5 ขั้นตอนในการออกบูธสินค้า และ อุปกรณ์ออกบูธ สำหรับมือใหม่
ปัจจุบันนี้ยังมีผู้ประกอบการอีกมาก ได้กำลังมองหาสิ่งของหารโฆษณาสินค้าเพิ่มมากขึ้น โดยสาเหตุที่งานแสดงสินค้าทั้งในและต่างประเทศเป็นที่นิยมเนื่องจากเป็นกิจกรรมทางการตลาดที่เห็นผลตอบแทนชัดเจนกว่าและวัดผลได้ง่ายกว่าการโฆษณา การประชาสัมพันธ์หรือการตลาดประเภทอื่น ๆ โดยค้าใช้จ่ายของต่างๆ ในการซื้อ อุปกรณ์ออกบูธ หรือ ที่จะออกงานแสดงสินค้าที่ไม่ว่าจะเป็น ค่าเช่าต่างๆ ค่าตกแต่งต่างๆ ค่าจ้างพนักงาน เป็นต้น เราสามารถประเมินผลออกได้ชัดเจน อีกทั้งมีผลตอบแทนหรือการตอบรับของลูกค้า ก็สามารถได้เห็นยอดขายที่เราขายไปได้ และสามารถดูการสั้งซื้อหรือการขายและสามารถดูรายชื่อลูกค้าที่เข้ามาสนใจในสินค้าของบริษัทเรา ที่ผู้ประกอบการสามารถไปใช้ในการติดต่อธุรกิจภายหลังได้ แต่วันนี้เราจะมาบอกวิธีการสำหรับผู้ที่ไม่เคยออกแสดงสินค้า หรือ ออกบูธ นั้นอาจเป็นเรื่องยากที่จะประสบความสำเร็จในการ ออกบูธ ครั้งแรก แต่ก็ไม่ใช่ยากมากที่ผู้ประกอบธุระกิจจะทำมันไม่ได้ งั้นเรามาดูหัวข้อกันดีกว่า
1.การเลือกงานออกบูธที่สำคัญและเหมาะสมกับสินค้าเราหรือไม่
ในสิ่งแรกที่สำคัญที่สุด เนื่องจากการตัดสินใจไปร่วมงานของกลุ่มสินค้าไหนก็ตาม ผู้ประกอบการจะต้องศึกษาที่ไปที่มาก่อนเป็นอย่างดี เพราะงานแสดงสินค้าในแต่ละงานที่ชื่อจะมีคล้ายๆกันรวมอยู่ หรือไม่ก็เป็นสินค้าในลักษณะเดียวกก็ไปได้ แต่ต่างกันที่ผู้จัดงานนั้น อาจจะมีจำนวนเข้าชมงานมากน้อยแตกต่างกันไป หรือลักษณะของลูกค้าหรือความยิ่งใหญ่ของงานแต่ละงาน ในการประชาสัมพันธ์งานจะแตกต่างกัน เราจะต้องพิจารณาดูด้วยว่างาน แสดงสินค้า เกิดขึ้นมานานแล้วรึยัง หรือเพิ่งจะเริ่มมีมา ดังนั้นเราก่อนที่จะ ออกแสดงบูธ นั้นโดยเฉพาะเมื่อเรายังไม่มีประสบการณ์ในการอออกงานนั้นมาก่อน ก็ควรจะหาข้อมูลจากโบรชัวร์ หรือในทางอินเตอร์เน็ต
2.การเตรียมตัวก่อนที่จะออกบูธแสดงสินค้า
เราควรที่จะเริ่มด้วยการจัดเตรียมทีมงาน ซึ่งจะต้องมีกำหนดการและเป้าหมายก่อนที่จะไปออกงานแสดงบูธ เพื่อจุดประสงค์นั้น อย่างเช่น แนะนำสินค้า การสร้างตัวแทนจำหน่าย ขายธุรกิจ ขายสินค้า เป็นต้น จากนั้นก็จะต้องเตรียมตัวในส่วนของการ ออกแบบบูธ และ อุปกรณ์ออกบูธ ต่างๆ และ สินค้าค้าที่จะแนะนำลูกค้าที่จะมาเยียมชม บูธ หรือผู้ที่สนใจเข้ามาติดต่อ อาจจะต้องเตรียมใบกรอกข้อมูลลูกค้า หรือ แจกของที่ระลึก ให้กับผู้ที่มากรอกข้อมูล
