , ช่างบัดกรีและช่างฟิตปรับ ให้มีความละเอียดประณีตในการปฏิบัติงานช่าง วิชาช่างกลหลักที่สอนคือ ช่างกลโรงงาน , ช่างเครื่องยนต์ , ช่างไฟฟ้า , เครื่องจักรไอน้ำ , และวิชาเขียนแบบช่างช่างกล ส่วนวิชาสามัญจะเรียน คณิตศาสตร์ , กลศาสตร์ , ภาษาไทย , ภาษาอังกฤษ และพลศึกษา ส่วนนาวาเอกพระประกอบกลกิจ ร.น. ยังคงรับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนต่อมา และเรือเอก หลวงสุรภัฎพิศิษฐ์ ร.น. เป็นอาจารย์ใหญ่เช่นเดิม เลขประจำตัว 1 เริ่มนับใหม่จากรุ่นนี้ (ไม่ได้นับเลขประจำตัวต่อจากนักเรียนโรงเรียนอาชีพช่างกล ซึ่งมี 78 คน) นักเรียนรุ่นนี้ส่วนใหญ่โอนมาจากนักเรียนอาชีพช่างกลรุ่นปี 2477 เพราะเรียนจบแล้วได้วุฒิจากกระทรวงศึกษา การแต่งกายของครูต้องสวมเสื้อนอก กระดุม 5 เม็ด กางเกงขายาว นักเรียนแต่งกาย 3 แบบ คือ แต่งกายนายสิบยุวชนทหาร กางเกงขาสั้น สวมถุงเท้ายาวสีดำรองเท้าดำ หรือแต่งเครื่องแบบลูกเสือสมุทรเสนา เหมือนจ่าทหารเรือแต่ใส่กางเกงขาสั้น และสวมเสื้อขาวแขนสั้น กางเกงขายาวสีน้ำเงิน
มกราคม พ.ศ. 2479 เรือเอกหลวงสุรภัฎพิศิษฐ์ ร.น. ย้ายไปรับราชการกรมเจ้าท่า เรือโทสมบุญ กายสุต ร.น. ทำหน้าที่รักษาการแทนอาจารย์ใหญ่
กลางปีนี้นาวาเอกพระประกอบกลกิจ ร.น. ผู้อำนวยการโรงเรียนต้องไปราชการประเทศญี่ปุ่น กองทัพเรือจึงมีคำสั่งที่ 42/79 ลงวันที่ 14 พฤษภาคม 2479 แต่งตั้งให้ พล.ร.ท. พระวิจิตรนาวี (แดง ลางคุณแสน) เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแทน และแต่งตั้งให้นาวาตรีหลวงกลกิจกำจร ร.น. (ถมยา รังคะกะลิน) เป็นอาจารย์ใหญ่ ในปีการศึกษานี้เปลี่ยนการเปิดเทอมต้นจากจันทร์แรกของเดือนสิงหาคม เป็นกลางเดือนพฤษภาคมเหมือนโรงเรียนทั่วไป และปีนี้นักเรียนโรงเรียนมัธยมอาชีพช่างกล ซึ่งเรียนหลักสูตร 2 ปี เรียนจบหลักสูตรและออกไปเป็นรุ่นแรกจำนวน 67 คน
กองทัพเรือยังคงให้ความอุปการะให้นักเรียนไปฝึกงานที่กรมอู่ทหารเรือ และจัดอาจารย์จากโรงเรียนนายทหารเรือเข้าสอบภาคทฤษฎี และวิชาอื่น ๆ อีกด้วย
พ.ศ. 2480 กระทรวงศึกษาธิการได้เปลี่ยนระเบียบรับนักเรียนใหม่ รับนักเรียนที่สอบวิชาสามัญชั้นมัธยมปีที่ 6 ได้ (เทียบปัจจุบันคือผู้ที่จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที 3) และเปลี่ยนหลักสูตรการศึกษาเป็น 3 ปี และยังไม่เก็บเงินค่าเล่าเรียนตามเดิม ในเดือนพฤศจิกายน 2480 นาวาตรี หลวงกลกิจกำจร ร.น. (ถมยา รังคะกะลิน) ย้ายไปรักษาราชการในตำแหน่งนายช่างใหญ่ โรงน้ำตาล จังหวัดลำปาง นาวาตรี ขุนประพุธพิชากล ร.น. (พุฒ นิยมตรุษ) รักษาราชการแทน
เดือนกุมภาพันธ์ 2481 นาวาตรี หลวงดำเนินนาวากล ร.น. (จันทร์ รัชตชาติ) มารับราชการในตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ ปีนี้เริ่มเก็บค่าเล่าเรียนปีละ 20 บาท แบ่งเก็บเป็น 3 ภาค ภาคต้น 6 บาท ภาคกลาง 6 บาท ภาคปลาย 8 บาท กระทรวงศึกษาธิการจัดงบประมาณเป็นค่าใช้สอยให้แก่โรงเรียนปีละ 3,500 บาท
รูปป้ายที่ระลึก มีข้อความว่า “โรงเรียนมัธยมอาชีพช่างกล นต.หลวงประพรรดิ์จักร์กิจ ให้เป็นสมบัติของโรงเรียน เมื่อพุทธศักราช 2479
โดยมีเรือกรรเชียงแปะไว้ให้ระลึกถึงสมัยที่เรียนอยู่ปากคลองตลาด ซึ่งต้องกรรเชียงเรือไปฝึกภาคปฎิบัติที่กรมอู่ทหารเรือทุกวัน
เนื่องจากวันที่ 1 สิงหาคม เป็นวันคล้ายวันสถาปนา ช่างกลปทุมวัน เลยนำข้อมูลเล็กๆๆ น้อยๆๆ มาเเชร์กันครับ ใครไม่พอใจ ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