3.การเตรียมความพร้อมทางด้านการเงิน
เรื่องนี้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวสำคัญที่ประกอบการที่ตะลืมไม่ได้ ไม่ที่จะเป็นการ ออกบูธ เพื่อแสดงสินค้า โชว์สิค้า หรือ ออกบูธ เพื่อขายสินค้า จะต้องมีค่าใช้จ่ายด้วยกันทั้งนั้น จะมากหรือน้อยก็ตาม มันก็ขึ้นอยู่ที่เราจะจัดแสดงสินค้า ค่าเช่าพื้นสำหรับแสดงสินค้า โดยนั้นเราจะต้องเตรียมสำหรับอย่างเช่น ค่าส่ง ค่าเช่าพื้นที่ ค่าตัวพนักงาน ค่าอาหาร และค่าวัสดุและอุปกรณ์ต่างๆ
4.การออกบูธในงานแสดงสินค้า
ถือเป็นขั้นตอนสำคัญของการ ออกบูธ ในงานแสดงสินค้า ในช่วงออกงานแสดงสินค้า ผู้ประกอบการต้องควรพยายามที่จะเก็บข้อมูลของลูกค้าที่เข้าสนใจมาเยี่ยมชมบูธของเราให้มากที่สุด เพื่อที่จะได้นำข้อมูลต่างเหล่านั้น กลับมาที่จะติดต่อลูกค้าห ลังจากจบงานแสดงสินค้า และอีกสิ่งหนึ่งผู้ออกงานควรที่จะทำเพิ่มเติม คือ เดินสำรวจภายในที่จัดแสดงสินค้า งานเพื่อศึกษาให้ทราบถึงสินค้า รูปแบบบูธต่างๆ ของคู่แข่ง หรือบริษัทอื่นๆทีเข้ามาร่วมงานกับเรา เพื่อให้เราแนวทางในการออกงานครั้งต่อไป
5.หลังจากออกบูธงานสินค้าแสดงสินค้าควรทำยังไงต่อ
หลังที่จากกลับจากงานแสดงสินค้า สิ่งที่ควรจะทำเป็นอย่างแรกคือ การส่งอีเมลขอขอบคุณลูกค้าที่เข้าเยี่ยมชมที่บูธของเรา และผู้เราให้นามบัตรไว้ เป็นต้น เพื่อเป็นข้อมูลในการติดต่อ และควรสรุปข้อมูลที่ได้มาทั้งหมด เพื่อไว้เป็นฐานข้อมูลสำหรับในการที่ออกบูธครั้งต่อไป จากนั้นก็ควรที่จะแบ่งกลุ่มของลูกค้า
5.1 กลุ่มลูกค้าที่โอกาสที่จะได้ร่วมงานกัน (แบบกลุ่มลูกค้าที่สนใจที่จะสั่งซื้อสินค้ากับเรา)
5.2 กลุ่มลูกค้าที่โอกาสที่จะได้ร่วมงานกัน (แบบกลุ่มลูกค้าที่สนใจแต่ยังไม่ตัดสินใจในสินค้ากับเรา)
5.3 กลุ่มลูกค้าที่ควรที่จะติดต่อกลับเพื่อทำความรู้จักทักทายกันเอาไว้ (แบบกลุ่มลูกค้าเหล่านี้เราอาจจะมีสิทธิที่ลูกค้าจะสั้งซื้อสินค้ากับเรา)
สิ่งที่้เราจะขาดไปไม่ได้อีกอย่าง คือ การสรุปผลลัพธ์ที่ได้จากการออกงานครั้งนี้ เราประสบผลสำเร็จเป็นไปตามจุดประสงค์ที่่้เราตั้งไว้หรือไม่ และมีสิ่งไหนที่ต้องแก้ไขรึป่าว เพื่อเราจะได้พัฒนาสำหรับการออกบูธครั้งต่อไป